ชีวิตคนเรามีสุขและเศร้าคละเคล้ากันไปตลอดเวลา จะผูกขาดแต่ "ความสุข" อย่างเดียวย่อมเป็นไปไม่ได้ แม้ว่าเราอยากให้เป็นอย่างนั้นมากสักเพียงใดก็ตามที !
"ความทุกข์" ดูเหมือนจะเป็นผู้บุกรุก ไม่ใช่เฉพาะในยามวิกาล แต่ไม่รู้จักกาลเทศะเอาซะเลย
วิธีที่ดีในการรับมือกับความทุกข์ ก็คือ การรู้จักพอ กับสิ่งที่ "เพียงพอ"
บางคนมีเงิน 100 บาท แต่ไม่พอใจ จึงขวนขวายจนได้ 1,000 บาท แต่ยังไม่พึงพอใจ กลับดิ้นรนเหน็ดเหนื่อยจนได้ 10,000 บาท แต่ก็เหมือน ดื่มน้ำเค็มดับกระหาย เพราะยิ่งดื่มก็ยิ่งกระหาย
บางคนสละได้กระทั่งสหาย สุขภาพ และครอบครัว เพื่อจะให้ได้เงินมากขึ้นเรื่อย ๆ ความโลภเช่นนั้นทำให้เกิดความอยากที่ไม่มีวันสิ้นสุด และแล้วในไม่ช้าความทุกข์ก็มาเยือน ในที่สุดธุรกิจในฝันพังพินาศไปกับยุคฟองสบู่แตก ทรัพย์สินทั้งหมดที่ยอมสละทุกสิ่งเพื่อจะได้มาหายวับไปกับตา พร้อมทั้งหนี้สินกองมหึมาไว้ให้ ทำให้ต้องอยู่ในสภาพ "จะอยู่ก็ไม่ไหว จะตายก็ไม่ได้" นับว่าเป็นทุกข์ที่ไม่สมควรจริง ๆ
ด้วยเหตุนี้ ก่อนที่คุณจะย่ำรอยลงไปในโศกนาฎกรรมแห่งชีวิตนั้น ขอให้คุณได้สติ ได้คิด จงมีชีวิตที่รู้จัก "ประมาณตน" และรู้จัก "พอใจ" ในสิ่งที่คุณมีอยู่
"ท่านจงอย่าเป็นคนเห็นแก่เงิน จงพอใจในสิ่งที่ท่านมีอยู่ เพราะว่าพระองค์ได้ตรัสว่า เราจะไม่ละท่านหรือทอดทิ้งท่านเลย" (ฮีบรู 13:5)
คติธรรมในวันนี้ เป็นมรรคาชีวิตที่ดี นั่นคือ
"มีเงินพอสำหรับให้จับจ่าย
มีร่างกายสมบูรณ์พออุ่นจิต
มีเพื่อนแท้และจริงใจในชีวิต
แล้วจะคิดมีอะไรไปกว่านี้"
ใช่ครับ แม้ว่าคุณมีทรัพย์ไม่มากมาย แต่คุณยังมีเพียงพอที่จะอยู่ได้ และแม้มีมิตรไม่มากมาย แต่เป็นมิตรที่ดีและมีเพียงพอ !
ผมคิดว่ามีชีวิตแบบนี้ ก็ไม่น่าจะมีสิ่งใดทำให้ต้องเป็นทุกข์อีกแล้ว จริงไหมครับ ?
"มีเงินพอสำหรับให้จับจ่าย
มีร่างกายสมบูรณ์พออุ่นจิต
มีเพื่อนแท้และจริงใจในชีวิต
แล้วจะคิดมีอะไรไปกว่านี้"
อ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
จากหนังสือ กำลังใจ ไม่ไกลเกินไขว่คว้า
"เพื่อดำเนินชีวิต และกระทำดี"
ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน
ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com