พระเจ้ามีจริงไหม?

ก่อนอื่น เราต้องทราบก่อนว่า มนุษย์เราไม่มีทางที่จะพิสูจน์พระเจ้าได้เลย เพราะอะไรน่ะหรือ ? ... ก็เพราะว่า พระเจ้าทรงอยู่เหนือความคิดของเรา พระองค์ทรงใหญ่กว่าเรา พระองค์ทรงเป็นผู้สร้างเรา เราไม่สามารถมองเห็นพระองค์ได้

ถ้าเช่นนั้นเราจะรู้ได้อย่างไรว่าพระเจ้ามีจริง ? ... ก่อนอื่นมีอยู่ 3 ประการที่เราควรจะทราบ

  1. ถ้าพระเจ้าไม่สร้าง มนุษย์จะรู้อะไรได้ ?

  2. ถ้าพระเจ้าสร้างแต่ไม่นำออกมาให้มนุษย์เห็น มนุษย์จะรู้อะไรได้ ?

  3. ถ้าพระเจ้าสร้าง เอาออกมาให้เห็น แต่ถ้าพระองค์ไม่สร้างสติปัญญาให้แก่มนุษย์ มนุษย์จะรู้อะไรได้ ?

"19 เหตุว่าเท่าที่จะรู้จักพระเจ้าได้ก็แจ้งอยู่กับใจเขาทั้งหลาย เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงโปรดสำแดงแก่เขาแล้ว

20 ตั้งแต่เริ่มสร้างโลกมาแล้ว สภาพที่ไม่ปรากฏของพระเจ้านั้น คือฤทธานุภาพอันถาวรและเทวสภาพของพระองค์ ก็ได้ปรากฏชัดในสรรพสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้าง ฉะนั้นเขาทั้งหลายจึงไม่มีข้อแก้ตัวเลย" (โรม 1:19-20)

ในท่ามกลางสรรพสิ่งทั้งปวงที่พระเจ้าทรงสร้างนั้น พระเจ้าทรงบอกอย่างชัดเจนว่า มนุษย์นั้นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการทรงสร้างของพระเจ้า

ทำไมจึงกล่าวเช่นนั้น ? ... นั่นก็เพราะว่ามนุษย์นั้นถูกสร้างให้เหมือนกับพระเจ้า แต่ไม่ใช่พระเจ้า

(ถ้ามีคนบอกว่า ผมหน้าเหมือนลิง ผมอาจจะไม่ค่อยชอบ แต่อย่างน้อยผมก็ยังดีใจว่าผมไม่ใช่ลิง แต่ถ้ามีคนบอกว่าผมหน้าเหมือนคน คำพูดนี้ผมไม่ชอบแน่ ๆ ทำไมน่ะหรือ ? ... ก็เพราะว่าผมเป็นคนอยู่แล้ว ทำไมต้องเหมือนด้วย)

และไม่เพียงแต่พระเจ้าจะสร้างมนุษย์ให้เหมือนกับพระองค์เท่านั้น พระองค์ยังทรงได้สร้างสติปัญญาให้กับมนุษย์ ที่จะสามารถรู้เรื่องของพระองค์ได้ด้วย และเพราะเหตุนี้ ทำให้มนุษย์ไม่มีข้อแก้ตัวได้เลยว่า จักรวาลนี้มีผู้สร้าง คนที่เถียง หรือไม่ยอมรับว่าโลกนี้มีผู้สร้าง พระคริสตธรรมคัมภีร์ได้บอกว่า เขาเป็นคนโง่ ไร้เหตุผล และอยากเถียงเพื่อเอาชนะ (สดุดี 14:1)

"คนโง่รำพึงอยู่ในใจของตนว่า ไม่มีพระเจ้า" (สดุดี 14:1)

ทำไมพระคริสตธรรมคัมภีร์จึงบอกเช่นนี้ ? ... นั่นเพราะว่า ท่ามกลางสรรพสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างนั้น มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตสิ่งเดียวที่สามารถรับการเปิดเผยของพระเจ้าได้

ถ้าผมจะถามคุณว่า คุณเชื่อไหมว่า รอบตัวของคุณมีคลื่นวิทยุ ? ... คุณคงตอบว่าเชื่อ

และถ้าผมถามต่อว่า ระหว่างแก้วน้ำ กับเครื่องรับวิทยุ สิ่งไหนสามารถที่จะรับ และตอบสนองคลื่นวิทยุได้ ? ... คำตอบก็คือ วิทยุอย่างแน่นอน

เช่นเดียวกัน หลังจากที่พระเจ้าสร้างโลกนี้แล้ว พระองค์ก็ทรงเปิดเผยเรื่องของพระองค์ (ส่งคลื่น) และก็มีเพียงมนุษย์เท่านั้นมีสามารถจะรับคลื่น และตอบสนองคลื่นของพระเจ้าได้

แล้วคลื่นของพระเจ้าที่ส่งมานั้น มีจุดประสงค์อะไร ?

