พระคำนำพระพร

หมวดความรอด

เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์ (ยอห์น 3:16)

ด้วยว่าซึ่งเราทั้งหลายรอดนั้น ก็รอดโดยพระคุณ เพราะความเชื่อ และมิใช่โดยตัวเราทั้งหลายกระทำเอง แต่พระเจ้าทรงประทานให้ ความรอดนั้นจะเนื่องด้วยการกระทำก็หามิได้ เพื่อมิให้คนหนึ่งคนใดอวดได้ (เอเฟซัส 2:8-9)

เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งสารพัดที่เก่า ๆ ก็ล่วงไป นี่แน่ะ กลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น (2โครินธ์ 5:17)

คือว่าถ้าท่านจะรับด้วยปากของท่านว่าพระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า และเชื่อในจิตใจว่าพระเจ้าได้ทรงชุบพระองค์ให้เป็นขึ้นมาจากความตาย ท่านจะรอด (โรม 10:9)


หมวดความเชื่อ

แต่ถ้าไม่มีความเชื่อแล้ว จะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าก็ไม่ได้เลย เพราะว่าผู้ที่จะมาเฝ้าพระเจ้าได้นั้น ต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงดำรงพระชนม์อยู่ และพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานบำเหน็จให้แก่ทุกคนที่แสวงหาพระองค์ (ฮีบรู 11:6)

พระเยซูตรัสว่า "ฝ่ายมนุษย์ก็เหลือกำลังที่จะทำได้ แต่ไม่เหลือกำลังของพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงกระทำให้สำเร็จได้ทุกสิ่ง" (มาระโก 10:27)

จงมอบทางของท่านไว้กับพระเจ้า วางใจในพระองค์ และพระองค์จะทรงกระทำให้สำเร็จ (สดุดี 37:5)

จงละความกระวนกระวายของท่านไว้กับพระองค์ เพราะว่าพระองค์ทรงห่วงใยท่านทั้งหลาย (1เปโตร 5:7)

คนที่อดทนต่อการทดลองใจก็เป็นสุข เพราะเมื่อปรากฎว่าผู้นั้นทนได้แล้ว เขาจะได้รับมงกุฎแห่งชีวิตซึ่งพระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้แก่คนทั้งหลายที่รักพระองค์ (ยากอบ 1:12)


หมวดพระสัญญา

เราสั่งเจ้าไว้แล้วมิใช่หรือว่า จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่าตกใจหรือคร้ามกลัวเลย เพราะว่าเจ้าไปในถิ่นฐานใด พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทรงสถิตกับเจ้า (โยชูวา 1:9)

บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข (มัทธิว 11:28)

ไม่มีการทดลองใด ๆ เกิดขึ้นกับท่าน นอกเหนือจากการทดลองซึ่งเคยเกิดขึ้นกับมนุษย์ทั้งหลาย พระเจ้าทรงสัตย์ธรรม พระองค์จะไม่ทรงให้ท่านต้องถูกทดลองเกินกว่าที่ท่านจะทนได้ และเมื่อท่านถูกทดลองนั้น พระองค์จะทรงโปรดให้ท่านมีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้ด้วย เพื่อท่านจะมีกำลังทนได้ (1โครินธ์ 10:13)

พระเยซูตรัสกับเธอว่า เราเป็นเหตุให้คนทั้งปวงเป็นขึ้นและมีชีวิต ผู้ที่วางใจในเรานั้น ถึงแม้ว่าเขาตายแล้ว ก็จะยังมีชีวิตอีก (ยอห์น 11:25)

พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า จงนำทศางค์เต็มขนาดมาไว้ในคลัง เพื่อว่าจะมีอาหารในนิเวศของเรา จงลองดูเราในเรื่องนี้ดูทีหรือว่าเราจะเปิดหน้าต่างในฟ้าสวรรค์ให้เจ้า และเทพรอย่างล้นไหลมาให้เจ้าหรือไม่ (มาลาคี 3:10)

