โรม 12:1

เครื่องบูชาที่มีชีวิต

"พี่น้องทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้โดยเห็นแก่ความเมตตากรุณาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงวิงวอนท่านทั้งหลายให้ถวายตัวของท่านแด่พระองค์ เพื่อเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิตอันบริสุทธิ์และเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ซึ่งเป็นการนมัสการโดยวิญญาณจิตของท่านทั้งหลาย" (โรม 12:1)

ในพระธรรมโรม 9-11 อาจารย์เปาโลได้กล่าวถึงประเด็นที่ค่อนข้างหนัก ซึ่งกล่าวถึงความชอบธรรมของพระเจ้าแด่ชนชาติอิสราเอลและชาวต่างชาติ เป็นประเด็นสำคัญที่คนมักจะอ่านผ่าน ๆ โดยไม่ได้ใคร่ครวญ แต่แท้จริงแล้วเป็นพระธรรมตอนที่ทำให้เราเข้าใจถึงหลักศาสนศาสตร์สำคัญของการทรงเลือกของพระเจ้า (election) ว่าพระองค์ทรงเลือกสรรผู้ที่จะได้รับความรอด โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับการกระทำของเราเลย แต่เป็นพระคุณของพระเจ้าอย่างแท้จริง และทำให้เราทราบว่าแท้จริงแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นอยู่ภายใต้แผนการของพระเจ้า เพื่อให้ผู้ที่พระองค์ทรงเลือกไว้ ได้เข้าสู่ความรอดในที่สุด โดยทรงอนุญาตให้อิสราเอลหันออกจากทางพระองค์ อันเป็นเหตุให้ข่าวประเสริฐได้ไปถึงคนต่างชาติ เป็นวิธีที่มนุษย์อาจไม่เข้าใจ แต่ขอที่เราจะวางใจ ว่าแผนการพระองค์นั้นดีเลิศเสมอ

หลังจากที่อาจารย์เปาโลได้เขียนจบประเด็นในบทที่ 11 อาจารย์เปาโลก็ได้เต็มล้นด้วยความรู้สึกสรรเสริญพระเจ้าถึงแผนการของพระเจ้า ถึงประปัญญาของพระเจ้า แม้ว่ามนุษย์จะไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งหมด อาจารย์เปาโลจึงได้ปิดท้ายว่า

"33 โอ พระปัญญาและความรอบรู้ของพระเจ้านั้น ล้ำลึกเท่าใด ข้อตัดสินของพระองค์นั้นเหลือที่จะหยั่งรู้ได้ และทางของพระองค์ก็เหลือที่จะสืบเสาะได้

34 เพราะว่า ใครเล่ารู้พระทัยของพระเจ้า หรือใครเล่าเป็นที่ปรึกษาของพระองค์

35 หรือใครเล่าได้ถวายสิ่งหนึ่งสิ่งใดแก่พระองค์ ที่พระองค์จะต้องประทานตอบแทนให้แก่เขา

36 เพราะสิ่งสารพัดมาจากพระองค์ โดยพระองค์ และเพื่อพระองค์ ขอพระสิริจงมีแด่พระองค์สืบๆไปเป็นนิตย์ อาเมน" (โรม 11:33-36)

หลังจากที่อาจารย์เปาโลได้กล่าวถึงหลักศาสนศาสตร์ที่เข้มข้นมาตลอดตั้งแต่บทแรก จนจบบทที่ 11 อาจารย์เปาโลก็ได้เริ่มต้นบทที่ 12 ซึ่งเป็นบทที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคริสเตียนโดยตรง เกี่ยวข้องกับชีวิตคริสเตียนในเชิงปฏิบัติ ซึ่งเป็นลักษณะของชีวิตคริสเตียนที่พระเจ้าทรงประสงค์ที่จะให้เราเป็น อยากขอแนะนำลองศึกษาจากคำแบ่งปันเรื่อง Becoming R12 Christian และบทเรียน e-learning จากเวป LOTE ที่ http://www.livingontheedge.org/r12/surrender.php ซึ่งจากบทเรียนนี้ จะแบ่งประเด็นพระธรรมโรมบทที่ 12 นี้ออกเป็น 5 ส่วน ได้แก่

