น้อยใจไปทำไมในวันคริสต์มาส?

สมัยที่ผมยังเป็นวัยรุ่นอยู่ ผมจะมักได้ยินเสียงรำพึงรำพันของคนที่ผิดหวังในรักเป็นบทเพลงว่า

"มันน่าน้อยใจจริงเรา

หลงรักนงเยาว์มัวเมาเอาใจ

ช่างไม่เหลือเยื่อใย

ช่างไม่เห็นใจใยดี"

และสิ่งที่ตามมาก็คือ คนขี้ น้อยใจ ที่ใจเปราะบาง ก็จะประชดชีวิตด้วยการปลิดชีวิตของตน ทั้ง ๆ ที่ยังครวญคร่ำไม่จบเพลง

จากนั้นก็ทิ้งสังขารของตนไว้ให้ผู้บังเกิดต้อง คร่ำครวญโหยหา ด้วยใจที่ ปริ่มจะละลาย

แต่บางคนอาจดีกว่าหน่อย เพราะหลังจากเสียน้ำตา อาลัยอาวรณ์ไปสักระยะหนึ่งแล้ว ก็ตั้งสติทันท่วงที

เขาไม่คิดทำร้ายทำลายทั้งชีวิตของตนและของผู้อื่น เขากัดฟันสู้ทน

จนกระทั่ง วันเวลา ที่เปรียบดุจยาวิเศษ ได้ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด และสมานแผลใจ ให้หายไปในที่สิด

ตาศัพท์นั้น คำว่า "น้อยใจ" หมายความว่า "รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้รับความพอใจ"

อันที่จริงแล้ว มันก็น่าจะเป็นเช่นนั้นไม่ใช่เหรอครับ หากว่าเราสู้เอาอกเอาใจเขาหรือเธอ ทุกอย่างแล้ว ยังคงไม่ได้รับความพึงพอใจจากเขา หรือเธอ สนองกลับ

อย่างไรก็ตาม "คนน้อยใจ" นั้นยังไม่น่ากลัวเท่ากับ "คนใจน้อย"

เพราะ "คนน้อยใจ" ปกติ ก็แค่เก็ความรู้สึกเสียใจไว้กับต้ว และยอมรับชะตากรรมของตนโดยดุษฎี

แต่ "คนใจน้อย" นั้นแตกต่างกันออกไป เพราะคำว่า "ใจน้อย" หมายความว่า "โกรธง่าย" และเมื่อใดก็ตามที่คนใจน้อยเกิดโกรธขึ้นมา เมื่อนั้นใครมา ขวางหน้า ก็อาจจะบรรลัย

น่ากลัวจริง ๆ ใช่ไหมครับ

อันที่จริงแล้ว คน "น้อยใจ" หรือ คน "ใจน้อย" มีสาเหตุร่วมกันประการหนึ่ง นั่นก็คือ "สิ่งที่ตัวเองกระทำ ไม่ได้รับความสนใจ หรือรับความชื่นชม จากอีกฝ่ายหนึ่ง"

ซึ่งถ้าหากตัวของคุณเองอยู่ในสภาพเช่นนั้น คุณก็คงจะรู้สึกอย่างนั้น เช่นกัน ใช่ไหมครับ

แต่ไม่ว่าตลอดปีที่ผ่านมา คุณจะประสบเหตุการณ์ใดที่ทำให้คุณน้อยใจ หรือใจน้อย

คุณก็ไม่จำเป็นที่ปล่อยให้ความรู้สึก "เสียใจ" หรือ "โกรธแค้น" ดังกล่าวเกิดขึ้นในวัน คริสมาส นี้

ทำไมนะหรือ?

ก็เพราะว่า พระเจ้าผู้ทรงสร้างคุณได้ทรงพิสูจน์แล้วว่า พระองค์ทรงรัก ห่วงใย และพอใจในตัวคุณเป็นอย่างยิ่ง

ในวันคริสต์มาสนี้ พระเจ้าเสด็จลงมาในโลก เพื่อจะช่วยทั้ง คุณ และผม ให้รอดพ้นความทุกข์เจ็บปวด เพราะโทษของบาป

ยิ่งกว่านั้นอีก ในอนาคต พระองค์จะเสด็จกลับมารับคุณไปอยู่กับพระองค์ตราบนิรันดร

ดังที่พระธรรมวิวรณ์ ซึ่งเป็นหนังสือเล่มสุดท้ายในพระคัมภีร์ไบเบิล ได้บันทึกคำทำนายในอนาคตไว้ว่า

"พระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุก ๆ หยดจากตาของเขา ความตายจะไม่มีอีกต่อไป การคร่ำครวญ การร้องไห้ และการเจ็บปวดจะไม่มีอีกต่อไป เพราะยุคเดิมนั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว"

ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะประสบความผิดหวัง ขมขื่น หรือเจ็บปวดสิ้นหวังอะไรมาในตลอดปีที่ผ่านมา

... ขอให้วันคริสต์มาสนี้ คุณจะได้รับการปลอดประโลมใจ จากพระเจ้า และได้รับการช่วยให้รอดพ้นโดยพระเจ้าแห่งวันคริสต์มาสนี้

แท้จริง พระนามของพระองค์ คือ "พระเยซูคริสต์" ซึ่งบ่งบอกถึงพระเมตตากิจของพระองค์อยู่ในตัวแล้ว

นั่นคือ คำว่า "เยซู" มาจากภาษากรีก หมายถึง "ผู้ช่วยให้รอด"

ส่วนคำว่า "คริสต์" ก็มาจากภาษากรีกเช่นกัน แปลว่า "ผู้ที่ได้รับการเจิมแต่งตั้ง"

ด้วยเหตุนี้เอง "วันคริสต์มาส" ก็คือวันที่พระบุตรของพระเจ้าผู้ได้รับการแต่งตั้ง ให้เป็นผู้ช่วยคุณและผมให้รอดพ้นจากความทุกข์ทรมานของนรกทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ถ้าเรา "เต็มใจให้พระองค์ช่วย"

ถ้าเป็นดังนี้แล้ว วันคริสต์มาสปีนี้ คุณจะมัวจมอยู่กับความ "น้อยใจ" หรือความ "ใจน้อย" จนเสียเวลาที่ดีของชีวิตไปทำไม ?

สู้มารับ "การช่วยกู้" ของ "พระคริสต์แห่งวันคริสต์มาส" และรื่นเริงเปรมปรีดิ์กับ "สันติสุขจากสวรรค์" ไม่ดีกว่าหรือ ?

พระองค์ผู้เป็นเจ้าของวันคริสต์มาส ตรัสเชิญชวนว่า

"เรามอบสันติสุขไว้ให้แก่ท่านทั้งหลาย สันติสุขของเราที่ให้แก่ท่านนั้น เราให้ท่านไม่เหมือนโลกให้ อย่าให้ใจของท่านวิตก และอย่ากลัวเลย"

ฉะนั้น ในวันคริสต์มาสนี้ ระหว่าง "ความทุกข์" เพราะน้อยใจมนุษย์ หรือ "ความสันติสุข" เพราะวางใจในพระเจ้า ...

คุณจะเลือกเอาอะไร?

ผมเลือกของผมแล้ว...

คุณล่ะ เลือกของคุณแล้วหรือยัง ?

อ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com