26. ทางหลวงแห่งไม้กางเขน

ทางหลวงแห่งไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์

หลายคนคิดว่า คำที่พระเยซูคริสต์ตรัส เป็นคำยาก

"พระเยซูจึงตรัสกับบรรดาสาวกของพระองค์ว่า 'ถ้าใครต้องการจะติดตามเรา ให้คนนั้นปฏิเสธตนเอง รับกางเขนของตนแบกและตามเรามา' " (มัทธิว 16:24 ThaiTSV2002)

แต่การได้ยินคำสุดท้ายเป็นคำที่ยากกว่ามาก คือ

"แล้วพระองค์จะตรัสกับพวกผู้ที่อยู่เบื้องซ้ายพระหัตถ์ของพระองค์ว่า 'พวกท่านผู้ถูกแช่งสาปจงถอยไปจากเราและเข้าไปอยู่ในไฟที่ไหม้อยู่เป็นนิตย์ ซึ่งเตรียมไว้สำหรับมารร้ายและบริวารของมัน' " (มัทธิว 25:41 ThaiTSV2002)

คนเหล่านั้นที่ได้ยินคำที่กล่าวถึงเรื่องไม้กางเขนและเต็มใจปฏิบัติตามเดี๋ยวนี้ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะได้ยินคำแช่งสาบเป็นนิตย์ในวันพิพากษา เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมาพิพากษาโลก จะมีไม้กางเขนเป็นเครื่องหมายในท้องฟ้า ดังนั้น บรรดาผู้รับใช้แห่งไม้กางเขน ผู้ที่ในชีวิตนี้ได้เข้าเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับพระผู้ที่ถูกตรึงบนไม้กางเขน ก็จะไปเข้าเฝ้าพระคริสต์ ผู้พิพากษา ด้วยความไว้วางใจเต็มที่

เหตุไฉนคุณจึงกลัวที่จะรับไม้กางเขนแบกไป ในเมื่อโดยทางไม้กางเขนนั้น คุณจะได้รับอาณาจักรหนึ่งได้ ในกางเขนมีความรอด ในกางเขนมีชีวิต ในกางเขนมีการป้องกันจากศัตรู ในกางเขนมีความอ่อนหวานที่หลั่งไหลมาจากสวรรค์ ในกางเขนมีกำลังใจ ในกางเขนมีความปีติยินดีฝ่ายวิญญาณ ในกางเขนมีคุณธรรมสูงสุด ในกางเขนมีความบริสุทธิ์สมบูรณ์แบบ ไม่มีความรอดสำหรับจิตวิญญาณหรือความหวังที่จะได้รับชีวิตนิรันดร์ เว้นแต่ทางไม้กางเขน

ดังนั้น จงรับกางเขนของคุณแบกไว้ และติดตามพระเยซู แล้วคุณก็จะเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ พระองค์เองได้เปิดทางนั้นไว้ต่อหน้าคุณในการแบกกางเขนของพระองค์ และบนกางเขนนั้นพระองค์ได้ทรงสิ้นพระชนม์แทนคุณ เพื่อคุณจะได้รับกางเขนของคุณแบกไปเช่นกัน และมีความปรารถนาที่จะตายบนกางเขนนั้น ถ้าคุณตายกับพระองค์ คุณก็จะมีชีวิตอยู่กับพระองค์เช่นกัน และถ้าคุณทนทุกข์ร่วมกันกับพระองค์ คุณก็จะได้รับเกียรติร่วมกันกับพระองค์ด้วย

จงดูเถิด ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับไม้กางเขนนั้น และทุกสิ่งก็ขึ้นอยู่กับการที่คุณตายบนไม้กางเขน ไม่มีทางอื่นที่จะนำไปสู่ชีวิตและสันติสุขแท้ในใจนอกจากทางแห่งไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์และการตายต่อตัวเองทุก ๆ วัน ไม่คุณจะไปที่ไหนก็ตาม ไม่ว่าคุณจะแสวงหาอะไรก็ตาม คุณจะไม่พบทางที่สูงกว่า หรือทางที่ต่ำกว่าแต่ปลอดภัยกว่า นอกจากทางแห่งไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าคุณจะจัดเตรียมและสั่งสมทุกสิ่งทุกอย่างตามเจตนารมณ์และตามความคิดของคุณ คุณก็จะยังคงพบว่ามีความทุกข์ยากบางประการที่คุณจำเป็นต้องอดทนอยู่เสมอ ไม่ว่าจะด้วยความเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตาม และในทำนองนี้ คุณก็จะพบไม้กางเขนเสมอ