  • Surrender to God (โรม 12:1)

  • Separate from the World (โรม 12:2)

  • Sober in Self-assessment (โรม 12:3-8)

  • Serve in Love (โรม 12:9-13)

  • Supernaturally Respond to Evil (โรม 12:14-21)

จากพระธรรมโรม 12 อาจสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่

  • รากฐานของชีวิตคริสเตียนที่แท้จริง (โรม 12:1-2) เราจะต้องเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต และยอมรับการเปลี่ยนแปลง เพื่อที่จะไม่เป็นไปตามโลก

  • ของประทานแห่งพระคุณ (โรม 12:3-8) กล่าวถึงการถ่อมใจของคริสเตียน การเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้ความหลากหลายของชุมชนคริสเตียน และการใช้ของประทานต่าง ๆ

  • คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตคริสเตียน (โรม 12:9-21) ท่าทีที่คริสเตียนควรมี ทั้งต่อคริสเตียน และต่อคนอื่น ๆ

วันนี้จะขอศึกษาถึงเรื่อง เครื่องบูชาที่มีชีวิต

พระธรรมโรมข้อนี้ เป็นข้อที่คุ้นเคยกันดี แต่ขอที่เราจะมาพิจารณาอย่างละเอียด เพื่อเราจะดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้องตามน้ำพระทัยของพระเจ้า และเป็นสิ่งที่อาจารย์เปาโล "วิงวอน" ให้เรากระทำ เพราะท่านทราบชีวิตเช่นนี้แหละ ที่พระเจ้าทรงพอพระทัย

ตลอด 11 บทที่ผ่านมา อาจารย์เปาโลได้อธิบายให้เราเข้าใจถึงหลักศาสนศาสตร์ต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นความชอบธรรมโดยความเชื่อ การทรงเลือกและการพิพากษา ฯลฯ และอาจารย์เปาโลก็เริ่มส่วนต่อไป โดยสอนถึงท่าทีการตอบสนองที่ถูกต้อง เมื่อเราได้ทราบถึงหลักข้อเชื่อเหล่านั้นแล้ว

อาจารย์เปาโล ได้เริ่มต้นข้อเรียกร้อง โดยให้เราเห็นถึง "ความเมตตากรุณาของพระเจ้า" ก่อน

คำว่า "ความเมตตากรุณาของพระเจ้า" ตรงกับภาษาอังกฤษ คือคำว่า mercies ซึ่งเป็นคำที่ไม่ได้ใช้บ่อยนักในพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ คำ ๆ นี้ได้บ่งความหมายถึงความเมตตาของพระเจ้าที่ได้ทรงประทานพระเยซูคริสต์มาให้แก่มนุษย์ เพื่อผู้ที่เชื่อจะไม่ได้รับโทษจากการพิพากษา ซึ่งแท้จริงแล้วสิ่งที่เราสมควรจะได้รับ ก็คือความพินาศ แต่เพราะพระองค์ทรงเมตตาต่อเรา เราจึงรอดพ้นจากความตาย มาสู่ชีวิต และเมื่อเราทราบเช่นนี้แล้ว อาจารย์เปาโลจึงเรียกร้องให้เราถวายตัวแด่พระองค์

"จงสรรเสริญพระเจ้า พระบิดาแห่งพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา พระบิดาผู้ทรงความเมตตา พระเจ้าแห่งการปลอบประโลมใจทุกอย่าง" (2โครินธ์ 1:3)

