เรื่องสั้นบันดาลใจ

คุณเชื่อในเรื่องวันอีสเตอร์หรือไม่ ?

อีดิธ เบิร์น เป็นคริสเตียนที่น่าทึ่ง เธออาศัยอยู่ที่เมือง แซน แอนโตนิโอ รัฐเท็กซัส เธอเป็นคนไข้ของนายแพทย์ วิล ฟิลิปส์ ซึ่งเป็นนายแพทย์ที่ใจดีมาก และเห็นว่าคนไข้แต่ละคนต่างก็ล้วนเป็นบุคคลที่มีคุณค่า และคนไข้ที่หมอวิลชื่นชอบมาก ก็คือ คุณอีดิธ เบิร์น นี่เอง

เช้าหนึ่ง หมอวิล เดินทางไปทำงานอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก ซึ่งนั่นก็เกี่ยวข้องกับคนไข้ที่ชื่อว่า อีดิธ เบิร์น คนนี้นั่นเอง

เมื่อหมอเดินเข้าไปในห้องนั่งรอของคนไข้ เขาเห็น อีดิธ นั่งอยู่ที่นั่นโดยมีหนังสือพระคัมภีร์เล่มใหญ่ ๆ วางอยู่บนตักของเธอ และกำลังสนทนาอยู่กับคุณแม่สาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เธออย่างเอาจริงเอาจัง

อีดิธ เบิร์น มีนิสัยที่ชอบกล่าว แนะนำตัวในลักษณะดังต่อไปนี้

"สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อ อีดิธ เบิร์น คุณเชื่อในเรื่องวันอีสเตอร์หรือไม่ค่ะ ?"

และจากนั้น เธอก็จะกล่าวอธิบายเกี่ยวกับวันอีสเตอร์ จนกระทั่งมีหลายต่อหลายคนตอบสนองต่อเรื่องราวดังกล่าวด้วยใจศรัทธา

คุณหมอวิล เดินเข้ามาในที่ทำงาน และเจอ เบเวอรี ซึ่งเป็นหัวหน้านางพยาบาล

เบเวอรีผู้นี้ เคยพบ อีดิธ ครั้งแรก เมื่อเธอพา อีดิธ ไปเช็คความดันเลือด ตอนนั้น อีดิธเริ่มสนทนากับเธอ โดยกล่าวว่า

"สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อ อีดิธ เบิร์น คุณเชื่อในเรื่องวันอีสเตอร์หรือไม่ค่ะ ?"

เบเวอรี่ตอบว่า "เชื่อสิ ทำไมหรือค่ะ"

อีดิธจึงถามต่อไปว่า "เหรอค่ะ แล้วรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับวันอีสเตอร์บ้างล่ะค่ะ ?"

เบเวอรี่ ตอบว่า "ก็เรื่องไปโบสถ์หาไข่ แล้วก็แต่งตัวสวย ๆ ในวันนั้น ใช่ไหม ?"

เมื่อได้ยินดังนั้น อีดิธจึงพยายามอธิบายความหมายที่แท้จริงของวันอีสเตอร์ให้แก่เบเวอรี และในที่สุด เบเวอรี ก็เกิดศรัทธาต่อวันอีสเตอร์อย่างถูกต้อง

วันนี้ คุณหมอฟิลิป เอ่ยปากกับเบเวอรี ว่า "คุณเบเวอรี อย่าเพิ่งให้อีดิธเข้ามาพบผมในตอนนี้นะครับ ผมคิดว่ามีคนไข้กำลังจะศรัทธาในเรื่องอีสเตอร์เพิ่มขึ้นในห้องนั่งรอของคนไข้"

และหลังจากที่อีดิธ ถูกเรียกเข้ามาพบแพทย์ในห้อง

เธอก็นั่งลง และเมื่อเธอมองดูคุณหมอวิล เธอจึงกล่าวว่า

"คุณหมอวิลค่ะ ทำไมคุณดูเศร้าจังเลย ? คุณอ่านพระคัมภีร์หรือยังคะ ? แล้ววันนี้คุณอธิษฐานหรือยังค่ะ ?"