คุณอาจจะประสบกับความเจ็บปวดทางกายก็ได้ หรืออาจเผชิญกับทุกขเวทนาฝ่ายวิญญาณภายในจิตใจของคุณก็ได้ บางครั้งจะรู้สึกว่าพระเจ้าได้ละทิ้งคุณไป บางครั้งจะถูกคนรอบ ๆ ข้างคุณรบกวน และอีกอย่างหนึ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นอีก คือ หลายครั้งคุณจะเบื่อตัวเอง คุณหนีไม่พ้น คุณมิอาจรับความบรรเทาหรือความปลอบโยนใด ๆ ได้ แต่ต้องอดทนกับสิ่งนั้นตราบใดที่พระเจ้าทรงพอพระทัย เพราะพระองค์ทรงประสงค์ให้คุณเรียนรู้ที่จะอดทนต่อการถูกทดลองโดยปราศจากการปลอบโยน ขอให้ยอมจำนนต่อพระองค์อย่างสิ้นเชิง โดยการทนทุกข์เพื่อคุณจะกลายเป็นคนใจถ่อมมากยิ่งขึ้น ไม่มีผู้ใดที่เข้าใจความทนทุกข์ของพระคริสต์ที่อยู่ในใจของตนได้ดีเท่ากับบุคคลที่ต้องทนทุกข์คล้าย ๆ กันเอง

เหตุฉะนั้น ไม้กางเขนมีไว้พร้อมเสมอ และรอคอยคุณทั่วทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนก็ตาม คุณจะหนีไม่พ้น เพราะที่ไหนก็ตามที่คุณไป คุณก็นำตัวเองไปด้วย และจะพบตัวเองเสมอ ไม่ว่าคุณจะหันไปทางไหนก็ตาม ข้างบน ข้างล่าง ภายนอก หรือภายใน คุณก็จะพบไม้กางเขนในทุกสิ่งทุกอย่างและทั่ว ๆ ไป คุณต้องมีความอดทน ถ้าหากคุณปรารถนาที่จะมีสันติสุขในใจ และเป็นคนที่คู่ควรที่จะได้รับมงกุฎนิรันดร์

ถ้าคุณแบกกางเขนด้วยความสมัครใจ กางเขนนั้นจะแบกคุณไปและนำคุณไปถึงจุดหมายปลายทาง ทางที่คุณปรารถนา คือถึงสถานที่ที่จะไม่มีความทุกข์อีก แต่ในโลกนี้จะมีแน่นอน ถ้าคุณแบกกางเขนอย่างฝืนใจ คุณก็สร้างภาระไว้สำหรับตัวเองและทำให้น้ำหนักที่คุณต้องแบกหนักยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าคุณยังต้องแบกมันไป ถ้าคุณเอากางเขนอันหนึ่งโยนทิ้งไป คุณก็จะพบอีกอันหนึ่งซึ่งอาจหนักกว่าได้ คุณคาดหวังว่าคุณจะหนีพ้นจากสิ่งที่ไม่มีมนุษย์ที่ต้องตาย คนใดสามารถหลึกเลี่ยงได้หรือ มีนักบุญคนไหนบ้างที่อยู่โดยปราศจากกางเขนหรือการทดลองในโลกนี้ ไม่มีใคร แม้กระทั่งพระเยซูคริสต์เอง คือองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา พระองค์ทรงสัมผัสความเจ็บปวดแห่งความมรณาของพระองค์ตลอดทุก ๆ ชั่วโมงที่พระองค์ทรงสถิตอยู่ในโลก

