15. การปฏิบัติของนักบวชที่ดี

การปฏิบัติของนักบวชที่ดี

ชีวิตของนักบวชที่ดี ควรจะเต็มบริบูรณ์ด้วยคุณธรรมทุกอย่าง เพื่อภายนอกต่อหน้าผู้อื่นเป็นอย่างไร ภายในตัวเขาก็จะเป็นอย่างนั้น ที่จริงภายในตัวเขาน่าจะมีคุณธรรมดีมากกว่าที่ปรากฎภายนอกเสียอีก เพราะผู้ที่มองดูภายในจิตใจของเราก็คือพระเจ้า ซึ่งเป็นผู้ที่เราควรเคารพยำเกรงมากที่สุด ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็ตาม และเราจะต้องดำเนินชีวิตจำเพาะพระพักตร์พระองค์ให้บริสุทธิ์เหมือนกับเหล่าทูตสวรรค์

เราควรรื้อฟื้นความตั้งใจของเราขึ้นใหม่ทุก ๆ วัน และกระตุ้นใจตัวเองให้ร้อนรน เหมือนกับว่าวันนั้นเป็นวันแรกที่เรากลับใจใหม่ และกล่าวว่า "ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์ทรงโปรดช่วยข้าพระองค์ในความตั้งใจดีของข้าพระองค์ และในการรับใช้อันบริสุทธิ์ของพระองค์ ขอพระองค์ทรงโปรดประทานให้ข้าพระองค์เดี๋ยวนี้ ในวันนี้แหละที่จะเริ่มต้นงานอย่างครบถ้วนบริบูรณ์ เพราะก่อนหน้านี้ข้าพระองค์ยังไม่ได้ทำอะไรเลย"

ความก้าวหน้าของเราขึ้นอยู่กับเจตนารมณ์ของเรา และผู้ที่ปรารถนาจะเป็นคนดีสมบูรณ์แบบ ก็ต้องเป็นคนขยันมาก ๆ ถ้าคนที่มีเจตนารมณ์แน่วแน่ยังมักจะผิดพลาดบ่อย ๆ คนที่ไม่ค่อยกล้าตัดสินใจ หรือตัดสินใจครึ่ง ๆ กลาง ๆ จะเป็นอย่างไร มีหลายวิธีที่จะทำให้การยืนหยัดของเราล้มเหลวไป แม้แต่การละเลยการปฏิบัติศาสนกิจเพียงเล็กน้อยก็จะนำไปถึงความเสียหายอย่างใดอย่างหนึ่ง

คนชอบธรรมพึ่งพาอาศัยพระคุณของพระเจ้ามากกว่าสติปัญญาของตนเองในการปฏิบัติตามความตั้งใจของตน เขามอบกิจการทุกอย่างไว้กับพระองค์ เพราะที่จริงแล้วมนุษย์เป็นผู้วางแผนงาน แต่พระเจ้าทรงเป็นผู้ดำเนินการ และทางของพระเจ้าก็ไม่ตรงกับทางของมนุษย์ ถ้าหากในบางครั้งเราละเว้นสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ทำเป็นกิจวัตรเพราะเหตุที่เกี่ยวกับฝ่ายวิญญาณ หรือเพราะเห็นแก่พี่น้อง เราจะกลับมาทำอย่างที่เคยทำมาได้ไม่ยาก แต่ถ้าเราละทิ้งสิ่งนั้นอย่างไม่เอาใจใส่เพราะความเหน็ดเหนื่อยหรือความสะเพร่า ก็ย่อมจะมีความผิดมาก และมีผลเสียหายตามมา แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่เราก็ยังผิดพลาดในหลายสิ่งหลายอย่างได้ง่าย ๆ อย่างไรก็ดี เราต้องมีเป้าหมายที่กำหนดไว้แน่นอนสักอย่างหนึ่งเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อต่อสู้กับสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นจุดอ่อนที่สุดของเรา เราต้องดูแลชีวิตทั้งภายนอกและภายในอย่างใกล้ชิด และจัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะทั้งสองสิ่งล้วนมีวามสำคัญต่อการบรรลุถึงความดีรอบคอบ

ถ้าคุณไม่สามารถตรวจดูตัวเองได้ตลอดเวลา ก็ให้ทำวันละครั้งเป็นอย่างน้อย จะตอนเช้าหรือตอนเย็นก็ได้ ตอนเช้าให้ตัดสินใจว่าจะทำอะไร ส่วนตอนเย็นให้พิจารณาตัวเองว่า วันนี้คุณได้พูดอะไร ทำอะไร และคิดอะไรไปบ้าง เพราะบางทีคุณก็มักทำผิด ทำผิดต่อพระเจ้าและคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ตัวคุณด้วยสิ่งเหล่านี้