ในพันธสัญญาเดิม เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องมีการถวายเครื่องบูชาต่าง ๆ โดยเฉพาะสัตวบูชา เนื่องจากชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิต และการถวายเครื่องบูชาก็เพื่อการชำระบาป แต่ทว่าเครื่องบูชาเหล่านั้น เป็นเพียงสิ่งที่สื่อความหมายถึงเครื่องบูชาที่สมบูรณ์แบบที่จะมีในอนาคต ซึ่งก็คือ องค์พระเยซูคริสต์เจ้า ด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่จำเป็นต้องกลับไปถวายเครื่องสัตวบูชาอีกต่อไป เราไม่จำเป็นต้องกลับไปสู่พันธสัญญาเก่าแล้ว เพราะว่าเรามีพันธสัญญาใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีกว่า เป็นสิ่งที่สมบูรณ์แบบกว่าแล้ว (คำว่า "ใหม่" ในที่นี้ ตามรากศัพท์ใช้คำว่า "kainos" ซึ่งไม่ได้กล่าวถึงในแง่ของกาลเวลา แต่กล่าวถึงในแง่ของคุณภาพ)

แต่ทั้งนี้ มิใช่หมายความว่าพันธสัญญาเก่าจะยกเลิก แต่เพียงพันธสัญญาใหม่ได้มาเติมเต็มให้พันธสัญญาเดิมสมบูรณ์แบบ ดังนั้นส่วนของพันธสัญญาเดิมที่ได้มีพันธสัญญาใหม่มาทดแทนแล้ว เราจึงไม่จำเป็นต้องกลับไปสู่พันธสัญญาเดิมอีก แต่ส่วนพันธสัญญาเดิมที่ไม่ได้มีการเติมเต็มด้วยพันธสัญญาใหม่ เราก็ยังจำเป็นที่จะต้องกระทำตาม

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราไม่จำเป็นต้องถวายเครื่องสัตวบูชา เนื่องจากเรามีองค์พระเยซูคริสต์เป็นเครื่องบูชาที่สมบูรณ์แบบแล้ว แต่พระเจ้าทรงเรียกร้องให้เราถวายชีวิตของเราเองเป็นเครื่องบูชาด้วยเช่นกัน

ในพระคัมภีร์เดิม การถวายสัตวบูชานั้น เป็นสิ่งที่จะต้องทำ เพื่อเป็นการเล็งถึงองค์พระเยซูคริสต์ นำมาซึ่งการไถ่บาป และเครื่องบูชาอื่น ๆ ก็จำเป็นจะต้องกระทำเพื่อเป็นการขอบพระคุณพระเจ้า และเป็นการแสดงการยำเกรงต่อพระเจ้า ผู้ที่ถวายจะต้องถวายอย่างสิ้นเชิง นั่นคือสิ่งที่เขาถวายจะไม่เป็นกรรมสิทธิ์ของเขาอีกต่อไป เขาไม่สามารถเรียกร้องสิทธิเหนือสิ่งที่ถวายเหล่านั้นได้ และสิ่งที่เราถวายนั้นจะต้องถูกใช้เพื่อพระเกียรติของพระเจ้าเท่านั้น

เช่นเดียวกัน การถวายชีวิตเป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้านั้น เราจำเป็นต้องอุทิศตัวของเราเพื่อพระเจ้า ชีวิตเราจะต้องไม่เป็นของตัวเราเองแล้ว แต่ชีวิตเราอยู่เพื่อให้พระเจ้าทรงใช้ เพื่อที่จะทำตามสิ่งที่พระเจ้าทรงบัญชา และเพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์

ลักษณะของเครื่องบูชาที่อาจารย์เปาโลเรียกร้องให้เราเป็น ได้แก่ เป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต บริสุทธิ์ และเป็นที่พอพระทัย

1. เป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต

สิ่งที่เราต่างจากสัตวบูชา คือ เราจะต้องเป็นเครื่องบูชา "ที่มีชีวิต" สัตว์ที่ถูกฆ่าเหล่านั้นสามารถนำมาถวายแด่พระเจ้าได้เพียงครั้งเดียว เพราะเมื่อตายแล้ว ก็ไม่สามารถนำมาถวายพระเจ้าได้อีก แต่ว่าเราเป็น "เครื่องบูชาที่มีชีวิต" นั่นหมายความว่าเราจำเป็นจะต้องถวายแด่พระองค์ด้วยสุดแรงกายแรงใจ รับใช้พระองค์อย่างเต็มที่ และรับใช้ตลอดชีวิตของเรา

