17. ความทุกข์ยากของมนุษยชาติ

ความคิดต่าง ๆ ถึงเรื่องความทุกข์ยากของมนุษยชาติ

ไม่ว่าคุณจะอยู่ทีไหนหรือไปที่ไหนก็ตาม คุณจะไม่มีความสุขนอกจากคุณจะหันไปหาพระเจ้า ดังนั้น เมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นอย่างที่คุณปรารถนาและต้องการ คุณจะตกใจกลัวไปทำไมหรือ มีผู้ใดเล่าที่มีทุกสิ่งทุกอย่างตามที่ตนปรารถนา ไม่มีเลย ไม่ใช่คุณ ไม่ใช่ผม ไม่ใช่มนุษย์คนใดในโลกนี้ ไม่มีผู้ใดในโลก ไม่ว่าจะเป็นมหากษัตริย์หรือสันตปาปาก็ตาม เขาก็หนีไม่พ้นจากการถูกทดลองและความทุกข์ยากลำบาก

ถ้าเช่นนั้น ใครจะเป็นผู้ที่ได้เปรียบ แน่นอน คงเป็นผู้ที่ยอมทนทุกข์เพื่อพระเจ้า มีผู้คนมากมายที่มีบุคลิกไม่มั่นคงและไม่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยว มักจะพูดว่า "จงดูซิ ว่าคนนั้นมีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขอย่างไร เป็นคนมั่งมีเงินทองอย่างไร เป็นคนใหญ่โตอย่างไร มีอำนาจและฤทธิ์เดชอย่างไร" แต่คุณควรจะเงยหน้าเพื่อมองดูความมั่งคั่งแห่งสวรรค์ แล้วคุณจะเข้าใจว่า ทรัพย์สมบัติที่เป็นวัตถุสิ่งของซึ่งพวกเขาพูดถึงนั้นเป็นสิ่งไร้ค่า สิ่งเหล่านี้ไม่แน่นอนและเป็นภาระหนัก เพราะถ้าเรามีสิ่งเหล่านี้ เราก็จะมีแต่ความกระวนกระวายและความกลัว ความสุขของมนุษย์ไม่ได้ประกอบด้วยการมีทรัพย์สิ่งของมากมาย มีเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว

การมีชีวิตอยู่ในโลกช่างเป็นเรื่องที่โศกศร้าจริง ๆ ยิ่งบุคคลหนี่งปรารถนาที่จะมีชีวิตฝ่ายวิญญาณก็ยิ่งทำให้ชีวิตในโลกปัจจุบันกลายเป็นสิ่งขมขื่น เพราะเขาเข้าใจถึงจุดบกพร่องและความเสื่อมทรามของธรรมชาติมนุษย์มากยิ่งขึ้น และเห็นสิ่งเหล่านั้นชัดเจนยิ่งขึ้น การกินและดื่ม การมองเห็นและการนอนหลับ การพักผ่อน การทำงานตรากตรำ และการถูกผูกมัดโดยความจำเป็นอื่น ๆ ของมนุษย์นั้น แน่นอนคงเป็นเรื่องความโศกเศร้าและนำมาซึ่งความทุกข์ใจสำหรับคนที่เคร่งศาสนา ที่มีความชื่นชมยินดีถ้าจะได้รับการปลดปล่อยจากสิ่งเหล่านี้ได้ และอยู่อย่างปราศจากบาปทั้งสิ้นอย่างแท้จริง

จิตใจมนุษย์รู้สึกว่าปัจจัยที่จำเป็นทางกายเป็นภาระหนักในโลกนี้ และเพราะเหตุนี้เอง ผู้เผยพระวจนะจึงได้ทูลขอให้พวกเขาอยู่โดยปราศจากสิ่งเหล่านี้เท่าที่เป็นไปได้ เมื่อท่านเขียนว่า

"ขอทรงบรรเทาความยากลำบากในใจของข้าพระองค์ ขอทรงนำข้าพระองค์ออกจากความทุกข์ใจของข้าพระองค์" (สดุดี 25:17 ThaiTSV1971)

แต่วิบากจะมีแก่คนเหล่านั้นที่ไม่สำนึกตัวถึงความโศกเศร้าของตนเอง และวิบากยิ่งกว่านั้นอีกแก่คนที่รักชีวิตที่โศกเศร้าและที่เสื่อมทรามนี้ จริง ๆ แล้วมีบางคนที่แทบจะหาสิ่งจำเป็นสำหรับการเลี้ยงชีพโดยการทำงานหรือโดยการขอทานไม่ได้ แต่พวกเขาก็ยังคงรักชีวิตนี้มากจนกระทั่งถ้าหากเขาอยู่ที่นี่ได้ตลอดไป พวกเขาจะไม่สนใจแผ่นดินของพระเจ้าเลย

ผู้คนเหล่านี้ที่หมกมุ่นอยู่กับสิ่งของในโลกนี้จนกระทั่งไม่ชอบอะไรเลยที่ไม่ใช่ฝ่ายเนื้อหนัง ! มนุษย์เรานี้ช่างโง่เขลาและน่าสังเวชเสียจริง ๆ เพราะในที่สุดพวกเขาจะเสียใจเมื่อพวกเขาเห็นว่าสิ่งที่พวกเขารักนั้นเป็นสิ่งไร้ค่าอย่างไร