หมวดพระคำ

พระคัมภีร์ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า และเป็นประโยชน์ในการสอน การตักเตือนว่ากล่าว การปรับปรุงแก้ไขคนให้ดี และการอบรมในทางธรรม เพื่อคนของพระเจ้าจะพรักพร้อมที่จะกระทำการดีทุกอย่าง (2ทิโมธี 3:16-17)

พระวจนะของพระองค์เป็นโคมสำหรับเท้าของข้าพระองค์ และเป็นความสว่างแก่มรรคาของข้าพระองค์ (สดุดี 119:105)

ข้าพระองค์ได้สะสมพระดำรัสของพระองค์ไว้ในใจของข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะไม่ทำบาปต่อพระองค์ (สดุดี 119:11)

หมวดการอธิษฐาน

จงทูลเรา และเราจะตอบเจ้า และจะบอกสิ่งที่ใหญ่ยิ่งและที่ซ่อนอยู่ ซึ่งเจ้าไม่รู้นั้นให้แก่เจ้า (เยเรมีย์ 33:3)

เมื่อเขาร้องทูลเรา เราจะตอบเขา เราจะอยู่กับเขาในยามลำบาก เราจะช่วยเขาให้พ้นและให้เกียรติเขา (สดุดี 91:15)

ถ้าประชากรของเรา ผู้ซึ่งเขาเรียกกันโดยชื่อของเรานั้นถ่อมตัวลง และอธิษฐาน และแสวงหาหน้าของเรา และหันเสียจากทางชั่วของเขา เราก็จะฟังจากสวรรค์ และจะให้อภัยแก่บาปของเขา และจะรักษาแผ่นดินของเขาให้หาย (2พงศาวดาร 7:14)

ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำเราเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น (1ยอห์น 1:9)

หมวดการหนุนใจ

อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า อย่าขยาดเพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า เราจะหนุนกำลังเจ้า เออ เราจะช่วยเจ้า เออ เราจะชูเจ้าด้วยมือขวาอันมีชัยของเรา (อิสยาห์ 41:10)

อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใด ๆ เลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้า ซึ่งเกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์ (ฟิลิปปี 4:6-7)

พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัย และเป็นกำลังของข้าพระองค์ทั้งหลาย เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมอยู่ในยามยากลำบาก (สดุดี 46:1)

เรารู้ว่าพระเจ้าทรงช่วยคนที่รักพระองค์ ให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง คือคนทั้งปวงที่พระองค์ได้ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์ (โรม 8:28)

เพราะว่าพระเจ้ามิได้ทรงประทานจิตที่ขาดกลัวให้เรา แต่ได้ทรงประทานจิตที่กอปรด้วยฤทธิ์ความรัก และการบังคับตนเองให้แก่เรา (2ทิโมธี 1:7)

ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้เสริมกำลังข้าพเจ้า (ฟิลิปปี 4:13)

ไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใด ก็จงทำด้วยความเต็มใจ เหมือนกระทำถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่เหมือนกระทำแก่มนุษย์ (โคโลสี 3:23)

อย่าให้เราเมื่อยล้าในการทำดี เพราะว่าถ้าเราไม่ท้อใจแล้ว เราก็จะเกี่ยวเก็บในเวลาอันสมควร (กาลาเทีย 6:9)

หมวดการดำเนินชีวิต

พระเยซูทรงตอบเขาว่า "จงรักพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าของเจ้า ด้วยสุดใจสุดจิตของเจ้า และด้วยสิ้นสุดความคิดของเจ้า จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง" (มัทธิว 22:37-39)

เราให้บัญญัติใหม่ไว้แก่เจ้าทั้งหลาย คือให้เจ้ารักซึ่งกันและกัน เรารักเจ้าทั้งหลายมาแล้วอย่างไร เจ้าจงรักกันและกันด้วยอย่างนั้น ถ้าเจ้าทั้งหลายรักกันและกัน ดังนี้แหละคนทั้งปวงก็จะรู้ได้ว่าเจ้าทั้งหลายเป็นสาวกของเรา (ยอห์น 13:34-35)

