พระเจ้าทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง?

เราสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร ? ... คำตอบคือ ไม่มีทางเลย

เราไม่สามารถรื้อถอนกำแพงมหึมานี้ออกไปได้ด้วยลำพังตัวเราเอง

พระคัมภีร์ใช้ภาพอธิบายถึงสถานการณ์ของเราได้อย่างถึงใจ

  • เรากำลังถลำลึกลงไปในโคลนตม - ยิ่งดิ้นก็ยิ่งแย่ลง

  • เราหลงทางเหมือนดังคนที่เที่ยวไปอย่างไร้จุดหมายในวิถีทางวกวนไกลออกไป ๆ

  • เราเหมือนคนว่ายน้ำไม่เป็นที่กำลังจมน้ำอยู่

การมีความจริงใจ หรือแม้แต่การถือและปฏิบัติตามหลักศาสนาอย่างเคร่งครัด ไม่ได้ช่วยอะไรเลย

คำตอบอยู่ที่ไหน ? ... เราต้องการผู้ช่วย

เราต้องการใครสักคนฉุดขึ้นจากโคลนดูด

ใครสักคนค้นหาเราจนพบแล้วนำกลับบ้าน

ใครสักคนช่วยให้รอดพ้นจากการสำลักน้ำตาย

คำชี้แนะว่าควรจะทำอย่างนี้ อย่างนั้นไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ การสอนก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น เราต้องการผู้ช่วย

ด้วยความรักของพระเจ้า พระองค์มิได้ปล่อยเราให้ตะเกียกตะกายอย่างสิ้นหวัง

พระองค์ได้ทรงกระทำบางอย่าง โดยส่งผู้หนึ่งเข้ามาช่วยเราคือพระเยซู พระนามนี้แปลว่า ผู้ไถ่หรือผู้ช่วยให้รอด

พระคัมภีร์กล่าวไว้เช่นกันว่า

"เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์"

ทั้งหมดนี้ เป็นการพิสูจน์ว่าพระเจ้าทรงรักและห่วงใยเรา

พระองค์เสด็จเข้ามาในโลกด้วยพระองค์เอง และรับสภาพเป็นมนุษย์ คือ พระเยซูคริสต์

พระองค์มาเพื่อแสวงหาคนหลงทางและช่วยเขาให้รอด

พระองค์มิได้มาเพื่อสำแดงว่าพระเจ้ามีพระลักษณะอย่างไรเท่านั้น หรือมิได้มาเพื่อสั่งสอนว่าชีวิตดีพร้อมนั้นเป็นอย่างไร พระองค์มาเพื่อช่วยเราให้รอด ซึ่งหมายความว่า พระองค์ต้องวางชีวิตของพระองค์ลงเพื่อช่วยพวกเรา

เขียนโดย นอร์แมน วอร์เร็น
แปลโดย กนกบรรณสาร
จากหนังสือ ชีวิตฉงน

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com