35. พักพิงในพระเจ้า

เราควรพักพิงในพระเจ้ามากยิ่งกว่าทรัพย์สิ่งของและของประทานทั้งปวง

สาวก

จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย เหนือกว่าทุกสิ่งและในทุกสิ่ง จงพักพิงในพระเจ้าเสมอ เพราะพระองค์เป็นที่พักพิงชั่วนิรันดรของธรรมิกชนทั้งหลาย

โอพระเยซู ผู้เต็มเปี่ยมด้วยรักและความหวานชื่น ขอให้ข้าพระองค์แสวงหาที่จะหยุดพักในพระองค์มากกว่าในบรรดาคนและสัตว์ที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมา มากกว่าสุขภาพอนามัยที่ดีและความงดงามทุกอย่าง มากกว่ายศถาบรรดาศักดิ์และเกียรติยศชื่อเสียงทุกอย่าง มากกว่าตำแหน่งหน้าที่และอำนาจ มากกว่าความรู้และความเฉลียวฉลาดทุกอย่าง ทรัพย์สมบัติและศิลปะทั้งหลาย ความปีติยินดีและความดีใจทุกชนิด มากกว่าชื่อเสียงและการชมเชยทุกอย่าง ความอ่อนหวานและการปลอบใจทุกอย่าง มากกว่าความหวังและคำสัญญาทุกประการ ความดีและความปรารถนาทุกอย่าง มากกว่าของประทานและความโปรดปรานทั้งหมดที่พระองค์ทรงให้หรือเทลงมาเหนือข้าพระองค์ได้ มากกว่าความยินดีและความปลาบปลื้มทุกอย่างที่จิตใจของมนุษย์รับและรู้สึกได้ และสุดท้าย มากกว่าบรรดาทูตสวรรค์และทูตสวรรค์ชั้นหัวหน้าและบรรดาชาวสวรรค์ทั้งหมด มากกว่าบรรดาสิ่งที่ปรากฏแก่ตาและไม่ปรากฏแก่ตา และขอให้ข้าพระองค์แสวงหาที่พักพิงในพระองค์มากยิ่งกว่าทุกสิ่งที่ไม่ใช่พระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์

เพราะพระองค์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ ทรงเป็นผู้ประเสริฐยิ่งกว่าสิ่งทั้งปวง พระองค์ผู้เดียวทรงเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด พระองค์ผู้เดียวทรงมหิทธิฤทธิ์ พระองค์ผู้เดียวทรงทำให้พอใจและให้อิ่มใจมากที่สุด พระองค์ผู้เดียวหวานชื่นและเล้าโลมใจมากที่สุด พระองค์ผู้เดียวงดงามและมีความรักมากที่สุด พระองค์ผู้เดียวสง่างามและมีเกียรติเหนือสรรพสิ่งทั้งปวงมากที่สุด ในพระองค์มีความสมบูรณ์แบบทุกอย่างที่เคยมีอยู่หรือที่จะมีในอนาคต เหตุฉะนั้น สิ่งใดก็ตามที่พระองค์ทรงประทานแก่ข้าพระองค์ สิ่งใดก็ตามที่พระองค์ทรงสำแดงให้ข้าพระองค์เกี่ยวกับเรื่องของพระองค์เอง และสิ่งใดก็ตามที่พระองค์ทรงสัญญาไว้ ก็ยังน้อยไปและไม่เพียงพอเมื่อข้าพระองค์ไม่ได้เห็นและมีความสุขอย่างเต็มที่ในพระองค์ผู้เดียว เพราะจิตใจของข้าพระองค์ไม่สามารถพักผ่อนหรืออิ่มใจอย่างเต็มที่ได้ จนกว่าจะได้พักพิงในพระองค์ ผู้ซึ่งสูงกว่าของประทานทั้งหมดและบรรดาสรรพสิ่งที่สร้างขึ้น

ใครเล่า โอข้าแต่เจ้าบ่าวผู้เป็นที่รักยิ่ง คือ พระเยซูคริสต์ คู่รักที่บริสุทธิ์ที่สุด เจ้านายเหนือบรรดาสิ่งทรงสร้าง ใครเล่าจะประทานปีกแห่งความอิสระเสรีให้ข้าพระองค์บินไปสู่การพักพิงในพระองค์ได้ เมื่อไรข้าพระองค์จึงจะได้รับเสรีภาพอย่างเต็มที่ซึ่งทำให้ข้าพระองค์ได้เห็นว่าพระองค์ทรงงดงามเพียงไร คือองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพระองค์ เมื่อไรข้าพระองค์จะสำรวมใจตัวเองอย่างแท้จริงในพระองค์ เพื่อเนื่องจากความรักของพระองค์จะทำให้ข้าพระองค์ไม่สำนึกถึงตัวเอง แต่จะนึกถึงพระองค์ผู้เดียว เหนือความรู้สึกและเหลือที่จะประมาณได้ ในลักษณะหนึ่งไม่มีใครรู้จักได้ แต่บัดนี้ ข้าพระองค์ไม่มีความสุข บ่อยครั้งข้าพระองค์เสียใจและโศกเศร้าเหลือเกิน เพราะมีเหตุร้ายหลายอย่างเกิดขึ้นกับข้าพระองค์ในโลกนี้ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ ที่รบกวนข้าพระองค์อยู่เสมอ ทำให้ข้าพระองค์โศกเศร้าและปกคลุมข้าพระองค์ไว้อย่างเมฆทึบ กีดขวางและทำลายสมาธิของข้าพระองค์ ชักชวนและทำให้พัวพันจนไม่อาจเข้าเฝ้าพระองค์ได้อย่างอิสระ หรือสัมผัสการสวมกอดอย่างอ่อนหวานที่เตรียมพร้อมอยู่เสมอสำหรับผู้ที่เป็นสุขเพราะรับพระพร ขอให้เสียงถอนหายใจของข้าพระองค์และความโศกเศร้าที่มีอยู่มากมายที่นี่บนแผ่นดินโลกนี้ดลใจให้พระองค์มีความเมตตา

