คำพยานชีวิตของ คุณ สุดารัตน์ แสนแสง

ข้าพเจ้าชื่อน้ำผึ้ง ตอนนี้อายุก็ 30 ปี ข้าพเจ้าอยากจะเล่าเรื่องที่มารู้จักกับพระเจ้า และรับเชื่ออย่างเต็มใจได้อย่างไร

ข้าพเจ้าเกิดในครอบครัวที่เคร่งในศาสนาพุทธมาก ข้าพเจ้าจะติดตามพ่อแม่ไปวัดทำบุญเป็นประจำ ข้าพเจ้าได้ถือศีล 8 นั่งสมาธิต่อเนื่องหลายวันบ่อยครั้ง และทำบุญด้วยการปล่อยนกปล่อยปลาและบริจาคซื้อโลงศพเป็นประจำ วันอาทิตย์ข้าพเจ้าก็ชอบที่จะไปไหว้เจ้าตามศาลเจ้าทั่วๆ ไป

เมื่อข้าพเจ้ายังเป็นเด็กและวัยรุ่น ข้าพเจ้าชอบเที่ยวมาก และประสบอุบัติเหตุจนเฉียดตายบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นผลจากความดื้อรั้นของข้าพเจ้าเอง แต่ก็รอดชีวิตมาได้ทุกครั้ง

เมื่อข้าพเจ้าอายุได้ 15 ปี ข้าพเจ้าต้องสูญเสียพี่ชายสุดที่รักจากอุบัติเหตุถูกรถชนจนเสียชีวิต และเมื่อข้าพเจ้าอายุได้ 25 ปี ข้าพเจ้าสูญเสียพ่อแม่ในเวลาห่างกันเพียง 6 อาทิตย์ การสูญเสียครั้งใหญ่ทั้งสองครั้งนี้เองได้ส่งผลให้ข้าพเจ้าต้องใช้ชีวิตโดยลำพังและต้องปรับตัวอย่างมาก จากบ้านที่เคยมีพ่อแม่และเต็มไปด้วยความทรงจำที่ดี ตอนนี้ไม่เหลือช่วงเวลาเช่นนั้นอีกแล้ว ข้าพเจ้าทุกข์ทรมานกับความคิดถึงจนสุดหัวใจ แม้กระนั้นก็ตาม ข้าพเจ้าก็ยังสามารถผ่านพ้นเรื่องสะเทือนใจต่างๆ และดำรงชีวิตอยู่ต่อไปในโลกของความเป็นจริงได้

เหตุการณ์นั้นทำให้ข้าพเจ้าได้รู้จักกับชายคนหนึ่ง เขาเข้ามาดูแลในช่วงที่ข้าพเจ้าทุกข์ทรมานจากความเศร้าโศกเสียใจ ทำให้ข้าพเจ้าตกหลุมรักชายคนนั้น และข้าพเจ้ายอมรับข้อเสียทุกอย่างของเขาได้ ความสัมพันธ์ของเราดำเนินอย่างหวานชื่น แต่หลังจากคบได้ 3 ปี ก็มีคนใหม่เข้ามาในชีวิตของเขา เขาคบกับคนนั้นและกับข้าพเจ้าพร้อมๆ กัน ไม่ยอมเลิกกับใคร เพราะว่าข้าพเจ้ายังรู้สึกรักเขาอยู่มากและตัดใจไม่ได้ ข้าพเจ้าจึงอยากที่จะหนีไปไกลๆ

ในจังหวะนั้นเอง ญาติสนิทคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของร้านนวดอยู่ต่างประเทศก็ได้มาชวนให้ไปทำงานกับเขา ข้าพเจ้าก็ตัดสินใจได้ทันทีเพราะข้าพเจ้าอยู่คนเดียวและไม่มีอะไรต้องห่วง แต่ว่าเมื่อบินไปถึงเมืองนอกก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เกิดขึ้นต่างจากที่เขียนไว้ในสัญญาว่าจ้างที่เขียนไว้อย่างสวยหรูโดยสิ้นเชิง ข้าพเจ้าถูกหลอกให้ไปใช้แรงงานและโดนเอารัดเอาเปรียบอย่างมาก

หลังจากที่ทนทำงานอยู่ที่นั่นได้ 3 เดือน ข้าพเจ้าก็ตัดสินใจที่จะกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไทย ซึ่งต้องใช้ความกล้าหาญอย่างมาก เนื่องจากเงินจำนวนหนึ่งที่มีก็ต้องใช้ไปกับการดำเนินเรื่อง และข้าพเจ้าเหลือเงินติดตัวสำหรับการตั้งต้นชีวิตใหม่เพียงแค่ 9,250 บาทเท่านั้น

