พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระเจ้า

ในเมื่อมนุษย์ไม่สามารถตายเพื่อรับโทษแทนกันได้ เพราะมนุษย์ทุกคนเป็นคนบาป ดังนั้น พระเจ้าจึงทรงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ (ถ้าพระองค์ไม่บังเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะไม่สามารถตายไถ่บาปให้กับมนุษย์ได้เลย)

พระคัมภีร์ เรียกพระเจ้าที่ส่งพระเยซูคริสต์มาว่า "พระบิดา" และพระเจ้าที่ได้รับการส่งจากพระเจ้าที่เป็นพระบิดา ให้มารับสภาพเป็นมนุษย์ พระคัมภีร์เรียกว่า "พระบุตร"

ในเมื่อพระเยซูคริสต์เป็นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์ทรงมีพระบิดาเป็นพระเจ้า พระบิดาทรงให้กำเนิดพระองค์ พระองค์จึงทรงเป็นพระเจ้าด้วย

เรื่องนี้ไม่ยากที่จะเข้าใจได้เลย ผมจะยกตัวอย่างให้คุณเข้าใจ ...

ถ้าผมถามคุณว่า "ผมเป็นพระเจ้าหรือมนุษย์ ?" คำตอบก็คือ "เป็นมนุษย์" "ในเมื่อผมเป็นมนุษย์ ลูกผมที่เกิดออกมาล่ะเป็นอะไร ? ... แน่นอน ก็เป็นมนุษย์ด้วย"

ในความเป็นมนุษย์นั้น ผมกับลูกใครใหญ่กว่ากัน คำตอบก็คือ "เท่าเทียมกันในเนื้อแท้ที่เป็นมนุษย์ เท่าเทียมกันในความเป็นคน แต่แตกต่างกันตรงหน้าที่"

เช่นเดียวกัน พระเจ้าเป็นมนุษย์หรือเป็นพระเจ้า ? คำตอบก็คือ "เป็นพระเจ้า" ในเมื่อพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า ลูกที่เกิดมาเป็นอะไร ? คำตอบก็คือ "เป็นพระเจ้า" ในความเป็นพระเจ้านั้น พระบิดากับพระบุตรใครใหญ่กว่ากัน ? คำตอบก็คือ "เท่าเทียมกันในเนื้อแท้ที่เป็นพระเจ้า เท่าเทียมกันในความเป็นพระเจ้า แต่แตกต่างกันตรงหน้าที่"

ถ้าคุณไปเปิดดูในพระคริสตธรรมคัมภีร์ ยอห์น 10:22-39 คุณจะเห็นความจริงนี้อย่างชัดเจนว่า พระเยซูคริสต์อ้างตัวว่าเป็นพระบุตรของพระเจ้า นั่นก็คือ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าด้วย

"22ขณะนั้นเป็นเทศกาลฉลองพระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็ม 23เป็นฤดูหนาว พระเยซูทรงดำเนินอยู่ในบริเวณพระวิหารที่เฉลียงของซาโลมอน

24พวกยิวก็พากันมาห้อมล้อมพระองค์และทูลว่า "จะให้ใจเราแขวนอยู่นานสักเท่าใด ถ้าท่านเป็นพระคริสต์ก็จงบอกเราให้ชัดแจ้งเถิด"

25พระเยซูตรัสกับเขาทั้งหลายว่า "เราได้บอกท่านทั้งหลายแล้วและท่านไม่เชื่อ สิ่งซึ่งเราได้กระทำในพระนามพระบิดาของเรา ก็เป็นพยานให้แก่เรา 26แต่ท่านทั้งหลายไม่เชื่อเพราะท่านมิได้เป็นแกะของเรา 27แกะของเราย่อมฟังเสียงของเรา และเรารู้จักแกะเหล่านั้น และแกะนั้นตามเรา 28เราให้ชีวิตนิรันดร์แก่แกะนั้น แกะนั้นจะไม่พินาศเลย และจะไม่มีผู้ใดแย่งชิงแกะเหล่านั้นไปจากมือของเราได้ 29พระบิดาของเราผู้ประทานแกะนั้นให้แก่เราเป็นใหญ่กว่าทุกสิ่ง และไม่มีผู้ใดอาจชิงแกะนั้นไปจากพระหัตถ์ของพระบิดาของเราได้ 30เรากับพระบิดาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน"

31พวกยิวจึงหยิบก้อนหินขึ้นมาอีกจะขว้างพระองค์ให้ตาย 32พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า "เราได้สำแดงให้ท่านเห็นการดีหลายประการของพระบิดาของเรา ท่านทั้งหลายหยิบก้อนหินจะขว้างเราให้ตาย เพราะการกระทำข้อใดเล่า"

33พวกยิวทูลตอบพระองค์ว่า "เราจะขว้างท่านมิใช่เพราะการกระทำดี แต่เพราะการพูดหมิ่นประมาทพระเจ้า เพราะท่านเป็นเพียงมนุษย์แต่ตั้งตัวเป็นพระเจ้า"

34พระเยซูตรัสว่า "ในพระธรรมของท่านมีคำเขียนไว้มิใช่หรือว่า 'เราได้กล่าวว่าท่านทั้งหลายเป็นพระ' 35ถ้าพระธรรมนั้นเรียกผู้ที่รับพระวจนะของพระเจ้าว่า เขาเป็นพระ (และจะฝ่าฝืนพระคัมภีร์ไม่ได้) 36ท่านทั้งหลายจะกล่าวหาท่านที่พระบิดาได้ทรงตั้งไว้ และทรงใช้เข้ามาในโลกว่า 'ท่านกล่าวคำหมิ่นประมาทพระเจ้า' เพราะเราได้กล่าวว่า 'เราเป็นบุตรของพระเจ้า' อย่างนั้นหรือ 37ถ้าเราไม่ปฏิบัติพระราชกิจของพระบิดาของเรา ก็อย่าวางใจในเราเลย 38แต่ถ้าเราปฏิบัติพระราชกิจนั้น แม้ว่าท่านมิได้วางใจในเรา ก็จงวางใจเพราะพระราชกิจนั้นเถิด เพื่อท่านจะได้รู้และเข้าใจว่าพระบิดาทรงอยู่ในเรา และเราอยู่ในพระบิดา"

39พวกเขาพยายามจะจับพระองค์อีกครั้งหนึ่ง แต่พระองค์ทรงรอดพ้นจากมือเขาไปได้"

(ยอห์น 10:22-39)

อ. นิกร สิทธิจริยาภรณ์
จากหนังสือ พระเจ้าเกี่ยวข้องกับฉันอย่างไร?

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com