Rejoice

Rejoice ยินดีปรีดาของมารีย์

หลังจากที่มารีย์ไปเยี่ยมนางเอลีซาเบธ และได้รับการยืนยันจากนางเอลีซาเบธว่า มารีย์จะเป็นมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า (ในทางกายภาพ) ที่จะเสด็จลงมาประสูติในวันคริสตมาส มารีย์จึงสรรเสริญพระเจ้าว่า ...

"จิตใจของข้าพเจ้าก็ยกย่องพระเจ้า และวิญญาณของข้าพเจ้าก็เกิดความยินดี (Rejoices) ในพระเจ้า พระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทรงห่วงใยฐานะอันยากต่ำแห่งทาสีของพระองค์

เพราะนั่นแหละ ตั้งแต่นี้ไป คนทุกชั่วอายุจะเรียกข้าพเจ้าว่า ผาสุก เพราะว่าผู้ทรงฤทธิ์ได้ทรงกระทำการใหญ่กับข้าพเจ้า พระนามของพระองค์ก็บริสุทธิ์ พระกรุณาของพระองค์มีแก่บรรดาผู้ยำเกรงพระองค์ทุกชั่วอายุสืบไป พระองค์ทรงสำแดงฤทธิ์ด้วยพระกรของพระองค์ พระองค์ทรงกระทำให้คนที่มีใจเย่อหยิ่งแตกฉานซ่านเซ็นไป พระองค์ทรงถอดเจ้านายจากพระที่นั่ง และพระองค์ทรงยกผู้น้อยขึ้น พระองค์ทรงโปรดให้คนอดอยากอิ่มด้วยสิ่งดี และทรงกระทำให้คนมั่งมีไปมือเปล่า พระองค์ทรงช่วยอิสราเอลผู้รับใช้ของพระองค์ คือพระองค์ทรงจดจำพระกรุณาของพระองค์ที่มีต่ออับราฮัม และต่อพงศ์พันธุ์ของท่านเป็นนิตย์ ตามที่พระองค์ได้ตรัสไว้กับบรรพบุรุษของเรา" (ลูกา 1:46-55)

คำสรรเสริญบทนี้ของมารีย์ มักถูกเรียกว่า "The Magnificat" (Song of Praise, บทเพลงสรรเสริญ) ตามคำ ๆ แรกของข้อความตอนนี้ในพระธรรมลูกาฉบับภาษาลาติน บทสรรเสริญนี้ได้พรรณาถึงความปีติยินดี (Rejoices) อย่างเต็มเปี่ยมของมารีย์ ที่พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ยิ่งใหญ่และสัตย์ซื่อต่อพระสัญญาของพระองค์ ได้ทรงเลือกเธอให้เป็นช่องทางแห่งพระพรแก่ชนชาติของเธอ และแก่โลก !

"บทเพลงสรรเสริญ" (The Magnificat) ของมารีย์นี้ สามารถแบ่งเนื้อหาออกมาเป็น 4 ตอน ดังนี้

1. มารีย์ไว้วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า (ข้อ 46-48)

2. มารีย์ยกย่องความยิ่งใหญ่ ความบริสุทธิ์ และพระกรุณาของพระองค์ (ข้อ 49-50)

3. มารีย์ยอมรับในฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าในการควบคุม และพลิกสถานการณ์โลก (ข้อ 51-53)

4. มารีย์เชื่อมั่นว่า พระเจ้าจะทรงกระทำให้พระสัญญาของพระองค์ที่ตรัสไว้กับบรรพบุรุษของเธอสำเร็จเป็นจริง (ข้อ 54-55)

เมื่อนักวิชาการทางพระคัมภีร์มาแกะรอยวิเคราะห์คำสรรเสริญที่เต็มไปด้วยความชื่นชมยินดี (Rejoices) ของมารีย์ ก็พบว่า มีร่องรอยของคำอ้างที่มาจากพระคัมภีร์เดิม (Old Testament) ถึง 15 แห่งในบทกวีนี้ ซึ่งเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่าพระคัมภีร์เดิมเป็นที่รู้จัก และเป็นที่รักอย่างมากในบ้านที่จะฟูมฟักและเลี้ยงดูองค์พระกุมารเยซูคริสต์ ซึ่งกำลังจะประสูติในวันคริสต์มาสในเวลาต่อมา

"บทเพลงสรรเสริญของมารีย์" (The Magnificat) นี้คล้ายคลึงกับบทสดุดีของนางฮันนาห์ เมื่อครั้งเธอให้กำเนิดบุตรชายของเธอผู้มีนามว่า ซามูเอล (Samuel)

ไม่รู้เหมือนกันว่า ถ้าพระเจ้าจะทรงให้เกียรติแก่พวกเราในสมัยปัจจุบันนี้ เหมือนอย่างที่มารีย์ได้รับ เราจะปีติยินดี (Rejoice) อย่างที่มารีย์เป็นหรือไม่ ? แต่อ.เปาโล (เซนต์ปอล) ยืนยันว่า ความปีติยินดี หรือความชื่นชมยินดี (Rejoice) ควรจะเป็นลักษณะชีวิตของทุกคนที่ได้รู้จักกับพระคริสต์แห่งวันคริสตมาสนี้ !

ดังนั้น ทั้ง ๆ ที่อ.เปาโลน่าจะรู้สึกเป็น ทุกข์ท้อแท้ ที่ท่านถูกทำร้าย และกักขังอยู่ในคุกอย่างไม่เป็นธรรม แต่ท่านกลับส่งจดหมายออกมาหนุนใจคนนอกคุกว่า

"Rejoice in the Lord always

I will say it again 'Rejoice' "

หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า

"จงชื่นชมยินดี ในองค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งว่า จงชื่นชมยินดีเถิด" (ฟิลิปปี 4:4)

หวังว่าในคริสตมาสปีนี้ คุณจะมีประสบการณ์กับความชื่นชมยินดี (Rejoice) อย่างนี้สักครั้งเถิด

เอาไหมครับ?

อ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
จากหนังสือ
ABC คริสตมาสนี้มีที่มา

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com