โอพระเยซู ความรุ่งเรืองแห่งพระสิรินิรันดร์ ผู้ประเล้าประโลมจิตใจของคนที่แสวงหาพระองค์ เมื่ออยู่ต่อพระพักตร์พระองค์ ริมฝีปากของข้าพระองค์เปล่งออกมาไม่มีเสียงเลย และความเงียบของข้าพระองค์ได้พูดกับพระองค์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ พระองค์ทรงยืดเวลาออกไปอีกนานเท่าไรจึงจะเสด็จมา ขอพระองค์ทรงมาหาผู้รับใช้ที่น่าสมเพชของพระองค์และกระทำให้เขาชื่นบาน ขอพระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์ของพระองค์ออกมาและนำคนที่ทุกข์ยากนี้ออกเสียจากการทนทุกข์ทรมานของเขา โปรดเสด็จมา โอโปรดเสด็จมาด้วยเถิด เพราะถ้าปราศจากพระองค์ ที่นี่ก็จะไม่มีสักวันหรือสักชั่วโมงเดียวที่จะมีความสุขเลย เพราะพระองค์ทรงเป็นแหล่งของความสุขของข้าพระองค์ และถ้าปราศจากพระองค์ โต๊ะของข้าพระองค์ก็ว่างเปล่าอยู่ ข้าพระองค์ช่างน่าเวทนา คล้ายกับถูกกักขังไว้และมีโซ่ตรวนถ่วงอยู่ จนกระทั่งพระองค์ทรงให้ข้าพระองค์เต็มไปด้วยความสว่างแห่งการประทับอยู่ด้วยของพระองค์ ให้ข้าพระองค์กลับมีเสรีภาพอีกครั้ง และเผยพระพักตร์อันเป็นมิตรต่อข้าพระองค์ ปล่อยให้คนอื่น ๆ แสวงหาอะไรแทนพระองค์ก็แล้วแต่พวกเขาปรารถนาเถิด แต่ส่วนข้าพระองค์ไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้พอใจหรือที่จะพอใจข้าพระองค์นอกจากพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะไม่นิ่งเสีย ข้าพระองค์จะไม่หยุดอ้อนวอนจนกว่าพระคุณของพระองค์จะกลับมาสู่ข้าพระองค์ และพระองค์ตรัสภายในใจข้าพระองค์ว่า "ดูเถิด เราอยู่ที่นี่ นี่แหละ เราได้มาหาเจ้าเพราะเจ้าได้เรียกเรา น้ำตาของเจ้าและความปรารถนาแห่งจิตใจของเจ้า ความถ่อมใจและความสำนึกผิดของเจ้าได้โน้มน้าวจิตใจเราและได้นำเรามาถึงเจ้า"

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ได้เรียกหาพระองค์ และได้ปรารถนาพระองค์ และได้พร้อมที่จะละทิ้งทุกสิ่งเพราะเห็นแก่พระองค์ เพราะพระองค์ได้ทรงกระตุ้นเตือนให้ข้าพระองค์แสวงหาพระองค์ก่อน เพราะฉะนั้น สาธุการแด่พระองค์ โอองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะพระองค์ได้ทรงโปรดสำแดงคุณงามความดีนี้ต่อผู้รับใช้ของพระองค์ ตามพระเมตตากรุณาอันมากมายของพระองค์

มีอะไรอีกเล่าที่ผู้รับใช้ของพระองค์จะทูลต่อพระองค์ได้ เว้นเสียแต่เขาจะถ่อมใจลงจำเพาะพระพักตร์ของพระองค์โดยระลึกถึงความผิดบาปและความเลวทรามของตัวเองอยู่เสมอ ในท่ามกลางบรรดาสิ่งอัศจรรย์ในสวรรค์และบนแผ่นดินโลกก็ไม่มีสิ่งใดที่เหมือนพระองค์ บรรดาพระราชกิจของพระองค์ดีเลิศ การพิพากษาของพระองค์ก็ถูกต้อง และทั้งจักรวาลล้วนอยู่ภายใต้การครอบครองดูแลของพระองค์

ฉะนั้น ขอให้พระสติปัญญาแห่งพระบิดาได้รับการสรรเสริญและเชิดชู ขอให้ริมฝีปากและจิตวิญญาณของข้าพระองค์กับสรรพสิ่งที่สร้างขึ้นทั้งหลายพร้อมใจกันสรรเสริญและสาธุการแด่พระองค์

หนังสือ เลียนแบบพระคริสต์ (Of The Imitation of Christ)
เขียนโดย โธมัส อาเคมพิส (Thomas à Kempis)
แปลโดย พญ. เออร์ซูลา โลเวนธอล
เรียบเรียงโดย กนกบรรณสาร

ความชูใจภายใน

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com