คำพยานชีวิตของ ดร. M. R. DeHaan

"ผู้จัดตั้ง Radio Bible Clas (RBC) ได้ค้นพบเป้าหมายของการมีชีวิตอยู่ขณะที่เขากำลังจะสิ้นลมหายใจ บนเตียงในโรงพยาบาล เขาได้ใคร่ครวญถึงชีวิตที่ผ่านมาของตนเอง และตัดสินใจที่จะเดินไปในทางใหม่ การตัดสินใจของเขาได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา จากนายแพทย์ซึ่งรักษาโรคทางกาย มาเป็นผู้รักษาโรคทางใจ"

โดย เจมส์ อาร์ อแดร์

เป็นที่รู้กันดีว่า ผู้ที่ใกล้จะเสียชีวิต มักจะเห็นการกระทำในอดีตของตนแวบขึ้นมา ไม่มีการบันทึกเอาไว้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นในจิตใจของ ดร. มาร์ติน อาร์ เดอ ฮาน ชายวัย 30 ปี ขณะที่เขาพยายามต่อสู้กับความตายในเดือนตุลาคม 1921 ที่โรงพยาบาลในเมืองแกรนด์ แรพพิดส์ แต่เป็นที่รู้กันว่า เขาได้ระลึกถึงอดีตและอนาคตของตนเอง

ตลอดระยะเวลา 30 ปี เขาคุ้นเคยกับคริสตจักรเป็นอย่างดี ตอนที่ยังเด็ก เขาไปโบสถ์เป็นประจำ และสัตย์ซื่อ ไปโบสถ์ในขณะที่เรียนแพทย์ อย่างไรก็ตาม ชีวิตของเขาไม่ได้ทำอะไรเพื่อพระเจ้าเท่าที่ควร นิ้วพระหัตถ์ของพระเจ้าได้ชี้มาที่ความบาปผิดในชีวิตของเขา ตอนที่เขาอายุ 12 ปี เขายังคงมีความรู้สึกเหมือนถูกลงโทษ ถึงแม้ว่าเขาได้จัดการกับปัญหาความสัมพันธ์กับพระเจ้าแล้ว

นางพยาบาลได้เดินผ่านทางเดินนอกห้องที่เขานอนอยู่อย่างเงียบ ๆ ในขณะที่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในจิตใจของเขา เขาไม่เคยเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นนี้กับใคร แต่ในปี 1929 เขาได้บันทึกสิ่งต่อไปนี้

"ผมเกิดในฝ่ายเนื้อหนังเมื่อปี 1891 เป็นบุตรที่ต้องถูกลงโทษจากพระเจ้าเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ หลังจากที่ดำเนินชีวิตอยู่ในความบาปได้ 30 ปี ผมก็บังเกิดใหม่ฝ่ายจิตวิญญาณอีกครั้งในเดือนตุลาคม 1921 และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความหวังและเป้าหมายเดียวในชีวิตของผมก็คือ การยกชูพระเจ้า ขอพระเกียรติและพระสิริเป็นของพระองค์สืบ ๆ ไปเป็นนิตย์ (เอเฟซัส 1:7)"

"ในพระเยซูนั้น เราได้รับการไถ่บาปโดยพระโลหิตของพระองค์ คือได้รับการอภัยโทษบาป ของเราโดยพระกรุณาอันอุดมของพระองค์" (เอเฟซัส 1:7)