"พระองค์ตรัสกับเขาว่า 'มีถ้อยคำเขียนไว้อย่างนั้นว่า พระคริสต์จะต้องทนทุกข์และเป็นขึ้นจากตายในวันที่สาม' " (ลูกา 24:46 ThaiTSV2002)

"พระคริสต์จำเป็นต้องทนทุกข์อย่างนั้นแล้วจึงเข้าในพระสิริของพระองค์ไม่ใช่หรือ?" (ลูกา 24:26 ThaiTSV2002)

ด้วยเหตุผลกลใดหรือ คุณถึงเสาะแสวงหาทางอื่นที่แตกต่างจากทางนี้ คือ ทางหลวงแห่งไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์

ชีวิตของพระคริสต์ทั้งหมด เป็นไม้กางเขนอย่างหนึ่งและการยอมพลีชีวิตเพื่อพระเจ้าอีกอย่างหนึ่ง และคุณจะแสวงหาการหยุดพ้กและความสุขสบายสำหรับตนเองเช่นนั้นหรือ คุณหลอกลวงตัวเองและเข้าใจผิดถ้าคุณแสวงหาสิ่งอื่นนอกจากการทนทุกข์ เพราะชีวิตที่ต้องตายนี้ก็เต็มไปด้วยความยากลำบากและมีกางเขนปักไว้อยู่รอบด้าน ที่จริง ยิ่งบุคคลนั้นก้าวหน้าฝ่ายวิญญาณ เขาก็ยิ่งพบว่ากางเขนนั้นมีน้ำหนักมากขึ้น เพราะความรักของเขามีเพิ่มขึ้นฉันใด ความทุกข์ทรมานเนื่องจากการเนรเทศตนเองก็จะเพิ่มขึ้นฉันนั้น

แต่คนเช่นนี้ แม้ว่าเขามีความทุกข์หลายอย่าง ก็ยังมิได้ปราศจากความหวังที่จะได้รับการชูใจ เพราะเขารู้ว่าเข้าจะได้รับบำเหน็จใหญ่ยิ่ง เนื่องจากการแบกกางเขนของตน และเมื่อเขาแบกกางเขนอย่างเต็มใจ ความรู้สึกเสียบแปลบเพราะความทุกข์นั้น ก็จะค่อย ๆ แปรเปลี่ยนไปเป็นความหวังที่จะได้รับความปลอบใจจากพระเจ้า นอกจากนั้น ยิ่งร่างกายอ่อนแอลงเนื่องจากความทุกข์ทรมานเท่าไร ก็ยิ่งทำให้จิตวิญญาณเข้มแข็งขึ้น เนื่องจากพระคุณที่ได้รับภายใน การรักการทดลองและความยากลำบากมักจะช่วยบุคคลนั้นให้แข้มแข็งขึ้นในความปรารถนาของตนที่เขาจะเดินตามรอยกางเขนของพระคริสต์ จนกระทั่งเขาไม่ปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่โดยปราศจากความโศกเศร้าหรือความเจ็บปวด เพราะเขาคิดว่าพระเจ้าจะพอพระทัยเขามากกว่าถ้าหากเขาสามารถอดทนต่อสิ่งที่ร้ายแรงที่ค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้นเพราะเห็นแก่พระองค์

พระคุณของพระคริสต์มิใช่คุณธรรมของมนุษย์ ที่สามารถกระทำและก็กระทำจริง ๆ ให้เนื้อหนังที่อ่อนแอได้เรียนรู้ โดยความร้อนรนฝ่ายวิญญาณที่จะสามารถรักและสวมสิ่งซึ่งตามธรรมชาติจะเกลียดชังและหลีกเลี่ยง

