ซาตานทำอะไรบ้าง?

เมื่อเราสังเกตดูอำนาจและกิจการของซาตานในปัจจุบัน เราจะพบว่า มันมีอำนาจเหนือพรรคพวกของมัน

ในมัทธิว 12:24 บันทึกว่า มันเป็นนายผี และในยอห์น 5:19 บอกว่า มันมีอำนาจเหนือโลกปัจจุบัน มันอยู่ในย่านอากาศ (เอเฟซัส 6)

เช่น เมื่อเราไปเทศนาหรือประกาศเรื่องพระเยซู ถึงแม้ว่าเราใช้คำเทศนาเดียวกัน แต่ไปพูดในที่ต่าง ๆ กัน บางแห่งจะไม่พบปฏิกิริยาต่อต้านอะไรเลย แต่บางแห่งเรากลับพบปฏิกิริยาต่อต้านที่ร้ายกาจมาก เหตุผลก็เพราะว่าคำเทศนานั้น ไปถูกจุดของเจ้าแห่งย่านอากาศผู้ครอบครองในย่านอากาศ ในสถานที่นั้น ๆ เข้า จึงเกิดปฏิกิริยาต่อต้านทันที

ถ้าคุณอยากจะรู้ว่าคนนั้นถูกผีเข้า หรือไม่ใช่ผีเข้านั้น ก็ให้คุณเทศนาถึงเรื่องฤทธิ์อำนาจของพระโลหิตพระเยซูคริสต์สิ ขณะที่เทศนาถึงเรื่องนี้ ถ้าเป็นผีเข้า มันจะทนไม่ได้ จะต้องสำแดงอาการออกมาทันที

ฉะนั้น พระคัมภีร์จึงอธิบายว่า กิจการของวิญญาณชั่ว หรือ ซาตานนี้ อยู่ในย่านอากาศ

ใน 1เปโตร 5:8 กล่าวว่า

"ท่านทั้งหลายจงสงบใจระวังระไวให้ดี ด้วยว่าศัตรูของท่านคือมาร วนเวียนอยู่รอบ ๆ ดุจสิงห์คำราม เที่ยวไปเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้" (1เปโตร 5:8)

ซาตานชอบปลอมตัวเป็นนักศาสนา (2โครินธ์ 11) ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนในเรื่องนี้ ก็คือ ลัทธิมรณะ เราคงจำกันได้ว่า จิมโจน ผู้ตั้งตัวเป็นผู้นำศาสนาทำตัวเหมือนผู้วิเศษ เหมือนพระเจ้า แต่ผลสุดท้าย เข้าได้ฆ่าคนนับร้อย ๆ ด้วยยาพิษ

นี่คือการงานของซาตาน และมันเป็นต้นกำเนิดของคำสอนเท็จ มันบิดเบือนความจริงของพระเจ้า

ใน 1ทิโมธี 4:1-3 และ 2เปโตร 2 อธิบายว่า มันมาในรูปการสอนเท็จ มันมักจะบิดเบือนความจริง และมักหักเหคนของพระเจ้าให้สอนพระวจนะของพระเจ้าในทางที่ผิด มันเข้าหาผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อพระคริสต์

"พระวิญญาณได้ตรัสไว้อย่างชัดแจ้งว่า ต่อไปภายหน้าจะมีบางคนละทิ้งความเชื่อ โดยหันไปเชื่อฟังวิญญาณที่ล่อลวง และฟังคำสอนของพวกผีปีศาจ ซึ่งมาจากการหน้าซื่อใจคดของคนที่โกหก คือคนที่จิตสำนึกเป็นทาสของมาร เขาห้ามไม่ให้ทำการสมรส ห้ามบริโภคอาหารบางชนิดซึ่งพระเจ้าทรงสร้างไว้ให้ผู้ที่เชื่อ และรู้จักความจริงบริโภคด้วยขอบพระคุณ" (1ทิโมธี 4:1-3)