พริสซิลล่า ซึ่งเป็นภรรยาของ ดร. เดอ ฮาน เป็นคนที่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์ที่สามีของเธอได้รับภายหลังจากการพูดคุยกับเขาหลังจากนั้นไม่นาน เธอจำได้ว่าสามีของเธอสงสัยว่าเขาอาจจะเคยพบกับพระเจ้าเมื่อตอนที่เขามีอายุได้ 12 ปี ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาที่โรงพยาบาลเป็นการต่อสู้ฝ่ายจิตวิญญาณเช่นเดียวกับที่ยาโคบได้ปล้ำสู้กับพระเจ้า จนกระทั่งถึงรุ่งเช้า ก่อนที่เขาจะได้รับพระพรจากพระหัตถ์ของพระองค์ ดร. เดอ ฮาน ได้ร้องขอพระเจ้าว่า "ได้โปรดช่วยชีวิตของผมด้วย แล้วผมจะรับใช้พระองค์" เป็นคำพูดที่ออกมาจากจิตใจของเขาอย่างแท้จริงในเวลานั้น

หลายสัปดาห์ผ่านไป เขาได้พูดคุยกับภรรยาและกับพระเจ้าเกี่ยวกับงานรับใช้ที่เขาควรจะทำ เขาไม่แน่ใจว่าเขาควรจะเทศนา หรือว่าเป็นมิชชันนารีดี เขาพูดถึงการเดินทางไปเป็นมิชชันนารีในต่างประเทศให้เพื่อนฟัง แต่เพื่อนของเขากลับบอกให้เขาทำสิ่งที่เขาทำอยู่แล้วต่อไป นั่นคือ ทำงานของตัวเอง และสนับสนุนงานรับใช้ของมิชชันนารีสักคนหนึ่ง ซึ่งในเวลานั้นเขาคิดว่าบางทีนี่อาจจะเป็นคำตอบก็ได้

ความรู้สึกนี้ยังคงหนักอึ้งอยู่ในจิตใจของเขา และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนวันหนึ่ง ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิปี 1992 เขาเดินเข้ามาในครัว พร้อมกับพูดว่า "ผมทำอย่างนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว" และเพื่อแสดงว่าทุกอย่างได้จบลงแล้ว เขาได้ตัดกระเป๋าเครื่องมือแพทย์เกลื่อนไปทั่วพื้นครัว และพูดว่า "นี่ไงล่ะ"

หลังจากที่เขาได้ขายเครื่องมือแพทย์ บ้าน และอุปกรณ์สำนักงานไปหมดแล้ว นายแพทย์หนุ่มก็วางแผนจะไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยพระคริสตธรรมแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ ๆ

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับชีวิต ยังคงสร้างความประหลาดใจให้กับตัวเขาเองอย่างไม่มีสิ้นสุด เขารู้สึกว่า พระคุณของพระเจ้านั้นเต็มล้นอยู่ในชีวิตของเขาทุกครั้งที่เขาได้อ่านและศึกษาพระคำของพระองค์ หลายปีต่อมาเขาได้ศึกษาในเรื่องพระคุณพระเจ้าอย่างจริงจัง และเขียนบันทึกดังนี้

"เช่นเดียวกับไฟฟ้า ตะเกียง และชีวิต เรารู้แต่เพียงว่า พระคุณทำอะไรให้กับชีวิตของเรา มากกว่าที่จะรู้ว่าพระคุณคืออะไร ทำไมพระเจ้าจึงเลือกคนเลวทราม ไร้ค่า และไม่มีอะไรที่จะอวดได้ ออกจากสภาพที่ทนทุกข์และสิ้นหวัง และทรงยกฐานะของพวกเขาขึ้นเป็นบุตรของพระองค์ เป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวของพระเจ้า และทรงใช้พวกเขาเพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกินความเข้าใจของมนุษย์ แต่เป็นพระคุณของพระเจ้า"

ดร. เดอ ฮาน ได้มองเห็นตัวของเขาเองเป็นผู้รับพระคุณของพระเจ้าจากเหตุการณ์หนึ่งซึ่งเขาได้บรรยายไว้ดังนี้