การแบกกางเขน การรักกางเขน การทุบตีร่างกายจนอยู่มือ การหนีเกียรติยศ การทนต่อการดูถูกด้วยความยินดี การดูหมิ่นตนเอง และปรารถนาให้ถูกดูหมิ่นโดยผู้อื่น การสามารถทนรับเหตุการณ์ที่เลวร้ายและความเสียหายได้ทุกอย่าง การไม่ปรารถนาวันเวลาที่จะอยู่ในโลกนี้อย่างมั่งคั่งสุขสบาย ทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นวิถีทางของมนุษย์ ถ้าคุณพึ่งตนเอง คุณก็ไม่สามารถทำสิ่งเหล่านี้สักอย่างหนึ่งได้ แต่ถ้าคุณวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะทรงประทานกำลังจากสวรรค์ให้แก่คุณ และทรงกระทำให้โลกและเนื้อหนังเชื่อฟังคำสั่งของคุณ คุณจะไม่กลัวแม้กระทั่งศัตรูของคุณคือมาร ถ้าคุณได้สวมยุทธภัณฑ์แห่งความเชื่อไว้ และได้รับการประทับตราด้วยกางเขนของพระคริสต์

ฉะนั้น จงตั้งใจแบกไม้กางเขนขององค์พระผู้เป็นเจ้าของคุณด้วยใจกล้าหาญ เหมือนทหารที่ดีและสัตย์ซื่อของพระคริสต์ ผู้ที่ถูกตรึงไว้เพื่อคุณ เพราะเหตุความรักที่มีต่อคุณ จงพร้อมที่จะถูกความทุกข์ยากลำบากนานัปการและเผชิญกับปัญหาหลายอย่างในชีวิตอันโศกเศร้านี้ เพราะชีวิตจะเต็มไปด้วยปัญหาและความทุกข์โศกอยู่เสมอ ไม่ว่าคุณจะอยู่ทีไหนก็ตาม คุณจะพบว่ามันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ไม่ว่าคุณจะซ่อนตัวอยู่ที่ไหนก็ตาม ต้องเป็นเช่นนั้น และไม่มีทางที่จะหลีกเลี่ยงการทดลองและความโศกเศร้าแห่งชีวิตได้ มีแต่การแบกรับเอาไว้

จงดื่มถ้วยขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความรักหากคุณปรารถนาที่จะเป็นเพื่อนของพระองค์และมีส่วนร่วมกับพระองค์ จงฝากการปลอบโยนไว้กับพระเจ้า ให้พระองค์ทรงกระทำตามชอบพระทัย ส่วนคุณเองจงพร้อมที่จะทนทุกข์และถือว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นการปลอบโยนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะถึงแม้คุณผู้เดียวจะต้องทนทุกข์ต่อสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด ความทุกข์ยากลำบากที่มีในปัจจุบันนี้ก็ไม่สมควรที่จะนำไปเปรียบกับศักดิ์ศรีในอนาคต

เมื่อคุณบรรลุถึงจุดหนึ่งที่คุณรู้สึกว่าความทุกข์ยากลำบากเป็นสิ่งที่อ่อนหวาน และเป็นสิ่งที่ทนรับได้เพราะเห็นแก่พระคริสต์ คุณจงถือว่าตัวคุณเองก็เป็นสุข เพราะคุณได้พบเมืองบรมสุขเกษมบนแผ่นดินโลกนี้ แต่ว่าตราบใดที่มีความทุกข์รบกวนใจคุณและคุณพยายามหลีกหนีสิ่งเหล่านั้น คุณก็จะขาดความสุขตราบนานเท่านั้น และความทุกข์ทรมานทีคุณกำลังพยายามหลีกหนีจะติดตามคุณไปทุกหนแห่ง ถ้าคุณเอาใจใส่สิ่งที่คุณควรไตร่ตรองนั้น คือความทุกข์ทรมานและความตาย อีกไม่นานคุณก็จะอยู่ในสภาพที่ดีกว่า และจะพบสันติสุข

แม้คุณจะถูกรับขึ้นไปยังสวรรค์ชั้นที่สามพร้อมกับเปาโล การนี้ก็ไม่อาจทำให้คุณได้รับการประกันว่าจะไม่ทนทุกข์ทรมานอีก พระเยซูได้ตรัสว่า

"เราจะแสดงให้เขาเห็นว่า เขาจะต้องทนทุกข์ลำบากมากเท่าไรเพื่อนามของเรา" (กิจการ 9:16 ThaiTSV2002)