ลูกทั้งหลายเอ๋ย อย่าให้เรารักกันด้วยคำพูดและด้วยปากเท่านั้น แต่จงรักกันด้วยการกระทำ และด้วยความจริง (1ยอห์น 3:18)

จงวางใจในพระเจ้าด้วยสุดใจของเจ้า และอย่าพึ่งพาความรอบรู้ของตนเอง จงยอมรับรู้พระองค์ในทุกทางของเจ้า และพระองค์จะทรงกระทำให้วิถีของเจ้าราบรื่น อย่าคิดว่าตนฉลาด จงยำเกรงพระเจ้า และหันจากความชั่วร้าย (สุภาษิต 3:5-7)

จงชื่นบานอยู่เสมอ จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละ เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าซึ่งปรากฎอยู่ในพระเยซูคริสต์ เพื่อท่านทั้งหลาย (1เธสะโลนิกา 5:16-18)

ฝ่ายผลของพระวิญญาณนั้น คือความรัก ความปลาบปลื้มใจ สันติสุข ความอดกลั้นใจ ความปรานี ความดี ความสัตย์ซื่อ ความสุภาพอ่อนน้อม การรู้จักบังคับตน เรื่องอย่างนี้ ไม่มีธรรมบัญญติห้ามไว้เลย (กาลาเทีย 5:22-23)

บำเหน็จของความถ่อมใจและความยำเกรงพระเจ้า คือความมั่งคั่ง เกียรติ และชีวิต (สุภาษิต 22:4)

อย่าให้ผู้ใดหมิ่นประมาทความหนุ่มแน่นของท่าน แต่จงเป็นแบบอย่างแก่คนที่เชื่อทั้งปวง ทั้งในทางวาจา และการประพฤติ ในความรัก ในความเชื่อ และในความบริสุทธิ์ (1ทิโมธี 4:12)

อย่าทำสิ่งใดในทางชิงดีกันหรือถือดี แต่จงมีใจถ่อม ถือว่าคนอื่นดีกว่าตัว (ฟิลิปปี 2:3)

ท่านทั้งหลายก็เห็นแล้วว่า ความเชื่อมีกำลังร่วมกับการประพฤติตามของท่าน และความเชื่อนั้นจะบริบูรณ์ด้วยการประพฤติ (ยากอบ 2:22)

พระองค์ทรงเป็นใหญ่ ในการให้คำปรึกษา ทรงฤทธานุภาพในพระราชกิจ พระเนตรของพระองค์เห็นทุกวิถีทางของมนุษย์ ประทานรางวัลแก่ทุกคนตามพฤติการณ์ของเขา และตามผลแห่งการกระทำของเขา (เยเรมีย์ 32:19)

หมวดพิเศษ

1. คำอธิษฐานของพระเยซู

ข้าแต่พระบิดา แห่งข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้ทรงสถิตในสวรรค์ ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไร ก็ให้เป็นอย่างนั้นในแผ่นดินโลก ขอทรงโปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย ในกาลวันนี้ และขอทรงโปรดยกบาปผิดของข้าพระองค์ เหมือนข้าพระองค์ยกโทษผู้ที่ทำผิดต่อข้าพระองค์นั้น และขออย่านำข้าพระองค์เข้าไปในการทดลอง แต่ขอให้พ้นจากซึ่งชั่วร้าย เหตุว่าราชอำนาจและฤทธิ์เดช และพระสิริเป็นของพระองค์ สืบ ๆ ไปเป็นนิตย์ อาเมน

2. หลักข้อเชื่อของอัครธรรมฑูต

"ข้าพเจ้าเชื่อวางใจในพระเจ้า พระบิดาผู้ทรงฤทธิ์ที่สุด ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และโลก ข้าพเจ้าเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ พระบุตรองค์เดียวของพระบิดา ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ทรงปฏิสนธิโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทรงกำเนิจจากมารีย์สาวพรหมจารี ทรงทนทุกข์ทรมาน ในสมัยที่ปอนทิอัสปิลาตปกครอง ทรงถูกตรึงที่กางเขน ทรงมรณา ทรงถูกบรรจุไว้ในอุโมงค์ เสด็จลงสู่แดนมรณา ในวันที่สามทรงคืนพระชนม์ พระองค์เสด็จขึ้นสรรค์ประทับ ณ เบื้องขวาของพระเจ้า พระบิดาผู้ทรงฤทธิ์ที่สุด จากที่นั่นพระองค์จะเสด็จมาพิพากษาคนเป็นและคนตาย