หมอวิล จึงกล่าวตอบอย่างอ่อนโยนว่า "คุณอีดิธ ครับ ผมเป็นหมอ และคุณเป็นคนไข้นะ"

และด้วยความรู้สึกหนักใจ หมอวิลกล่าวต่อไปว่า "รายงานตรวจร่างกายของคุณถูกส่งมาให้ผมแล้ว และผลที่ออกมา มันบอกว่าคุณเป็นมะเร็งครับ คุณอีดิธ คุณจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานนัก"

เมื่ออีดิธ ได้ฟังแล้ว กลับกล่าวว่า

"แล้วทำไมคุณหมอวิล ถึงต้องรู้สึกเศร้าด้วยล่ะค่ะ ? คุณหมอคิดว่าพระเจ้าทำบางอย่างที่ผิดพลาดหรือ ก็คุณหมอเองไม่ใช่หรือคะที่เพิ่งบอกกับฉันว่า ฉันกำลังจะได้ไปพบกับพระเยซูคริสต์ พระเจ้าอันเป็นที่รักของฉันบนสวรรค์ รวมทั้ง สามีของฉัน และเพื่อน ๆ ของฉันอีกด้วย และฉันกำลังจะได้ฉลองวันอีสเตอร์ตลอดนิรันดร์ และตอนนี้คุณหมอกลับรู้สึกลำบากใจที่จะยื่นตั๋วเดินทางใบนี้ให้ฉันหรือค่ะ"

คุณหมอวิล ฟิลิปส์ อดคิดในใจไม่ได้ว่า "อีดิธ เบิร์น คนนี้ช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ"

อีดิธ ยังคงมาพบคุณหมอตามนัดทุกครั้ง จนกระทั่งถึงวันคริสตมาส โรงพยาบาลปิดทำการยาวไปจนถึงวันที่ 3 มกราคม และเมื่อถึงวันที่โรงพยาบาลเปิดทำการอีกครั้ง อีดิธก็ไม่ได้มาพบคุณหมอที่โรงพยาบาล แต่บ่ายวันนั้น เธอโทรศัพท์มาหาคุณหมอวิล ขอร้องว่าเธอจำเป็นต้องเล่าเรื่องอีสเตอร์ให้คนฟังอีกที่โรงพยาบาล

เธอบอกว่า "ฉันกำลังจะได้กลับบ้านที่แท้จริงในไม่ช้านี้แล้ว อยากให้คุณหมอช่วยจัดให้มีพวกผู้หญิงที่ต้องการฟังเรื่องอีสเตอร์ เข้ามานั่งใกล้ ๆ ฉัน ในห้องรอพบแพทย์ด้วยนะค่ะ"

และทางโรงพยาบาล ได้จัดการให้เป็นไปตามที่อีดิธขอ มีผู้หญิงหลายคนเข้ามาพบอีดิธ ในห้อง และได้สนทนากัน มีผู้หญิงจำนวนหนึ่งเกิดความศรัทธาในเรื่องอีสเตอร์ ทุกคนในชั้นนั้น ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล จนถึงคนไข้ ยกเว้นเพียงแต่ ฟิลลิส ครอส ซึ่งเป็นหัวหน้าพยาบาล ต่างพากันตื่นเต้นเกี่ยวกับ อีดิธ และเริ่มเรียกอีดิธว่า "อีดิธ อีสเตอร์"

แต่ฟิลลิส พูดอย่างตรงไปตรงมาเลยว่า เธอไม่ต้องการยุ่งกับ อีดิธ เพราะเธอเห็น อีดิธ เป็น "พวกคลั่งศาสนา"

ฟิลลิส เคยเป็นนางพยาบาลในโรงพยาบาลทหารมาก่อน เธอเคยเห็นอะไร ๆ มามาก ได้ยินอะไร ๆ มาก็ไม่น้อย อีกทั้งเธอยังเคยเป็นทหารหญิงที่ผ่านการฝึกอย่างหนักมาก่อนเหมือนทหารชาย เธอแต่งงานมาแล้ว 3 ครั้ง เธอเป็นคนใจแข็ง ไม่ค่อยยินดียินร้าย และทำทุกอย่างตามกฎระเบียบข้อบังคับ

เช้าวันหนึ่ง พยาบาล 2 คน ที่มีหน้าที่ดูแล อีดิธ ไม่สบาย และอีดิธมีไข้ ทำให้ ฟิลลิส ต้องเข้ามาดูและ และฉีดยาให้

