4 คำถามที่น่าประหลาดใจในวันคริสต์มาส

เมื่อเอ่ยถึงวันคริสต์มาสเป็นสิ่งที่คนไทยเราคุ้นเคยมาก สำหรับผู้ที่เป็นคริสเตียนก็จะทราบว่า ความหมายของวันคริสต์มาสนั้นเป็นการเฉลิมฉลองวันประสูติขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า และถ้าเราสังเกตให้ดี เราจะเห็นว่ามี 4 คำถามที่น่าประหลาดใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับวันคริสต์มาส

1. เมื่อเราทำการเฉลิมฉลองวันเกิดให้กับใครก็ตาม เรามักจะเฉลิมฉลองในวัยหรืออายุ ที่เขาเป็นอยู่ในเวลานั้น ๆ แต่การเฉลิมฉลองคริสต์มาสของทุก ๆ ปีนั้นเรามักจะเห็น พระเยซูคริสต์ในสภาพของเด็กทารก เพราะเหตุไรจึงเป็นเช่นนั้น ?

เพราะเป็นการระลึกถึงพระคุณความรักของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์ทุกคน

มนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตสิ่งเดียวในโลกที่มีอิสระในการเลือกที่จะตัดสินใจว่าจะทำตามหรือ ไม่ทำตามกฏศีลธรรมที่ดีงามที่พระเจ้าบรรจุไว้ในจิตใจของเขาได้ และเขาต้องรับผิดชอบต่อ การกระทำที่เกิดขึ้นของเขาทุกอย่าง และถ้ามนุษย์สัตย์ซื่อกับตัวเราเอง เราต้องยอมรับว่า มนุษย์ทุกคนล้วนแต่ทำบาปทั้งสิ้น ดังนั้นเราต้องพบกับการพิพากษาของพระเจ้าและการพิพากษา ของพระองค์ยุติธรรม คือ ติดเงินใช้เงิน ติดทองใช้ทอง มนุษย์ทำบาปด้วยร่างกาย เขาก็ต้องใช้ร่างกายเพื่อรับโทษ และปลายทางก็คือบึงไฟนรก

แต่เพราะเหตุความรักที่พระเจ้ามี ต่อมนุษย์ที่พระองค์ทรงสร้าง พระเจ้าจึงได้ประทานพระเยซูคริสต์พระบุตคองค์เดียวของ พระองค์มารับสภาพเป็นมนุษย์ เพื่อใช้ร่างกายนั้นไถ่บาปแก่ทุกคนที่สำนึกว่าตนเองเป็นคน ผิดคนบาปและหันมากลับมาพึ่งในพระองค์

ดังนั้นการที่วันคริสต์มาสเรามักจะเห็น พระเยซูคริสต์ในสภาพเด็กทารกก็เพราะเหตุผลข้างต้นนี้เองและในวันคริสต์มาสเราจะ เห็นว่ามีการให้ของขวัญกันนั่นเป็นการระลึกถึงการที่พระเจ้าทรงประทานของขวัญที่ดีที่สุด แก่เราที่เป็นมนุษย์ เพียงแต่เราจะเปิดใจรับ หรือไม่เท่านั้นเอง

2. สำหรับบุคคลที่สำคัญในอดีต หรือในประวัติศาสตร์ เมื่อเราจะจัดวันเกิดให้แก่เขา ส่วนมากเราจะใช้คำว่า "ระลึกถึงวันประสูติหรือวันเกิดของบุคคลนั้น ๆ " แต่เพราะเหตุไรใน วันคริสต์มาส เราจึงใช้คำว่า "เฉลิมฉลอง" และมีปรากฏการณ์เฉลิมฉลองราวกับว่า พระเยซูคริสต์ยังไม่ตาย แต่อยู่ร่วมในงานเฉลิมฉลองวันเกิดให้กับพระองค์ด้วย?

นั่นเป็นเพราะว่าหลังจากพระเยซูคริสต์ตายบนไม้กางเขน (เพื่อรับโทษบาปแทนมนุษย์) และถูกนำไปฝังในอุโมงค์ฝังศพไว้ 3 วัน พระองค์ก็เป็นขึ้นมาจากความตาย และนี่เป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดของความเชื่อในศาสนาคริสเตียน

ถ้าพระเยซูคริสต์ไม่ได้ เป็นขึ้นมาจากความตาย ศาสนาคริสต์ก็เป็นศาสนาที่โกหกมนุษย์และน่าสมเพชที่สุด แต่ความจริงพระเยซูคริสต์ทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย และนี่คือความจริงที่มนุษย์แม้เขาไม่เชื่อแต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงนี้ได้เลย ความจริงก็ยังเป็นความจริงอยู่ดี

ถ้ามีคนคนหนึ่งไปฉลองวันเกิดให้กับคนที่ตายไปแล้วและทำท่าเหมือนกับคนที่ตายไป แล้วนั้นยังมีชีวิตอยู่ เราก็คงคิดว่าเขาก็เป็นคนที่สติไม่ดีเป็นแน่ และถ้าพระเยซูคริสต์ตายไปแล้ว และไม่ได้เป็นขึ้นจากความตาย คนที่เฉลิมฉลองวันเกิดให้กับพระองค์ก็คงเป็นคนที่สติไม่ดีแน่ ๆ แต่ความจริงไม่ใช่เช่นนั้น เพราะพระองค์เป็นขึ้นจากความตายในวันที่สาม ดังนั้นคนที่จัด วันคริสต์มาสจึงใช้คำว่า "เฉลิมฉลอง" ก็เพราะเหตุนี้

3. เพราะเหตุไรวันคริสต์มาสจึงมีคนเข้าร่วมเฉลิมฉลองกันทั่วโลก?

