ศาสนาช่วยมนุษย์ได้จริงหรือ?

เรารักคุณ รักคุณจริงๆ อยากบอกข่าวดีแก่คุณ

โลกใบนี้ดูน่ารัก

หินสวย น้ำใส เขาสูง หาดเงิน แสงทอง

ไม้งาม สัตว์น่ารัก คนดี ใจงาม

แต่ .. บางมุมของโลกใบนี้ก็น่าเกลีด เกเข บูด เบี้ยว

มันล้วนเป็นผลพวงของความบาป อาทิ ความโลภ เห็นแก่ตัว ใจแคบ อิจฉา หยิ่ง เหยียบ โหด เหี้ยม

คนเราอยากขจัดสิ่งชั่วของเสียเหล่านี้ ปีแล้วปีเล่า ตั้งแต่ยุคหินกระทั่งยุคอิเล็กทรอนิกส์ก็ขจัดไม่ได้

ยุคหนึ่ง โลกรอคอย อัศวินม้าขาว แต่แล้วก็เป็นเพียงภาพยนตร์

ยุคหนึ่ง โลกรอคอย แรมโบ้ แต่แล้วเป็นเพียงจินตนาการ

ไม่ต้องรออะไรอีกแล้ว ไม่ต้องรอระบบการเมืองอะไรอีกแล้ว เพราะไม่ได้ช่วยมาก ศาสนาก็ไม่ได้ช่วยมาก การศึกษาก็ไม่ได้ช่วยมาก

เพราะพระเจ้าให้พระเยซูมาขจัดความบาปได้ พระเจ้าเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงชีวิตได้ พระเจ้าเท่านั้นที่ให้ชีวิตที่ครบบริบูรณ์ได้ พระเจ้าเท่านั้นที่เป็นแหล่งความสุขที่แท้จริงนิรันดร

และเราสัมผัสสิ่งเหล่านั้นได้

พระเจ้าเอง ลงมาเป็นมนุษย์ คือ พระเยซู เกิดมาในโลกนี้ผ่านทางหญิงคนหนึ่งชื่อมารีย์

พระเยซูมาสอนให้คนเรารู้ว่า พระเจ้าเป็นผุ้ที่ออกแบบทุกอย่าง ล้วนเป็นสิ่งดี

แต่โลกนี้บูดเบี้ยวไป ก็เพราะมนุษย์ไม่มีความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้า และผลของความบูดเบี้ยว หรือที่เราเรียกว่า บาป ก็คือความหายนะนิรันดร์ของมนุษย์

พระเจ้ารักมนุษย์ที่พระเจ้าทรงสร้าง พระองค์หาทางออกให้มนุษย์ คือพระเจ้าเอง (พระเยซู) มาตายรับโทษแทนมนุษย์ที่มีความบูดเบี้ยวผิดบาป

พระเยซูสร้างชีวิตใหม่ให้แก่มนุษย์ เมื่อคนนั้นเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระเจ้าที่มารับโทษแทนเขา เขาก็จะรอดพ้นจากการพิพากษาของพระเจ้า และได้รับชีวิตใหม่ นี่แหละ ... ข่าวดี

ข่าวดี ... ดีตรงไหน?

  1. เราเป็นคนบาป ... พระเยซูชดใช้บาปแทนเรา ให้อภัยบาปเราได้

  2. พระเจ้าให้เรามีความสัมพันธ์กับพระองค์ ... นั่นแหละแหล่งความสุขแท้จริงนิรันดร์

  3. เราเป็นบุตรของพระเจ้า ... มีพระบิดาบนสวรรค์ที่แสนดี และนิสัยที่ดีตามแบบที่พระเจ้าต้องการ

  4. พระเจ้าสร้างเราให้เป็นคนใหม่ ... คนที่ค่อย ๆ มีความคิด และนิสัยที่ดีตามแบบที่พระเจ้าต้องการ

  5. เรามีชีวิตที่ครบบริบูรณ์ ชีวิตที่นิรันดร์ ... ตั้งแต่วันที่เราเชื่อพระเยซู กระทั่งจากโลกนี้ไปสู่พระเจ้า

  6. เรามีพระวิญญาณของพระเจ้าในชีวิตของเรา ... คอยชี้แนะแนวทางที่ดีที่ถูก ให้กำลังใจ ให้สติปัญญา ในการดำเนินชีวิต

ข่าวไม่ดี ... ไม่ดีตรงไหน?

ก็ตรงที่ ถ้าเราไม่เชื่อพระเยซู ก็ไม่มีทางอื่นเลยที่จะสัมผัสความสุขเที่ยงแท้นิรันดร์

เพราะพระเยซูช่วยมนุษย์ เราจึงฉลองคริสต์มาสในงานฉลอง เรามีของสวย ๆ น่ารัก อาทิ

  • ลูกโป่ง มีมากมายหลากสี มักทำให้เพลินตา มีความชื่นชมยินดี เวลามันลอยขึ้นไป ให้ความรู้สึกสบาย ๆ เบา ๆ มีความสุข เพราะพระเจ้าให้อภัยบาปเราแล้ว

  • ของขวัญ มักจะหมายถึงความรักที่แสดงออกในรูป "การให้" และ "การรับ" เมื่อเราได้รับความรักจากพระเจ้า เราก็ให้ความรักแก่คนอื่น

  • ซานตาครอส จากประวัติ เป็นคนที่เมตตา ใจดี ใจกว้าง เอาใจใส่คนยากไร้ คนด้อย โอกาสทำให้เราคิดถึงว่า เมื่อพระเจ้าเมตตาเรา เราก็เมตตาคนอื่น

  • ขนมหวาน จะเป็นเค้ก ท๊อฟฟี่ ช็อกโลแลต ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ล้วนให้ความหมายของความหวานชื่นในชีวิต ดีใจที่พระเยซูมาช่วยให้เราหลุดพ้นจากการครอบงำของความบาปไป

  • ต้นคริสต์มาส ต้นไม้ให้ความหมายถึงความมีชีวิตและการเจริญเติบโต ชีวิตที่มีพระเยซูก็เติบโต มีสีสัน น่ารักอย่างต้นคริสต์มาสแหละ

  • ดวงดาว เมื่อพระเยซูเกิดนั้น มีดาวสว่างสุกไสในท้องฟ้า มีนักปราชญ์กลุ่มหนึ่งเห็นดาวนี้ จึงเข้าใจทันทีว่ามีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น และนักปราชญ์กลุ่มนี้ก็ติดตามดาวนี้ แสวงหาความจริงของพระเจ้า ส่วนนักปราชญ์หาพระเยซูก็สะท้อนให้เราเห็นว่า แม้มนุษย์จะเก่งอย่างไร ก็แสวงหาความจริงของโลกเองไม่ได้ นอกจากพระเจ้าจะเปิดเผยชี้ทางให้

เมื่อคุณรู้เรื่องของพระเยซู คุณก็เริ่มรู้ความหมายของคริสต์มาส ความรู้ไม่ได้ช่วยอะไรมาก แต่การเชื่อในพระเยซูช่วยคุณได้ตลอดนิรันดร์

กนกบรรณสาร


  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com