ถ้าท่านคิดว่าฐานะ รูปร่างหน้าตา สมอง ความสามารถ และเงินทอง เป็นกุญแจสู่ความสุขจริง ๆ ให้เรามาพิจารณาดูชายคนหนึ่ง ท่านเป็นกษัตริย์ผู้ร่ำรวยที่สุดองค์หนึ่งในโลกสมัยโบราณ และท่านพยายามหาความสุขโดยคิดถึงสิ่งเหล่านี้
และท่านได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งเกี่ยวกับสิ่งนี้ ชื่อว่า "ปัญญาจารย์" หรือ "ครู"
ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ท่านเขียนไว้
คนหนุ่มยากจนและมีสติปัญญาก็ดีกว่ากษัตริย์ชราและโฉดเขลา ผู้รับคำแนะนำอีกไม่ได้แล้ว... เพราะฉะนั้น ชื่อเสียงและอำนาจ ก็เป็นสิ่งไร้ประโยชน์ เหมือนกับการวิ่งไล่ตามลม คือ อนิจจัง นั่นเอง
ฐานะก็แค่นั้นแหละ
วัยชราย่างกรายเข้ามา เมื่อท่านรู้ว่ามีปัญหามากมาย เมื่อนั้นท่านจะไม่มีอะไรมากขึ้นที่จะชื่นชม ร่างกายของท่านก็จะกลายเป็นส่วนหนี่งของผงคลีในโลกนี้
รูปร่างหน้าตาก็แค่นี้แหละ
ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงตกลงใจว่าจะหาคำตอบเรื่องสติปัญญา และความรู้ ดีกว่าความโง่เขลาอย่างไร แต่ข้าพเจ้าก็ได้เรียนรู้ว่า การพยายามกลายเป็นคนฉลาดนั้นก็อนิจจังด้วย
สมองก็แค่นี้แหละ
จากนั้นข้าพเจ้าก็ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ข้าพเจ้ามีชื่อเสียงมาก ข้าพเจ้ายิ่งใหญ่กว่าใครอื่น ที่เคยอยู่ในกรุงเยรูซาเลมมาก่อน แต่เมื่อข้าพเจ้ามองดูสิ่งที่ข้าพเจ้าทำ ข้าพเจ้าคิดถึงงานหนักทั้งหลาย ทันใดนั้นข้าพเจ้าก็ได้คิดว่า ล้วนเป็นการเสียเวลา เหมือนไล่ตามลม ไม่ได้อะไรจากการงานที่ทำบนโลกนี้เลย
ความสามารถก็แค่นี้แหละ
คนที่รักเงินจะไม่มีวันได้เงินเพียงพออย่างที่ต้องการ คนที่เห็นแก่ความร่ำรวยก็จะไม่มีวันอิ่มใจกับสิ่งที่ตนหามาได้ นี่ก็ไร้ประโญชน์ ยิ่งร่ำรวย ก็ยิ่งมีเพื่อนช่วยจับจ่าย ฉะนั้น เขาจะได้อะไรล่ะ? ไม่ได้อะไร นอกจากมองความร่ำรวยของตัวเอง
เงินทองก็แค่นี้แหละ
ฉะนั้นอะไรล่ะที่สำคัญ
"อนิจจัง! อนิจจัง! สาระพัดก็อนิจจัง!"
ชายที่มีทุกสิ่งทุกอย่างก็พบว่า สิ่งที่เขามีนั้นไม่มีความหมายเลย
จะต้องมีทางอื่นที่ทำให้ตัวเราเป็นที่ยอมรับ
เดอะ ไบเบิล ลีค ไทยแลนด์
พระองค์ทรงเกี่ยวข้องกับฉันอย่างไร?
ฉันทำไม่ได้ ฉันไม่สามารถยืนสู้กับโลกนี้ได้อีกต่อไป
ฉันเกลียดความรัก
แต่ถ้าพวกเขาหัวเราะเยาะล่ะ?
ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน
ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com