การที่คนทั่วโลกฉลองวันเกิด หรือการที่พระเยซูคริสต์มีอิทธิพลต่อทั่วโลก ต่อคนทุกชาติทุกศาสนานั้น นั่นกำลังเป็นข้อพิสูจน์อย่างชัดเจนว่า พระเยซูคริสต์ทรงเป็น พระบุตรของพระเจ้าจริง ๆ นั่นเอง เราจะไม่เคยเห็นบุคคลในโลกเลยที่มีอิทธิพลต่อ มนุษชาติมากเหมือนกับพระเยซูคริสต์

เมื่อ 2,000 ปีที่แล้วขณะที่พระองค์กำลังอยู่ในโลก พระองค์ยากจน ไม่มีฐานะ ไม่เคยเขียนหนังสือ ไม่เคยเดินทางไกลเกิน 200 กิโลเมตรจากที่ที่พระองค์เกิด พระเยซูคริสต์ทรงทำงานในโลกเพียง 3 ปีครึ่งเท่านั้น แต่สิ่งที่พระองค์ทำ มีอิทธิพลยืนนานจนถึงทุกวันนี้ และขยายออกไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าเรื่องของพระองค์ไปที่มุมไหน ของโลก สิ่งใหม่ ๆ ที่ดี ๆ เกิดขึ้นที่นั่น คนท้อใจได้รับกำลังในการต่อสู้ชีวิต คนที่เผชิญกับ ปัญหาได้รับกำลังได้รับกำลังในการเผชิญกับปัญหานั้นคนผิดบาปได้รับการเปลี่ยนแปลงชีวิต คนที่ไม่รู้จักความหมายของการมีชีวิตอยู่ ได้รับคำตอบของชีวิต คนที่กลัวความตาย กลับกล้าที่จะเผชิญกับความตายด้วยความกล้าหาญ นั่นเพราะได้สัมผัสความรัก และชีวิตของพระเยซูคริสต์นั่นเอง

ดังนั้นเขาเหล่านั้นจึงเฉลิมฉลองเพื่อระลึกถึง พระคุณความรักของพระองค์ ทั่วโลก ดังที่เราเห็นกันอยู่ในทุกวันนี้

4. เพราะเหตุไรจึงมีคนมากมายที่เฉลิมฉลองวันคริสต์มาสโดยไม่รู้ความหมายที่แท้จริง?

เป็นเรื่องน่าตลกมาก ถ้าเราไปงานวันเกิดและทำการฉลองโดยไม่มีเจ้าภาพอยู่ด้วย แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากในโลกที่ทำเช่นนั้น

และถ้าจะถามว่าเพราะเหตุไรคนมากมาย ถึงแม้ไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของวันคริสต์มาสก็ยังอยากมีส่วนในการฉลองด้วย ?...

นั่นก็เพราะว่ามนุษย์ทุกคนอยากมีส่วนหรืออยากได้รับความชื่นชมยินดี เพราะเขาเผชิญกับชีวิตที่เต็มไปด้วยการต่อสู้ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการผิดหวัง สมหวัง หัวเราะ และการร้องไห้ ฯลฯ ดังนั้นเขาเหล่านั้นอยากจะลืมเหตุการณ์ต่าง ๆ และให้ชีวิตมีความชื่นชมยิดีบ้างซึ่งเขาก็ได้รับจริง ๆ

เมื่อเขาเข้าร่วมฉลองในวันคริสต์มาส แต่เขาไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของวันคริสต์มาสและไม่รู้ว่าความหมายของวันคริสต์มาส นั้นเกี่ยวข้องกับเขาอย่างลึกซึ้ง และมีผลต่อชีวิตของเขาทั้งในโลกนี้และในโลกหน้าแล้ว ความชื่นชมยินดีในการฉลองวันคริสต์มาสของพวกเขานั้นก็เป็นความชื่นชมยินดีชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น....

ผู้อ่านที่รักทุกท่าน พระเยซูทรงรักท่านและปรารถนาจะให้ชีวิตของพระองค์เป็น ค่าไถ่บาปให้แก่ชีวิตของท่าน อย่าให้คริสต์มาสปีนี้เป็นเหมือนกับคริสต์มาสปีอื่น ๆ ที่ผ่านไป ขอให้คริสต์มาสปีนี้เป็นปีที่ท่านจะได้รับคำตอบของชีวิต และได้รับความอิ่มใจและ ความชื่นชมยินดีที่จะติดตัวท่านไปตลอดชีวิตดังเช่นคนนับหลานล้านคนทั่วโลกได้รับมาแล้ว...

อ.นิกร สิทธิจริยาภรณ์
http://www.ccma.i-p.com

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com