ข้าพเจ้าเชื่อวางใจในพระวิญญาณบริสุทธิ์ และเชื่อมั่นในสากลคริสตจักรบริสุทธิ์ ในการร่วมสมานฉันท์ระหว่างธรรมิกชน การอภัยโทษบาป การที่กายคืนชีพ และสมบูรณ์ชีพนิรันดร์" อาเมน

3. การดำเนินชีวิตคริสเตียน (โรม 12:9-18)

จงรักด้วยใจจริง จงเกลียดชังสิ่งที่ชั่ว จงยึดมั่นในสิ่งที่ดี จงรักกันฉันพี่น้อง ส่วนการที่ให้เกียรติแก่กันและกันนั้น จงถือว่าผู้อื่นดีกว่าตัว อย่าอ่อนระอา จงมีจิตใจกระตือรือร้นด้วยพระวิญญาณ จงปรนนิบัติองค์พระผู้เป็นเจ้า จงชื่นชมยินดีในความหวัง จงอดทนต่อความยากลำบาก จงขะมักเขม้นอธิษฐาน จงเห็นอกเห็นใจ ช่วยธรรมิกชนเมื่อเขาขัดสน จงมีน้ำใจอัธยาศัยไมตรี

จงอวยพรแก่คนที่เคี่ยวเข็ญท่าน จงให้พรอย่าแช่งด่าเลย จงชื่นชมยินดีกับผู้ที่มีความชื่นชมยินดี จงร้องไห้กับผู้ที่ร้องไห้ จงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อย่าใฝ่สูง แต่จงถ่อมใจลงยอมทำการต่ำ อย่าถือว่าตัวฉลาด อย่าทำชั่วตอบแทนชั่วแก่ผู้หนึ่งผู้ใดเลย แต่จงมุ่งกระทำสิ่งที่ใคร ๆ ก็เห็นว่าดี ถ้าเป็นไปได้คือเท่าที่เรื่องขึ้นอยู่กับท่าน จงอยู่อย่างสงบกับทุกคน

4. ความรัก (1โครินธ์ 13:4-8)

ความรักนั้นก็อดทนนาน และกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่ยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ ความรักทนได้ทุกอย่าง แม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง ความรักไม่มีวันสูญสิ้น

5. คำอธิษฐานของเซนต์ฟรานซิส แห่งอาซิซี

ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้ข้าพระองค์เป็นเครื่องมือแห่งสันติของพระองค์

ที่ใดมีการเกลียดชัง ให้ข้าพระองค์หว่านความรัก

ที่ใดมีการบาดหมาง ให้หว่านการยกโทษ

ที่ใดมีการแตกร้าว ให้หว่านสามัคคีธรรม

ที่ใดมีการสงสัย ให้หว่านความเชื่อ

ที่ใดมีความว้าวุ่นท้อถอย ให้หว่านความหวัง

ที่ใดมีความโศกเศร้า ให้หว่านความยินดี

โอ้ข้าแต่พระอาจารย์

อย่าให้ข้าพระองค์แสวงหาการประเล้าประโลมใจ แต่ประเล้าประโลมใจผู้อื่น

มิใช่แสวงหาแสวงหาความเข้าใจ แต่พยายามเข้าใจผู้อื่น

มิใช่แสวงหาความรัก แต่รักเขา

เพราะด้วยการให้ ทำให้ข้าพระองค์ได้รับ

ด้วยการยกโทษ ข้าพระองค์จึงได้รับการยกโทษ

และในความตายนั้นเอง ที่ทำให้ข้าพระองค์ได้รับชีวิตนิรันดร์

อาเมน

จากหนังสือพระคำนำพระพร
แผนกพัฒนาชีวิต คริสตจักรสาทร
ปี 2002 ครั้งที่ 8

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com