King

King กษัตริย์ไร้บัลลังก์

ในประเทศไทย ทุก ๆ ต้นเดือนธันวาคม พสกนิกรชาวไทยและชาวต่างประเทศที่อาศัยอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จะร่วมแรงร่วมใจกันจัดงาน เฉลิมพระชนมพรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม อย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปีอย่างต่อเนื่อง

แต่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันของเดือนเดียวกัน ประชากรโลกหลากหลายชาติพันธุ์ก็จะร่วมกันเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาของกษัตริย์ (King) ไร้บัลลังก์บนแผ่นดินโลก นามว่า "เยซูคริสต์" อย่างพร้อมเพรียงกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วันที่ 25 ธันวาคม ที่เรียกว่า วันคริสตสมภพ !

ในวันที่พระเยซูคริสต์ทรงมาบังเกิดในโลก ปรากฎมีดาวสุกใสเพื่อประกาศให้ทั่วพิภพได้รับรู้ข่าวนี้

และมีโหราจารย์กลุ่มหนึ่ง สังเกตเห็นหมายสำคัญนั้น ได้เดินทางไกลมาจากทิศตะวันออกเพื่อเสาะแสวงหาองค์กษัตริย์ (King) ผู้ทรงมาบังเกิดใหม่นี้ ในพระธรรมมัทธิว บันทึกว่า

"พระเยซูได้ทรงบังเกิดที่บ้านเบธเลเฮม แคว้นยูเดีย ในรัชกาลของกษัตริย์เฮโรด ภายหลังมีพวกโหราจารย์จากทิศตะวันออกมายังกรุงเยรูซาเล็ม ถามว่า 'กุมารผู้ที่บังเกิดมาเป็นกษัตริย์ (king) ของชนชาติยิวนั้นอยู่ไหน เราได้เห็นดาวของท่านปรากฎขึ้น เราจึงมาหวังจะนมัสการท่าน' " (มัทธิว 2:1-2)

นี่เป็นครั้งแรกที่ปรากฎในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลว่า พระเยซูคริสต์ทรงเป็นกษัตริย์ ตั้งแต่พระองค์ยังทรงอยู่ในวัยทารก ! จากนั้นพระเยซูคริสต์ก็ได้รับการกล่าวถึงในฐานะของกษัตริย์ ผู้ไร้บัลลังก์อีกครั้งเมื่อพระองค์ทรงอยู่ในวัยประมาณ 30 ปี เมื่อพระองค์ทรงเริ่มต้นกระทำพระราชกิจด้วยการออกประกาศสั่งสอนเรื่อง "แผ่นดินของพระเจ้า" (Kingdom of God) และเชิญชวนให้ประชาชนกลับใจ มาหาพระเจ้าเข้าสู่แผ่นดินของพระองค์ !

นาธานาเอล ผู้ต่อมากลายเป็นสาวกของพระเยซูคริสต์ ได้กล่าวยอมรับพระองค์ว่า

"รับบี (อาจารย์) พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ของชนชาติอิสราเอล" (2 ยอห์น 1:49)

ครั้งหนึ่งพระเยซูคริสต์ทรงเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม ท่ามกลางการต้อนรับอย่างปรีดีของเหล่าสาวก และประชาชน ดังที่ได้บันทึกไว้ในพระธรรมลูกาว่า

"แล้วเขาก็จูงลูกลามาหาพระเยซู และเอาเสื้อของตนปูลงบนหลังลาและเชิญพระเยซูขึ้นทรงลานั้น เมื่อพระองค์เสด็จไป เขาทั้งหลายก็เอาเสื้อผ้าของตนปูลงตามทาง เมื่อพระองค์เสด็จมาใกล้ที่ซึ่งจะลงไปจากภูเขามะกอกเทศแล้ว เหล่าสาวกทุกคนมีความเปรมปรีดิ์เพราะบรรดามหกิจซึ่งเขาได้เห็นนั้น จึงเริ่มสรรเสริญพระเจ้าเสียงดังว่า 'ขอให้พระมหากษัตริย์ผู้ที่เสด็จมาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระเจริญ จงมีสันติสุขในสวรรค์ และพระสิริในที่สูงสุด' " (ลูกา 19:35-38)

จากนั้น พระเยซูคริสต์เจ้าของวันคริสตมาส ก็ถูกเรียกขานว่า "กษัตริย์" อีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่ดูถูกเหยียดหยาม เมื่อพวกนักศาสนาและทหารจับพระองค์ไปให้ปิลาตผู้เป็นเจ้าเมืองไต่สวน ปิบาตถามพระเยซูที่ทรงยืนอยู่ต่อหน้าเขาว่า

"ท่านเป็นกษัตริย์ของพวกยิวหรือ ?" (มัทธิว 27:11)

และครั้งสุดท้ายที่พระเยซูคริสต์ ทรงถูกเรียกว่า "กษัตริย์" ก็คือตอนที่ทรงถูกตรึงบนไม้กางเขน เมื่อพวกทหาร ขุนนาง และคนทั้งปวงเย้ยหยันพระองค์ว่า

"ถ้าท่านเป็นกษัตริย์ของพวกยิว จงช่วยตัวเองให้รอดเถิด และมีคำเขียนไว้เหนือพระองค์ว่า 'ผู้เป็นกษัตริย์ของพวกยิว' " (ลูกา 23:37-38)

ในพระคัมภีร์ไบเบิลมีคำทำนายว่า ... วันหนึ่งกษัตริย์ไร้บัลลังก์ในโลกหล้า อย่างพระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมาอีกครั้ง อย่าง "กษัตริย์แห่งฟ้าสวรรค์"

ว่าแต่คุณล่ะ พร้อมจะรับเสด็จกษัตริย์องค์นี้หรือไม่?

อ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
จากหนังสือ
ABC คริสตมาสนี้มีที่มา

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com