เมื่อเธอเดินเข้ามาในห้อง อีดิธ ก็ยิ้มแฉ่งให้กับเธอ และกล่าวว่า

"ฟิลลิส พระเจ้ารักคุณนะ และฉันเองก็รักคุณ ฉันอธิษฐานเผื่อคุณเสมอนะ"

ฟิลลิส ครอส กล่าวว่า "เออ จริง ๆ แล้วคุณเลิกอธิษฐานเผื่อฉันได้แล้วนะ มันไม่ได้ผลหรอก เรื่องแบบนี้ไม่เคยอยู่ในความสนใจของฉันเลย"

อีดิธ จึงตอบว่า "อืม ฉันจะยังคงอธิษฐานเผื่อคุณ ฉันได้ขอพระเจ้าว่า อย่าเพิ่งให้ฉันจากไป จนกว่าฉันกับคุณจะได้เข้ามาสู่ครอบครัวแห่งความรอดด้วยกัน"

ฟิลลิส ครอส จึงกล่าวตอบกลับไปว่า "ถ้าอย่างนั้น คุณก็คงไม่มีวันเสียชีวิตหรอก เพราะสิ่งที่คุณขอนั้นไม่มีวันที่จะเกิดขึ้นหรอกนะ"

แล้วเธอ ก็เดินออกไปอย่างไม่หันกลับมาดูดำดูดี

ทุกวันที่ ฟิลลิส เดินเข้ามาในห้อง อีดิธจะกล่าวว่า

"ฟิลลิส พระเจ้ารักคุณนะ และฉันเองก็รักคุณ ฉันอธิษฐานเผื่อคุณเสมอนะ"

วันหนึ่ง ฟิลลิส รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเหล็กที่ถูกแม่เหล็กดูดเข้าไปในห้องของอีดิธ เธอเดินเข้าไปนั่งข้างเตียงของอีดิธ และอีดิธ ก็เริ่มต้นพูดว่า "ฉันดีใจมาก ที่คุณมาวันนี้ เพราะว่าพระเจ้าบอกกับฉันว่า วันนี้เป็นวันพิเศษของคุณ"

ฟิลลิส ครอส กล่าวว่า "อีดิธ คุณมักถามทุกคนด้วยคำถามที่ว่า 'คุณเชื่อในเรื่องของวันอีสเตอร์หรือไม่ ?' แต่ทำไมคุณไม่เคยถามคำถามนี้กับฉันเลย"

อีดิธ กล่าวว่า "ฟิลลิส ฉันต้องการจะเอ่ยถามคุณตั้งหลายครั้ง แต่พระเจ้าบอกฉันว่าให้รอจนกระทั่งคุณมาถามเอง และตอนนี้คุณก็ได้ถามแล้ว ..."

อีดิธ เบิร์น จึงหยิบเอาพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ขึ้นมา และเล่าเรื่องวันอีสเตอร์ให้กับ ฟิลลิส ครอส ฟัง

เธอเล่าวว่า อีสเตอร์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสิ้นพระชนม์ขององค์พระเยซูคริสต์ การนำพระศพของพระองค์ไปฝัง และการที่พระองค์ทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย

หลังจากนั้น อีดิธ ก็เอ่ยถามว่า

"ฟิลลิส คุณเชื่อเรื่องวันอีสเตอร์หรือไม่ คุณเชื่อไหมว่า องค์พระเยซูคริสต์ยังคงมีชีวิตอยู่ และพระองค์ต้องการเข้ามาอยู่ในจิตใจของคุณ ?"

ฟิลลิส ครอส เอ่ยตอบว่า

"โอ ฉันต้องการเชื่อเรื่องที่คุณเล่ามาอย่างสุดหัวใจ ฉันต้องการให้องค์พระเยซูคริสต์เข้ามาอยู่ในชีวิตฉัน"

และ ณ ที่นั่นเอง ฟิลลิส ครอส ได้อธิษฐานเชิญให้องค์พระเยซูคริสต์เข้ามาอยู่ในใจของเธอ และเป็นครั้งแรกที่ ฟิลลิส รู้สึกเหมือนไม่ได้เดินออกไปจากห้อง แต่รู้สึกเหมือนกับว่า มีทูตสวรรค์มาหิ้งปีก อุ้มเธอลอยออกไป

สองวันต่อมา ฟิลลิส ครอส เข้ามาหาอีดิธอีก และ อีดิธ ก็เอ่ยถามเธอว่า

"คุณรู้ไหมว่า นี่เป็นวันอะไร?"

