กิจกรรม
แห่งความเชื่อ

"33 เพราะความเชื่อท่านเหล่านั้นจึงได้มีชัยเหนือดินแดนต่างๆ
ได้ตั้งระบบความยุติธรรม
ได้รับผลของพระสัญญา ได้ปิดปากสิงห์
34 ได้ดับไฟที่ไหม้อย่างรุนแรง ได้พ้นจากคมดาบ
ความอ่อนแอของท่านก็กลับเป็นความเข้มแข็ง
มีกำลังความสามารถในการทำสงคราม
ได้ตีกองทัพประเทศอื่นๆ แตกพ่ายไป"
(ฮีบรู 11:33-34)

ทางฝ่ายสรีระ เรามีจักษุประสาททำให้เกิดการเห็น ความเชื่อก็เป็นจักษุประสาททางฝ่ายจิตใจ และไม่เพียงแต่เป็นจักษุประสาท แต่ยังควบคู่ไปกับประสาททั้งห้าของฝ่ายร่างกาย เกี่ยวกับสิ่งที่นัยน์ตาไม่อาจมองเห็นได้ เป็นความรู้สึกมั่นใจว่าสิ่งที่ยังไม่เห็นนั้นมีจริง

"ความเชื่อคือความแน่ใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นความรู้สึกมั่นใจว่า สิ่งที่ยังไม่ได้เห็นนั้นมีจริง" (ฮีบรู 11:1)

ด้วยความเชื่อเราจึงแน่ใจในสิ่งที่ยังไม่ได้เห็น แต่มีจริง ความเชื่อให้ข้อพิสูจน์ในเรื่องฝ่ายวิญญาณว่ามีจริง ทำให้เราแน่ใจสิ่งที่มีอยู่ในอนาคต

ความเชื่อไมใช่เป็นความเฉื่อยชา อยู่นิ่งเฉย ไม่ใช่สภาพจิตใจที่ว่างเปล่า ไม่ใช่การไม่เอาใจใส่เรื่องศีลธรรม แต่เป็นเคล็ดลับที่ช่วยดลใจให้กระทำกิจการต่าง ๆ ได้มากขึ้น

ผู้เขียนจดหมายถึงชาวฮีบรูเน้นมากเรื่องที่บรรพบุรุษได้กระทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยความเชื่อ

"33 เพราะความเชื่อท่านเหล่านั้นจึงได้มีชัยเหนือดินแดนต่างๆ ได้ตั้งระบบความยุติธรรม ได้รับผลของพระสัญญา ได้ปิดปากสิงห์

34 ได้ดับไฟที่ไหม้อย่างรุนแรง ได้พ้นจากคมดาบ ความอ่อนแอของท่านก็กลับเป็นความเข้มแข็ง มีกำลังความสามารถในการทำสงคราม ได้ตีกองทัพประเทศอื่นๆ แตกพ่ายไป" (ฮีบรู 11:33-34)

ที่กล่าวมานี้ คงไม่ใช่ความเฉื่อยชาแน่ ๆ ความเชื่อของบรรพบุรุษเหมือนแรงกระตุ้นนำไปสู่ความสำเร็จอันมหัศจรรย์เหล่านี้ ถ้าเรามีความเชื่อคล้าย ๆ อย่างนี้ เราคงได้รับการดลใจให้สามารถทำกิจการใหญ่มากมายเพื่อพระเจ้า

ความเชื่อทำให้เราสามารถเห็นพระเจ้าได้ ถึงแม้ว่าพระเจ้าเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น ความเชื่อของโมเสสช่วยให้สามารถทนต่อความทุกข์

"เพราะความเชื่อ ท่านได้ออกจากประเทศอียิปต์ โดยมิได้เกรงกลัวความกริ้วของกษัตริย์ เพราะท่านมั่นใจประหนึ่งได้เห็นพระองค์ผู้ไม่ทรงปรากฏแก่ตา" (ฮีบรู 11:27)

การที่โมเสสได้เห็นพระเจ้านั้น ไม่เพียงแต่ช่วยให้โมเสสทนต่อความทุกข์ได้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้โมเสสเข้าใจสัจธรรมของชีวิตด้วย ความเชื่อทำให้โมเสสมีกำลัง ยอมสละสิทธิพิเศษที่ได้รับในพระราชวัง เพราะเห็นแก่งานรับใช้ด้านจิตวิญญาณ

ความเชื่อจะเติบโตขึ้นโดยการศึกษาพระวจนะของพระเจ้า และจะเบ่งบานเต็มที่ในบรรยากาศแห่งการสถิตอยู่ของพระองค์ ความเชื่อไม่มีวันที่จะเป็นเหมือนเดิม เมื่อเราตัดสินใจเชื่อเป็นอาการเบื้องต้น และในระหว่างที่เชื่อก็มีเรื่องให้ตัดสินด้วยความเชื่ออีกหลายครั้ง ความเชื่อจะเติบโตขึ้นจนกลายเป็นทัศนคติ และถึงขั้นที่ความเชื่อฝังตัวกลายเป็นนิสัยใจคอของเรา การตัดสินใจเชื่อครั้งแรก นำไปสู่การดำเนินชีวิตกับพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ

J. Oswald Sanders
จากหนังสือ ฤทธิ์เดชแห่งความเชื่อ
สำนักพิมพ์ กนกบรรณสาร

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com