ดังนั้น คุณก็ต้องทนทุกข์ ถ้าคุณตั้งใจจะรักพระเยซูและรับใช้พระองค์ตลอดไปเป็นนิตย์

ถ้าเพียงแต่คุณจะคู่ควรที่จะอดทนอะไรเพื่อพระนามแห่งพระเยซู ก็จะมีศักดิ์ศรีเตรียมไว้สำหรับคุณมากเท่านั้น จะมีความปลื้มปีติยินดีมากเพียงไรสำหรับบรรดาธรรมิกชนของพระเจ้า และจะเป็นบทสั่งสอนที่สำคัญเพียงไรสำหรับคนที่อยู่รอบ ๆ ตัวคุณ ! เพราะมนุษย์ทุกคนยกย่องความอดทนถึงแม้มีน้อยคนที่ปรารถนาจะปฏิบัติเช่นนั้น

ดังนั้น ก็มีเหตุผลดีที่คุณสมควรยอมทนทุกข์เพียงสักเล็กน้อยเพื่อเห็นแก่พระคริสต์ เพราะมีคนมากมายที่ยอมทนทุกข์หนักกว่านั้นอีกเพราะเห็นแก่โลกนี้

จงตระหนักว่า คุณจำต้องดำเนินชีวิตอย่างคนที่กำลังตายอยู่ ยิ่งคนนั้นตายต่อตัวเอง เขาก็ยิ่งมีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้า

ไม่มีผู้ใดสมควรที่จะมีความสุขในสวรรค์เว้นแต่เขาได้ยอมให้ตัวเองเผชิญกับความทุกข์ยากลำบากเพื่อพระคริสต์ ไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าทรงพอพระทัยมากยิ่งกว่านี้ ไม่มีสิ่งใดที่เป็นประโยชน์สำหรับคุณในโลกนี้มากยิ่งกว่านี้ คือ การเต็มใจทนทุกข์เพื่อพระคริสต์ ถ้าคุณจำเป็นต้องเลือก คุณควรปรารถนาการทนทุกข์เพื่อพระคริสต์ มากกว่าการมีความสุขเพราะการได้รับความปลอบโยนมากมาย เพราะในการเลือกเช่นนี้คุณจะเป็นเหมือนพระคริสต์และเหมือนบรรดานักบุญมากกว่า ความดีและความเจริญก้าวหน้าของเราไม่ได้ประกอบด้วยความสนุกและความหย่อนใจมากมาย แต่ประกอบด้วยการทนทุกข์ต่อความยากลำบากและความทุกข์อันใหญ่หลวงต่างหาก

ที่จริง ถ้ามีสิ่งใดที่ดีกว่าหรือมีประโยชน์มากกว่าการทนทุกข์สำหรับความรอดของมนุษย์ พระคริสต์คงได้สำแดงให้เรารู้โดยทางวาจาและโดยแบบอย่างของพระองค์ แต่พระองค์ทรงตักเตือนบรรดาสาวกที่ติดตามพระองค์และทุกคนที่ปรารถนาติดตามพระองค์อย่างชัดเชนให้แบกกางเขนไป โดยกล่าวว่า

"พระองค์จึงตรัสกับพวกเขาทุกคนว่า 'ถ้าใครต้องการจะมาติดตามเรา ให้คนนั้นปฏิเสธตนเอง รับกางเขนของตนแบกทุกวัน และตามเรามา' " (ลูกา 9:23 ThaiTSV2002)

ฉะนั้น เมื่อเราได้อ่านและตรวจค้นดูทุกสิ่งที่ได้บันทุกไว้ ให้เราน้อมรับคำสรุปต่อไปนี้ นั่นคือ

"... เราจะต้องทนความยากลำบากหลายอย่างในการเข้าสู่แผ่นดินของพระเจ้า" (กิจการ 14:22 ThaiTSV2002)

หนังสือ เลียนแบบพระคริสต์ (Of The Imitation of Christ)
เขียนโดย โธมัส อาเคมพิส (Thomas à Kempis)
แปลโดย พญ. เออร์ซูลา โลเวนธอล
เรียบเรียงโดย กนกบรรณสาร

ชีวิตภายใน

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com