จุดประสงค์ที่พระเจ้าทรงส่งคลื่นมาให้แก่มนุษย์

1. เพื่อให้มนุษย์ทั่วโลกเถียงไม่ได้เลยว่า จักรวาล และโลกนี้ มีผู้สร้าง

ถ้าคุณเดินเข้าไปในป่า ไปพบกระดาษยับ ๆ แผ่นหนึ่งที่มีรูปวาดที่ไม่ค่อยสวยไหร่ (สงสัยว่าจะเป็นผีมือเด็กไม่เกิน 10 ขวบวาด) ซึ่งเป็นภาพวาดของวิว หรือทิวทัศน์ของธรรมชาติ มีดวงอาทิตย์ มีนก ภูเขา ต้นไม่ ฯลฯ คุณก็สามารถเข้าได้ได้เลยทันทีว่า รูปนี้มีคนวาด ถึงแม้คุณจะมองไม่เห็นคนวาดก็ตาม คุณสามารถเข้าใจได้ว่า ถ้าจะเอาแผ่นกระดาษขาวเปล่า ๆ มาจ้องสักสิบ หรือร้อย หรือล้านล้านปี ก็ไม่มีทางเกิดรูปวิวเหล่านี้ได้ ถ้ามันจะเกิดรูปวิวเหล่านี้ได้ นั่นแสดงว่าจะต้องมีคนวาดขึ้นมาอย่างแน่นอน (และถ้ามีคนเถียงคุณว่า รูปนี้ไม่มีคนวาด แต่มันบังเอิญเกิดขึ้นเอง คุณจะเชื่อเขาหรือ ? คนที่เถียงว่ารูปนี้เกิดขึ้นเอง ก็มีแต่คนโง่ คนบ้า คนไร้เหตุผล และเถียงเพื่อเอาชนะเท่านั้น)

ขนาดรูปที่ไม่สวย ที่คุณพบนั้น ยังเกิดขึ้นเองไม่ได้ แต่ต้องมีคนวาดขึ้นมา คุณลองคิดดูซิครับว่า แล้วจักรวาลและธรรมชาติอันงดงามที่สวยกว่ารูปที่คุณเห็นหลายร้อยหลายพันเท่า มันจะเกิดขึ้นเองได้อย่างไร ... แน่นอน มันเกิดขึ้นเองไม่ได้ แต่ต้องมีผู้สร้างขึ้นมา ... คุณเข้าใจได้

พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้มีตาอยู่ในสมอง นั่นคือ ความเข้าใจ หรือสติปัญญาในการเข้าใจ

"คนมีสติปัญญามีตาอยู่ในสมอง..." (ปัญญาจารย์ 2:14)

เมื่อคนฝรั่งเขาเข้าใจบางสิ่ง เขาจะพูดว่า "I see" ถ้าคุณถามเขาว่า "What do you see?" เขาก็ตอบว่า "No. I don't see anything." แล้วคุณก็ถามว่า "Why don't you say "I understand"?" เขาก็ตอบว่า "Yes. Yes. I see. I see."

จากตัวอย่างนี้เราจะเห็นว่า คนฝรั่งมีความคิดที่ว่า "ถ้าเขาเข้าใจ ก็เท่ากับตาของเขามองเห็นแล้ว"

เช่นเดียวกัน ถึงแม้เรามองไม่เห็นพระเจ้าผู้ทรงสร้าง แต่เมื่อเราเห็นสรรพสิ่งในธรรมชาติแล้ว เราก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า จักรวาลนี้มีผู้สร้าง ... คุณ see แล้วหรือยัง ?

2. ก็เพื่อให้มนุษย์ไม่มีข้อแก้ตัวเลยว่า พระเจ้ามีกฎบริสุทธิ์ให้กับเขา และเขาต้องรับผิดชอบต่อกฎนั้น

"15 เขาแสดงให้เห็นว่าหลักความประพฤติที่เป็นตามธรรมบัญญัตินั้น มีจารึกอยู่ในจิตใจของเขา และใจสำนึกผิดชอบก็เป็นพยานของเขาด้วย ความคิดขัดแย้งต่างๆของเขานั้นแหละจะกล่าวโทษตัวเขา หรืออาจจะแก้ตัวให้เขา