พระคัมภีร์จึงบอกว่า เมื่อใกล้จะถึงวันสุดท้ายที่พระเยซูคริสต์จะกลับมา จะมีคนเป็นอันมากอ้างตัวว่าเป็นพระคริสต์ และก็มีคนเป็นอันมากหลงใหลใผ่ฝันไปนมัสการ และติดตามผู้นั้น มันจะหลอกลวงบรรดาประชาชาติ

ในวิวรณ์ 20 มันขัดขวางการรับใช้พระเจ้า มันใช้ผู้สอนผิด ๆ เข้าแทรกแซงในคริสตจักร มันปลอมตัวเหมือนผู้รับใช้พระเจ้า มันยุให้มีการแตกแยก นี่แหละคืองานของมันล่ะ

ในลูกา 8:12 กล่าวว่า

"ที่ตกตามหนทางได้แก่ คนเหล่านั้นที่ได้ยินแล้วมารมาชิงเอาพระวจนะจากใจของเขา เพื่อไม่ให้เชื่อและรอดได้" (ลูกา 8:12)"

นี่ก็เป็นเหตุหนึ่งที่คนมากมายได้ยินพระวจนะของพระเจ้าแล้ว แต่ก็ไม่ได้เรื่องไม่ได้ราว ไม่รู้ ไม่เข้าใจสักที เพราะมารนี่เองที่คอยช่วงชิงเอาพระวจนะที่จะตกในจิตใจของเขาไป เพราะมันรู้ว่าถ้าพระวจนะตกถึงจิตใจของคนที่เชื่อแล้ว พระวจนะจะเกิดผลแน่

ใน 2โครินธ์ 4 กล่าวว่า มันทำให้ตาของคนมืดมัวไปเพื่อจะไม่เห็นพระเจ้า ไม่เห็นความยิ่งใหญ่ของพระองค์

ใน 2โครินธ์ 2 มันทำให้คริสเตียนไม่ให้อภัยซึ่งกันและกัน มันสู้รบหาช่องทำลายคริสเตียน มันกล่าวหาฟ้องร้องธรรมิกชน

ดังที่บันทึกในวิวรณ์ 12 มันฝัง "ความสงสัยในพระเจ้า" ไว้ในใจเรา "จริงหรือ...จริงหรือ" ให้เราสงสัยในความชอบธรรมของพระเจ้า สงสัยในความบริสุทธิ์ของพระเจ้า สงสัยในการอัศจรรย์ของพระเจ้า มันชอบทำให้เราสงสัย และชอบล่อลวงให้เราโกหก

เช่นเรื่องอานาเนียกับสัปฟีรา สามีภรรยาที่ขายที่ดินแล้ว เอาเงินส่วนหนึ่งมาถวาย แต่โกหกว่าถวายหมดแล้ว (กิจการ 5) ที่จริงเงินทั้งหมดก็เป็นของเขาเอง ถ้าจะพูดตรง ๆ ก็ไม่เห็นมันจะผิดอะไร เพราะเป็นของเขา แต่มารพยายามล่อลวงให้คนที่เชื่อพระเจ้าพูดมุสา พระคัมภีร์บอกว่าซาตานเป็น "พ่อของการมุสา"

มันล่อลวงในเรื่องทางเพศ ใน 1โครินธ์ 7:5 อธิบายให้เราระวังในเรื่องนี้ มันพยายามให้เราปักหลักอยู่กับโลกียวิสัยของโลก

นอกจากนั้นมันยังชอบยุยงให้คนเราอวดตัว ไม่งั้นก็ดึงให้เรารู้สึกท้อใจ มันชอบขัดขวางงานที่เรารับใช้พระเจ้า และยุแหย่ให้แตกแยกกันด้วย

ศจ. สมศักดิ์ ชูสงฆ์
จากหนังสือ พระคริสต์พิชิตซาตาน
สำนักพิมพ์ กนกบรรณสาร

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com