นักบุญทั้งหลายและบรรดาผู้ที่เป็นมิตรสหายของพระคริสต์ที่มีใจเลื่อมใสศรัทธา เมื่อเอาใจใส่สิ่งที่ร่างกายพอใจหรือสิ่งที่ได้รับความนิยมเป็นครั้งคราว ความหวังและจุดมุ่งหมายทั้งหมดของพวกเขาจดจ่ออยู่ที่สิ่งที่เป็นประโยชน์เป็นนิตย์ ความปรารถนาทั้งหมดองพวกเขาพุ่งตรงไปสู่เบื้องบนและราชอาณาจักรถาวรที่ไม่ปรากฎแก่ตา เกลือกว่าความรักต่อสิ่งที่ปรากฎแก่ตาจะดึงเขาลงไปสู่สิ่งที่ต่ำต้อยกว่า

ดังนั้น พี่น้องทั้งหลายเอ๋ย อย่าท้อแท้ใจในการติดตามชีวิตฝ่ายวิญญาณของคุณเลย ยังมีเวลา และโอกาสของคุณยังไม่หมด ทำไมถึงผัดวันประกันพรุ่งในการกระทำตามเป้าหมายของคุณ ลุกขึ้นซิ ! จงเริ่มทันทีและกล่าวว่า "บัดนี้แหละคือเวลาที่ควรปฏิบัติ บัดนี้แหละคือเวลาที่จะต่อสู้ บัดนี้แหละคือเวลาเหมาะสมที่จะปรับปรุงชีวิต"

เมื่อคุณประสบความยากลำบากและทุกข์ใจ นั่นแหละคือโอกาสที่คุณจะกระทำการดี คุณจำเป็นต้องบุกน้ำลุยไฟก่อนที่จะถึงจุดหยุดพัก ถ้าหากคุณไม่ปฏิบัติอย่างรุนแรงต่อตัวคุณเอง คุณจะเอาชนะนิสัยชั่วร้ายไม่ได้

ตราบใดที่เอาศัยอยู่ในร่างกายที่อ่อนแอนี้ เราก็จะไม่สามารถเป็นคนที่ปราศจากความบาปหรือดำเนินชีวิตอย่างปราศจากความเหน็ดเหนื่อยและความเศร้าใจได้ ถ้าเราจะหยุดพักโดยปราศจากความทุกข์ใด ๆ เราก็คงจะดีใจ แต่เมื่อเราสูญเสียสภาพที่ปราศจากบาปโดยการทำบาปนั้น เราก็สูญเสียความสุขอันแท้จริง เหตุฉะนั้น เราจะต้องมีความอดทนและรอจนกว่าความชั่วร้ายนี้จะผ่านพ้นไป จนกว่าสภาพมตะนี้สวมสภาพอมตะจึงจะได้รับพระเมตตาจากพระเจ้า

ธรรมชาติของมนุษย์อ่อนแอมากขนาดไหน จึงมักทำชั่วเสมอ ๆ วันนี้คุณสารภาพบาปของคุณและพรุ่งนี้คุณก็กระทำความผิดบาปอย่างเดียวกันอีกกับที่คุณได้สารภาพมา เดี๋ยวนี้เองคุณตั้งใจที่จะระมัดระวัง แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักชั่วโมงคุณก็ปฏิบัติเหมือนกับว่าคุณไม่ได้ตั้งใจอย่างไรเลย

ฉะนั้น เนื่องจากความอ่อนแอของเรา เรามีเหตุผลที่จะถ่อมใจลง และไม่คิดอะไรใหญ่โตถึงตัวเราเอง ด้วยการละเลย เราอาจจะสูญเสียสิ่งซึ่งเราได้รับมาเพราะพระคุณของพระเจ้าและโดยความเพียรพยายามอย่างหนักในระยะเวลาที่ยาวนาน ในที่สุด อะไรจะเกิดขึ้นกับพวกเราที่มักจะสูญเสียความร้อนรนไปอย่างรวดเร็ว วิบากจะเกิดแก่เราถ้าเรานึกและกล้าสมมุติว่าจะพักได้อย่างสงบและปลอดภัย ในขณะที่ชีวิตของเราปราศจากความบริสุทธิ์แท้จริง จะเป็นประโยชน์สำหรับเราถ้าหากเอาอย่างคนที่บวชใหม่ ๆ เราจะได้รับการฝึกอบรมอีกครั้งหนึ่งในเรื่องหลักการของชีวิตที่ดี เพื่อดูว่าจะมีหวังที่เราจะปรับปรุงตัวได้และต่อไปจะเจริญก้าวหน้าในด้านจิตวิญญาณได้มากกว่านี้

หนังสือ เลียนแบบพระคริสต์ (Of The Imitation of Christ)
เขียนโดย โธมัส อาเคมพิส (Thomas à Kempis)
แปลโดย พญ. เออร์ซูลา โลเวนธอล
เรียบเรียงโดย กนกบรรณสาร

ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com