ฟิลลิส ครอส กล่าวว่า "ทำไมล่ะ อีดิธ วันนี้เป็นวัน 'ศุกร์ประเสริฐ' (Good Friday) ไง"

(วันศุกร์ประเสริฐ คือ วันที่องค์พระเยซูคริสต์ทรงยอมถูกตรึงบนไม้กางเขน เพื่อไถ่บาปมนุษย์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันศุกร์ แล้วเขาเอาพระศพของพระองค์ไปฝังไว้ในอุโมงค์ และในวันที่สาม คือ วันอาทิตย์ พระองค์ทรงเป็นขึ้นจากความตาย และต่อมา วันนี้ถูกเรียกว่า วันอีสเตอร์)

อีดิธ จึงกล่าวว่า "ไม่ใช่นะ สำหรับเราแล้ว ทุกวันเป็นวันอีสเตอร์จ้ะ สุขสันต์วันอีสเตอร์ค่ะ ฟิลลิส !"

จากนั้นต่อมาอีก 2 วัน ในวันอาทิตย์ที่ตรงกับวันอีสเตอร์

เมื่อฟิลลิส ครอส มาทำงาน เธอก็ทำงานจุก ๆ จิก ๆ ตามปกติอย่างที่เธอต้องทำ จากนั้น เธอก็เดินลงมาที่ร้านดอกไม้ และสั่งซื้อดอก อีสเตอร์ ลิลลี่ (Easter Lilies) เพราะเธออยากจะนำขึ้นไปให้กับ อีดิธ เพื่อจะได้กล้าวคำว่า "สุขสันต์วันอีสเตอร์" กับเธอ

แต่เมื่อฟิลลิส ครอส เดินเข้าไปในห้องของอีดิธ ก็พบ อีดิธ อยู่บนเตียง มีพระคัมภีร์สีดำเล่มใหญ่วางอยู่บนตักของเธอ มือของเธอวางอยู่บนพระคัมภีร์เล่มนั้น มีรอยยิ้มแห่งความสุขอยู่บนใบหน้าของเธอ

เมื่อฟิลลิส ครอส เดินเข้าไปจับมือของอีดิธ ขึ้นมา เธอจึงรู้ว่า อีดิธ เสียชีวิตแล้ว !

ตอนนั้นเอง ที่ฟิลลิสสังเกตเห็นว่า มือข้างซ้ายของอีดิธ ได้วางอยู่ที่พระคัมภีร์ ซึ่งมีใจความว่า

"ในพระนิเวศของพระบิดา เรามีที่อยู่เป็นอันมาก เราจะกลับมารับท่านไปอยู่กับเรา เพื่อว่าเราอยู่ที่ไหน ท่านทั้งหลายจะได้อยู่ที่นั่นด้วย" (ยอห์น 14:1-3)

ส่วนมือข้างขวาของเธอ อยู่ที่ข้อพระคามภีร์ ซึ่งมีใจความว่า

"พระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุก ๆ หยดจากตาของเขา ความตายจะไม่มีอีกต่อไป การคร่ำครวญ การร้องไห้ และการเจ็บปวดจะไม่มีอีกต่อไป เพราะยุคเดิมนั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว" (วิวรณ์ 2:1-4)

ฟิลลิส ครอส ยืนมองดูร่างของอีดิธ ที่สิ้นลมหายใจไปแล้วอยู่ครู่หนึ่ง

จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นไปมองยังฟ้าสวรรค์ พร้อมด้วยน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม

และเธอก็เอ่ยออกมาว่า "สุขสันต์วันอีสเตอร์ ค่ะ อีดิธ สุขสันต์วันอีสเตอร์ !"

แล้วฟิลลิส ครอส ก็ผละจากร่างของ อีดิธ เดินออกจากห้อง ตรงไปยังโต๊ะ ๆ หนึ่ง ซึ่งมีนักศึกษาพยาบาล 2 คนกำลังนั่งอยู่ และกล่าวกับนักศึกษาทั้ง 2 คนว่า

"สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ ฟิลลิส ครอส คุณเชื่อเรื่องวันอีสเตอร์ไหมค่ะ ?"

อ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
จากหนังสือ อีสเตอร์ ความจริงที่เปลี่ยนชีวิตคุณได้

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com