พระคัมภีร์ให้ความคิดหลายแง่มุม

1ยอห์น 4:8,16 บอกว่า พระเจ้ารักเรา เพราะพระลักษณะของพระองค์เป็นความรัก

"ผู้ที่ไม่รักก็ไม่รู้จักพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นความรัก" (1ยอห์น 4:8)

"ฉะนั้นเราจึงรู้ และวางใจในความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา พระเจ้าทรงเป็นความรัก และผู้ที่อยู่ในความรักก็อยู่ในพระเจ้า และพระเจ้าก็ทรงอยู่ในคนนั้น" (1ยอห์น 4:16)

โรม 8:35-39 บอกว่า ไม่มีอะไรทำให้เราขาดจากความรักของพระเจ้าได้

"เพราะข้าพเจ้าแน่ใจว่า แม้ความตาย หรือชีวิต หรือบรรดาทูตสวรรค์ หรือเทพเจ้า หรือสิ่งซึ่งมีอยู่ในปัจจุบันนี้ หรือสิ่งซึ่งจะมีในภายหน้า หรือฤทธิ์เดชทั้งหลาย หรือซึ่งสูง หรือซึ่งลึก หรือสิ่งใดๆอื่นที่ได้ทรงสร้างแล้วนั้น จะไม่สามารถทำให้เราขาดจากความรักของพระเจ้า ซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้" (โรม 8:39)

ลูกา 6:27-36 บอกว่า พระเจ้าไม่เพียงรักเพื่อนบ้านของพระองค์เท่านั้น แต่รักศัตรูของพระองค์ด้วย

"แต่จงรักศัตรูของท่านและทำดีต่อเขา จงให้เขายืมโดยไม่หวังที่จะได้คืน แล้วบำเหน็จของท่านทั้งหลายจะมีบริบูรณ์ แล้วท่านจะเป็นบุตรขององค์ผู้สูงสุด เพราะว่าพระองค์ทรงพระกรุณาทั้งต่อคนอกตัญญูและคนชั่ว" (ลูกา 6:35)

แต่พระคัมภีร์บางตอนบอกไว้ว่า

  • พระองค์เกลียดชังผู้กระทำการชั่วทั้งสิ้น (สดุดี 5:5)

"คนโอ้อวดจะไม่ยืนอยู่เฉพาะพระเนตรของพระองค์ พระองค์ทรงเกลียดชังผู้กระทำการชั่วทั้งสิ้น" (สดุดี 5:5)

  • พระองค์เป็นพระเจ้าผู้หึงหวง (อพยพ 34:14)

"เจ้าอย่านมัสการพระอื่นเลย เพราะพระเจ้าผู้ทรงพระนามว่าหวงแหน เป็นพระเจ้าผู้ทรงหวงแหน" (อพยพ 34:14)

  • พระองค์เป็นพระเจ้าแห่งพระพิโรธ (ยอห์น 3:36)

"ผู้ที่วางใจในพระบุตรก็มีชีวิตนิรันดร์ ผู้ที่ไม่เชื่อฟังพระบุตรก็จะไม่ได้เห็นชีวิต แต่พระพิโรธของพระเจ้าตกอยู่กับเขา" (ยอห์น 3:36)

นอกจากนี้พระคัมภีร์ยังบอกอีกว่า

  • พระเจ้ารักมนุษย์อย่างไม่มีเงื่อนไข (ยอห์น 3:16, โรม 5:8) และก็รักมนุษย์อย่างมีเงื่อนไขเช่นกัน (อพยพ 20:4-5, ยอห์น 14:21, 16:27)

"แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เราทั้งหลาย คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา" (โรม 5:8)

"อย่าทำรูปเคารพสำหรับตน เป็นรูปสิ่งใดซึ่งมีอยู่ในฟ้าเบื้องบน หรือบนแผ่นดินเบื้องล่าง หรือในน้ำใต้แผ่นดิน อย่ากราบไหว้หรือปรนนิบัติรูป เหล่านั้น เพราะเราคือพระเจ้าของเจ้า เป็นพระเจ้าที่หวงแหน ให้โทษบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานของผู้ที่ชัง เราจนถึงสามชั่วสี่ชั่วอายุคน" (อพยพ 20:4-5)

"ผู้ใดที่มีบัญญัติของเรา และประพฤติตามบัญญัตินั้น ผู้นั้นแหละเป็นผู้ที่รักเรา และผู้ที่รักเรานั้นพระบิดาของเราจะทรงรักเขา และเราจะรักเขา และจะสำแดงตัวให้ปรากฏแก่เขา" (ยอห์น 14:21)

"เพราะว่าพระบิดาเองก็ทรงรักท่านทั้งหลาย เพราะท่านรักเราและเชื่อว่าเรามาจากพระบิดา" (ยอห์น 16:27)

  • พระเจ้ารักทุก ๆ คน (ยอห์น 3:16) และพระองค์ยังรักบางคนมากกว่าบางคนด้วย (โรม 9:13)

"เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์" (ยอห์น 3:16)

"ตามที่มีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ยาโคบนั้นเรารัก แต่เอซาวเราได้ชัง" (โรม 9:13)

  • พระเจ้ารักตลอดไป (เยเรมีย์ 31:3, โรม 8:38-39) และก็มีบางเวลาที่พระองค์ไม่รักแล้ว (โฮเชยา 9:15)

"พระเจ้าทรงปรากฏแก่เขาจากที่ไกล ตรัสว่า 'เราได้รักเจ้าด้วยความรักนิรันดร์ เพราะฉะนั้นเราจึงมีความรักมั่นคงต่อเจ้าสืบไป' " (เยเรมีย์ 31:3)

"เพราะข้าพเจ้าแน่ใจว่า แม้ความตาย หรือชีวิต หรือบรรดาทูตสวรรค์ หรือเทพเจ้า หรือสิ่งซึ่งมีอยู่ในปัจจุบันนี้ หรือสิ่งซึ่งจะมีในภายหน้า หรือฤทธิ์เดชทั้งหลาย หรือซึ่งสูง หรือซึ่งลึก หรือสิ่งใดๆอื่นที่ได้ทรงสร้างแล้วนั้น จะไม่สามารถทำให้เราขาดจากความรักของพระเจ้า ซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้" (โรม 8:39)

"ความชั่วของเขาทุกอย่างอยู่ในกิลกาล เราเริ่มเกลียดชังเขา ณ ที่นั่น เราจะขับเขาออกไปจากนิเวศของเรา เพราะความชั่วร้ายแห่งการกระทำของเขา เราจะไม่รักเขาอีกเลย เจ้านายทั้งสิ้นของเขาก็ล้วนแต่คนกบฏ" (โฮเชยา 9:15)

จากหนังสือ พระเจ้ารักฉันอย่างไร
(How Does God Love Me?)
เขียนโดย มาร์ติน อาร์เดอ ฮานห์
แปลโดย วรินทรา
เรียบเรียงโดย กนกบรรณสาร
สำนักพิมพ์ กนกบรรณสาร

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com