"มีอยู่วันหนึ่ง ขณะที่ผมเดินทางไปรัฐโคโลราโด ผมได้แวะเยี่ยมมาร์วิน ลูกชายของผมที่นอร์ธไซด์ในชิคาโก หลังจากที่ผมจอดรถ ผมได้ใช้เส้นทางลัดซึ่งเป็นซอยเล็ก ๆ ที่จะไปยังอพาร์ทเม้นท์ ซึ่งลูกชายของผมพักอยู่ และที่นั่นผมได้เห็นภาพอันน่าเวทนาที่สุดที่ผมเคยเห็นท่ามกลางฝุ่นที่ตลบอบอวล เศษขยะ สิ่งสกปรก และหนู"

"ข้างถังเหล้าที่รั่วและเต็มไปด้วยขยะที่มีแมลงวันตอม มีชายวัย 65 ปี ซึ่งเป็นคนที่ถูกสังคมทอดทิ้งยืนอยู่ เขาสวมหมวกที่ขาดรุ่งริ่ง รองเท้าถูกผูกไว้ด้วยเชือก เสื้อโค้ตและกางเกงที่สวมอยู่ขาดวิ่น มือก็ดำสกปรก ผมเผ้าของเขาดูรุงรัง แต่นั่นยังไม่เลวร้ายเท่ากับหนวดเคราที่ขึ้นอยู่บนใบหน้า ผมมองเห็นเขากำลังควานหาอะไรบางอย่างจากกองขยะ และเขาก็พบขวดวิสกี้ขวดหนึ่ง ซึ่งมีวิสกี้ติดก้นขวดอยู่นิดหน่อย เขายกมันขึ้นดื่ม แล้วก็มีหยดสองหยดออกจากอีกขวดหนึ่ง จากนั้นเขาก็พบเศษขนมปังที่ทิ้งแล้ว และหยิบเข้าปากด้วยมือที่สกปรกของเขา ขณะที่ผมยืนอยู่นั้น ผมก็รำพึงกับตัวเองว่า

'พระเจ้า นั่นแหละผมล่ะ นั่นคือผมถ้าไม่ได้พบกับพระคุณของพระเจ้า ภายใต้สภาพการเกิด สิ่งแวดล้อม และโอกาสอย่างเดียวกัน ผมคงไม่แตกต่างอะไรจากชายคนนี้ และไม่มีทางดีไปกว่านี้ ช่างเป็นพระคุณมากมายอะไรเช่นนี้!' "

พระคุณพระเจ้าที่มีต่อชีวิตของ ดร. เอ็ม อาร์ เดอ ฮาน นั้น ทำให้เขาบังเกิดใหม่จากเบื้องบน เขาไม่เพียงแต่พบว่าตัวเองเป็นคนบาปที่ได้รับการไถ่จากนรกเพื่อไปสู่สวรรค์ แต่เขาเริ่มค้นพบว่า พระเจ้าได้เข้ามาอยู่ภายในชีวิตส่วนลึกของเขา

อย่างไรก็ตาม เขายังคงมีสภาพเช่นเดียวกับมนุษย์คนอื่น ๆ ทั่วไป และยังถูกทดลองเหมือนเช่นเคย ทว่า ชีวิตที่มีพระเจ้าอยู่ภายในนั้น ทำให้โลกรอบ ๆ ตัวเขาเปลี่ยนไป เขามีแหล่งพลังแห่งชัยชนะที่พร้อมอยู่ ซึ่งได้แก่พระวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่ภายใน พระเยซูคริสต์ซึ่งเป็นพระผู้ช่วยให้รอดและสหายเลิศ และพระบิดาในสวรรค์ซึ่งทรงฤทธานุภาพสูงสุด

พระธรรม 2โครินธ์ 5:17 ได้เป็นจริงในชีวิตของเขาแล้ว

"เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งสารพัดที่เก่าๆก็ล่วงไป นี่แน่ะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น" (2โครินธ์ 5:17)

เขียนโดย เคิร์ท เดอ ฮาน
แปลโดย ปาริชาติ แสงอัมพร
เรียบเรียงโดย ชนิดา จิตตรุทธะ
จากหนังสือ ฉันมาอยู่ในโลกนี้ทำไม ?

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com