จงสวมยุทธภัณฑ์อย่างชายฉกรรจ์เพื่อต่อต้านการโจมตีของมาร จงควบคุมความหิวกระหายของคุณ แล้วคุณจะสามารถควบคุมความปรารถนาของเนื้อหนังทุกอย่างได้ง่ายขึ้น อย่าปล่อยตัวให้ว่าง แต่จงอ่านหรือเขียนหนังสือ หรืออธิษฐาน หรือใคร่ครวญภาวนา หรือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม แต่การใช้วินัยปราบปรามร่างกายนั้น ควรทำอย่างระมัดระวัง และไม่ใช่สิ่งที่ทุก ๆ คนต้องทำโดยเสมอหน้ากัน

การอธิษฐานนมัสการแบบที่ไม่ได้ทำกันทุกคน เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำในที่สาธารณะให้คนอื่นเห็น เพราะสิ่งที่เป็นเรื่องส่วนตัวเช่นนี้ ควรจะทำเมื่ออยู่ตามลำพังจะดีกว่า อีกประการหนึ่ง จงระวังที่จะไม่เพิกเฉยต่อการอธิษฐานกันเป็นกลุ่ม อันเนื่องมาจากความชื่นชอบการเฝ้าเดี่ยวเป็นส่วนตัว ทว่า ถ้าหากว่าหลังจากที่คุณได้ทำทุกสิ่งที่คุณควรทำ และได้รับคำสั่งให้ทำอย่างครบถ้วนและสัตย์ซื่อแล้ว และคุณยังมีเวลาว่างเหลืออยู่ ก็จงใช้เวลานั้นตามแต่ทีความรักที่คุณมีต่อพระเจ้าจะดลใจ

พวกเราแต่ละคนจะอธิษฐานนมัสการตามแบบเดียวกันหมดไม่ได้ แบบหนึ่งอาจจะเหมาะกับคนนี้ ขณะที่อีกแบบหนึ่งก็เหมาะกับคนนั้น ในทำนองเดียวกัน ศาสนกิจต่าง ๆ ก็เหมาะสมกับวาระต่าง ๆ กันไป บางอย่างสำหรับวันเทศกาล บางอย่างสำหรับวันธรรมดากลางสัปดาห์ ในยามที่เราถูกทดลองเราต้องการอธิษฐานแบบหนึ่ง ในวันที่เรารู้สึกสบายใจและมีสันติสุขเราก็ต้องการอีกแบบหนึ่ง บางแบบก็เหมาะเมื่อเรารู้สึกโศกเศร้า แบบอื่น ๆ เหมาะเมื่อเรามีความปีติยินดีในองค์พระผุ้เป็นเจ้า

เมื่อถึงช่วงของเทศกาลสำคัญ ๆ เราควรรื้อฟื้นวิธีนมัสการที่ดี และขอร้องให้ธรรมิกชนอธิษฐานอ้อนวอนเพื่อคนอื่น ๆ ด้วยใจร้อนรนมากยิ่งขึ้น ในระหว่างวันเทศกาลหนึ่งจนถึงวันเทศกาลถัดไป เราควรตั้งเป้าหมายของเราไว้อย่างแน่วแน่ เหมือนกับว่าในวันนั้นเราจะจากโลกนี้ และเข้าสู่วันเทศกาลนิรันดร์

สุดท้าย ในช่วงฤดูกาลศักดิ์สิทธิ์นั้น เราควรเตรียมตัวเราด้วยความเอาใจใส่ เพื่อที่จะดำเนินชีวิตอย่างบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น เหมือนกับว่าในไม่ช้าเราจะได้รับบำเหน็จสำหรับการงานของเราจากพระเจ้า ถ้าหากยังไม่เป็นไปตามนั้น ขอให้เราเชื่อว่าเรายังเตรียมตัวไม่เพียงพอและยังไม่สมควรสำหรับพระสิริอันยิ่งใหญ่ที่จะปรากฎแก่เราในเวลาที่กำหนด ในขณะที่คอยอยู่ ให้เราพยายามเตรียมตัวให้ดีกว่าเดิม เพื่อพร้อมเผชิญความตาย

"42 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า 'ใครเป็นคนต้นเรือนสัตย์ซื่อและฉลาด ที่นายได้ตั้งไว้เหนือพวกคนใช้สำหรับแจกอาหารตามเวลา

43 เมื่อนายมาพบเขากระทำอยู่อย่างนั้น บ่าวผู้นั้นก็จะเป็นสุข

44 เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า นายจะตั้งเขาไว้ให้ดูแลบรรดาข้าวของของท่าน' " (ลูกา 12:42-44 ThaiTSV2002)

หนังสือ เลียนแบบพระคริสต์ (Of The Imitation of Christ)
เขียนโดย โธมัส อาเคมพิส (Thomas à Kempis)
แปลโดย พญ. เออร์ซูลา โลเวนธอล
เรียบเรียงโดย กนกบรรณสาร

ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com