2. เป็นเครื่องบูชาที่บริสุทธิ์

เครื่องบูชาที่นำมาถว่ายแด่พระเจ้านั้น จะต้องไม่มีตำหนิใด ๆ ทั้งสิ้น ชาวยิวไม่สามารถที่จะถวายเครื่องบูชาที่ไม่สมบูรณ์แบบได้

"แต่ถ้าสัตว์นั้นมีตำหนิใดๆคือขาเกหรือตาบอด หรือมีตำหนิเลวร้ายอย่างใด ท่านอย่าถวายบูชาแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน" (เฉลยธรรมบัญญัติ 15:21)

คำว่า "บริสุทธิ์" นั้นคือ "การถูกแยกออก" นั่นคือ ชีวิตของเราจะต้องถูกแยกออกเพื่อพระเจ้าเท่านั้น เราจึงจะเป็นเครื่องบูชาที่บริสุทธิ์

ขอที่เราจะมีหลักในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง และที่เราจะตระหนักอยู่เสมอว่าชีวิตของเราเป็นของพระเจ้า เราจะต้องใช้ชีวิตเพื่อพระเจ้า ขอที่เราจะรับใช้พระเจ้าเมื่อยังมีกำลังอยู่ เมื่อยังมีสุขภาพที่แข็งแรงอยู่ อย่าให้เรารับใช้เพียงเมื่อเราทำอะไรอย่างอื่นไม่ได้แล้ว หรืออย่ารอให้เกษียณแล้วจึงรับใช้พระเจ้า แต่ให้เรารับใช้พระเจ้าในทุกโอกาส เพราะชีวิตของเราถูกแยกออกเพื่อพระเจ้าแล้ว เราจะไม่สามารถรับใช้สิ่งอื่น ๆ ได้อีกต่อไป และที่สำคัญ ชีวิตของเราจะต้องปราศจากบาปด้วย

3. เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า

เราจะต้องรู้ว่า สิ่งใดที่พระเจ้าพอพระทัยและสิ่งใดที่พระองค์ไม่ทรงพอพระทัย เพราะเราไม่สามารถถวายสิ่งที่พระเจ้าไม่พอพระทัยได้ เพราะพระเจ้าจะมิทรงรับสิ่งที่เราถวายเหล่านั้นแน่นอน ดังนั้น เราจะต้องระมัดระวัง สิ่งใดที่พระเจ้ามิได้ให้เราทำ ถ้าเราทำ ก็จะไม่มีประโยชน์

"20 ถ้าท่านตายกับพระคริสต์พ้นจากวิญญาณต่างๆแห่งสากลจักรวาลแล้ว เหตุไฉนท่านจึงมีชีวิตอยู่เหมือนกับว่าท่านยังอยู่ฝ่ายโลก ยอมอยู่ใต้บัญญัติต่างๆอันเป็นหลักธรรมและคำสอนของมนุษย์

21 เช่น “อย่าเอามือหยิบ” “อย่าชิม” “อย่าแตะต้อง” เป็นต้น

22 คือกล่าวถึงสิ่งที่ต้องพินาศเมื่อใช้มัน

23 จริงอยู่สิ่งเหล่านี้ดูท่าทีมีปัญญา คือการเต็มใจนมัสการ การถ่อมตัวลงและการทรมานกาย แต่ไม่มีประโยชน์อะไรในการต่อสู้กับความต้องการของเนื้อหนัง" (โคโลสี 2:20-23)

เราไม่จำเป็นจะต้องคิดค้นการรับใช้อะไรใหม่ ๆ หรือแสวงหาการทดลองและการข่มเหง สิ่งที่เราจำเป็นต้องทำ ก็คือ สิ่งที่เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า หรือที่พระเจ้าทรงยอมรับเท่านั้น เราไม่จำเป็นต้องทำเพื่อให้มนุษย์พอใจ เพราะมนุษย์คิดอย่างไรไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับชีวิตของเรา แต่เราควรจะทำในสิ่งที่พระเจ้าทรงให้เราทำ การทำให้พระเจ้าพอพระทัยจะต้องเป็นเป้าหมายสูงสุดในการดำเนินชีวิตของเรา ดังที่อาจารย์เปาโลได้เขียนว่า