16 ในวันที่พระเจ้าทรงพิพากษาความลับของมนุษย์โดยพระเยซูคริสต์ ทั้งนี้ตามข่าวประเสริฐที่ข้าพเจ้าได้ประกาศนั้น" (โรม 2:15-16)

มอเตอร์ไซด์ ซึ่งถูกสร้างมาเพื่อให้ขับขี่ ไม่ใช่นำมาแบก ถ้าใครนำมาแบก มันขัดวัตถุประสงค์ที่มันถูกสร้างมาแน่ ๆ

เช่นเดียวกับมนุษย์เรา ถูกพระเจ้าสร้างขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์ให้เขาประกอบการดี ถ้าหากเขาใช้ผิดวัตถุประสงค์ เขาจะรู้สึกถึงการขัดแย้งภายในทันที

พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ และมีกฎให้เขา และพระองค์ทรงให้มนุษย์ตัดสินใจได้เองว่า จะทำตามกฎของพระเจ้าหรือไม่ (รายละเอียด เราจะพูดกันในหัวข้อต่อไป)

หลังจากที่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์แล้ว พระองค์ได้ใส่กฎและจิตสำนึกผิดชอบลงไปในมนุษย์ จิตสำนึกผิดชอบนี้ มันจะเป็นพยาน และเห็นเหมือนสัญญาณกันขโมยให้แก่มนุษย์ เมื่อมนุษย์ทุกคนกำลังเผชิญเหตุการณ์ที่จะต้องเลือกระหว่างดีและชั่ว จิตสำนึกผิดชอบของเขาจะทำงานทันที โดยมันจะชี้ให้เขารู้อยู่แก่ใจว่า อย่าเลือกในสิ่งที่ผิด (ทุกคนจะรู้สึกถึงการเตือนนี้ได้ โดยที่หัวใจเขาจะเต้นเร็วผิดปกติ)

แต่มนุษย์มีสิทธิ์เลือก ถ้าเขาเลือกที่จะฟังมัน ไม่ไปทำผิด เขาจะรู้สึกภูมิใจ และรู้สึกดี แต่ถ้าเขาเลือกที่จะไม่เชื่อฟังมัน และไปทำสิ่งที่รู้อยู่แก่ใจว่าผิด เขาจะรู้สึกถึงการขัดแย้งภายในจิตใจของเขาทันที และถ้าเขาเถียงกับมันว่า "ฉันไม่ผิดโว๊ย" มันก็จะตอบลึก ๆ ใต้จิตสำนึกของเขาว่า "ถ้าคุณไม่ผิด ทำไมต้องกลัว ทำไมต้องปิด ทำไมต้องซ่อน ... คุณผิด"

และพระคัมภีร์ได้บันทึกว่า ไม่มีคนใดที่ไม่เคยทำผิดเลย

"เพราะว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า" (โรม 3:23)

ทุกคนทำบาป และรู้อยู่แก่ใจทุกคน แม้กระทั่งศาสดาของศาสนาก็รู้อยู่แก่ใจว่า เขาทำผิด

เรารู้ได้อย่างไร ? ... ก็โดยดูจากการที่พวกเขากำลังพยายามแสวงหาการหลุดพ้น แสวงหาความรอด ก็สามารถเห็นได้ เพราะถ้าเขาไม่เคยทำผิด เขาจะแสวงหาการหลุดพ้นจากบาปทำไมกัน ?

และพระคัมภีร์ยังบอกอีกว่า ในวันสุดท้าย เมื่อมนุษย์ตายไป จิตวิญญาณของเขาจะออกจากร่าง และจะต้องรับการพิพากษา

"มีข้อกำหนดสำหรับมนุษย์ไว้แล้วว่าจะตายครั้งเดียว และหลังจากนั้นก็จะมีการพิพากษา..." (ฮีบรู 9:27)

และในวันพิพากษานั้น จิตสำนึกผิดชอบของตัวเขาเองจะฟ้องว่าเขาผิด และนำความผิดบาปทั้งที่ลับและที่แจ้งของเขา เปิดเผยออกมาหมด และเขาต้องรับผลตามการกระทำของเขา

ตอนนี้เรามาดูหัวข้อที่น่าสงสัย ซึ่งเป็นคำถามที่มนุษย์หลายคนสงสัย นั่นก็คือ คำถามที่ว่า "พระเจ้าสร้างความชั่วใช่ไหม? ]ลูกไก่พันธุ์เลวต้องมาจากพ่อไก่พันธุ์เลว เมื่อมนุษย์เลวนั่นแสดงว่าพระเจ้าเลวด้วยใช่ไหม ?"

อ. นิกร สิทธิจริยาภรณ์
จากหนังสือ พระเจ้าเกี่ยวข้องกับฉันอย่างไร?

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com