"9 เหตุฉะนั้นเราตั้งเป้าของเราว่า จะอยู่ในกายนี้ก็ดีหรือไม่อยู่ก็ดี เราก็จะทำตัวให้เป็นที่พอพระทัยของพระองค์

10 เพราะว่าจำเป็นที่เราทุกคนจะต้องปรากฏตัวที่หน้าบัลลังก์ของพระคริสต์ เพื่อทุกคนจะได้รับสมกับการที่ได้ประพฤติในร่างกายนี้ แล้วแต่จะดีหรือชั่ว" (2โครินธ์ 5:9-10)

ถ้าหากว่าเราถวายชีวิตของเรา เป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิตอันบริสุทธิ์ และเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าแล้ว การดำเนินชีวิตของเราก็จะเป็น "การนมัสการโดยวิญญาณจิต"

"การนมัสการโดยวิญญาณจิต" นั้น ภาษาอังกฤษบางฉบับ จะใช้คำว่า "การปรนนิบัติอย่างสมเหตุผล" (reasonable service ใน KVJ) นั่นหมายความว่า เราจะต้องปรนนิบัติพระเจ้าด้วยจิตวิญญาณและด้วยความเข้าใจ พระเจ้าไม่ได้ทรงกำหนดให้เราทำในสิ่งที่ไม่มีเหตุผล แต่ทั้งหมดที่พระองค์ทรงให้เราทำ ก็เพื่อเหตุผลที่ถูกต้องที่สุด แม้ว่าเราจะไม่เข้าใจเหตุผลก็ตาม

นอกจากนี้ ในภาษากรีก คำว่า reasonable (logikos) อาจจะแปลได้ว่า "ด้วยพระวจนะ" หรือ "of the word" นั้นหมายความว่า การรับใช้ของเราจะต้องเป็นไปด้วยพระวจนะ

การนมัสการ ในพระคัมภีร์เดิมนั้น ได้เน้นถึงการถวายเครื่องสัตวบูชาในพระวิหาร แต่ในตรงนี้ อาจารย์เปาโลได้กล่าวถึงการนมัสการโดยวิญญาณจิต ซึ่งตามความเข้าใจจากบริบท ก็คือ การที่เราถวายชีวิตของเราทั้งหมดแด่พระเจ้านั่นเอง ไม่ได้จำกัดเพียงแค่การนมัสการที่คริสตจักรเท่านั้น

"15 เหตุฉะนั้น ให้เราถวายคำสรรเสริญเป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้าตลอดไป โดยทางพระองค์นั้น คือคำกล่าวยอมรับเชื่อพระนามของพระองค์

16 จงอย่าละเลยที่จะกระทำการดี และจงแบ่งปันข้าวของซึ่งกันและกัน เพราะเครื่องบูชาอย่างนั้นเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า" (ฮีบรู 13:15-16)

(แต่ส่วนในพระคัมภีร์ใหม่ตอนอื่น ๆ ได้มีการกล่าวถึงคำว่า "การนมัสการ" ในความหมายที่แคบขึ้น นั่นคือ เป็นการกระทำที่เป็นการสรรเสริญและยกย่อง)

ธีรยสถ์ นิมมานนท์
ชั้นศึกษาพระคัมภีร์ ์สำหรับอนุชน คริสตจักรสะพานเหลือง
11/10/2009

  • โรม 3:19-31
    ธรรมบัญญัติ ความชอบธรรม และความเชื่อ

  • โรม 4:1-8
    ความชอบธรรม: ตัวอย่างของอับราฮัมและดาวิด

  • โรม 4:9-12
    ความชอบธรรม VS การเข้าสุหนัด

  • โรม 4:13-22
    แบบอย่างของความเชื่อ

  • โรม 4:23-25
    การถูกนับว่าชอบธรรม

  • โรม 12:1
    เครื่องบูชาที่มีชีวิต

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com