ความยากลำบากมากมายที่ข้าพเจ้าต้องเผชิญในชีวิต รวมถึงความเศร้าโศกเสียใจและความผิดหวังจากการจากไปของคนในครอบครัวและการโดนคนรักนอกใจ ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกเหนื่อยล้า สิ้นหวัง รู้สึกตนเองไร้ค่า เต็มไปด้วยความกังวลใจ และรู้สึกหดหู่มากจนกระทั่งไม่อยากมีชีวิตอยู่ในโลกนี้อีกต่อไป แต่เมื่อคิดจะฆ่าตัวตาย ก็เกิดความกลัวถึงชีวิตหลังความตาย อีกทั้งยังได้ตระหนักว่าการฆ่าตัวตายคือความบาปหนัก ขนาดยังไม่ฆ่าตัวตายก็ยังมีบาปมากพออยู่แล้ว ด้วยความกลัวว่าจะต้องตกนรก จึงไม่ได้ตัดสินใจทำไรลงไป ขณะนั้นเอง ข้าพเจ้าได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่สาวคนรองทางโทรศัพท์ ข้าพเจ้าได้พูดระบายความรู้สึกทั้งหมดให้พี่สาวฟัง (ยกเว้นเรื่องความคิดที่จะฆ่าตัวตาย เพราะไม่อยากทำให้เขาไม่สบายใจ) แม้กระนั้นก็ตาม ข้าพเจ้าก็ไม่ได้รู้สึกสบายใจขึ้นเลย ข้าพเจ้ายังคงนอนไม่หลับเหมือนทุกๆ วัน

จนวันหนึ่ง พี่สาวคนนั้น ผู้ซึ่งได้เชื่อพระเจ้ามากว่า 11 ปีแล้ว ได้ถามข้าพเจ้าว่า "เชื่อในพระเจ้าไหม? เชื่อว่าพระเจ้าสร้างโลกไหม?"

ข้าพเจ้าก็ตอบไปว่า "เชื่อสิ เชื่อว่าพระองค์สร้างโลกแต่ก็คงจะอยู่ข้างบน พระองค์อาจจะไม่ได้มายุ่งอะไรกับมนุษย์ เพราะมนุษย์มีกรรม ใครทำอะไรมาก็ต้องชดใช้ไปเอง ไม่มีใครตัดกรรมให้ได้"

พี่สาวก็ตอบข้าพเจ้าสั้นๆ ว่า "ลองอธิษฐานดูนะ เหนื่อยเรื่องอะไรลองเล่าให้พระองค์ฟัง"

ข้าพเจ้าก็ได้ตัดสินใจทำตามที่พี่สาวแนะนำด้วยการพูดกับพระเจ้าว่า "พรุ่งนี้ลูกจะไปสมัครงาน ถ้าพระองค์มีจริง ขอให้พระองค์อยู่กับลูก ไปสมัครงานกับลูก และขอให้ลูกได้งาน"

วันรุ่งขึ้น ข้าพเจ้าไปสมัครงาน และก็ได้งานจริงๆ แต่ใจก็กลับสงสัยว่า มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่

คืนวันนั้น ข้าพเจ้ากลับมาห้องนอนด้วยความอ้างว้าง โดดเดี่ยวลำพังเช่นเคย แต่ห้องนอนที่เคยนอนอยู่นั้นกลับไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสงไฟในห้องดวงเดิม แต่ข้าพเจ้ารู้สึกอบอุ่นมากอย่างบอก เป็นความอบอุ่นที่ดีมาก ข้าพเจ้าไม่เคยรู้สึกเช่นนั้นมาก่อนเลยในชีวิต ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจที่จะเริ่มแสวงหาพระเจ้า ด้วยความอยากรู้จักพระองค์มากขึ้น ข้าพเจ้าจึงได้ค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ได้มีโอกาสอ่านพระคัมภีร์ที่ดาวน์โหลดจากอินเตอร์เน็ต ได้พูดคุยกับพระองค์ และอธิษฐานต่อพระองค์

โดยความเมตตาของพระองค์ พระองค์ได้ตอบคำอธิษฐานของข้าพเจ้าเรื่อยมา จนข้าพเจ้าหายสงสัยในพระองค์ และมั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน พระองค์ฟังคำอธิษฐานของข้าพเจ้าเสมอ และเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า

จนวันหนึ่ง ข้าพเจ้าก็ยอมจำนนต่อพระองค์ ต้อนรับพระองค์เข้ามาในชีวิต และกลับใจใหม่จากนิสัยบาปเดิมๆ

หลังจากที่ได้รู้จักกับพระองค์ ชีวิตของข้าพเจ้าก็ดีขึ้นมาก ข้าพเจ้ามีความสุขขึ้นมาก โลกทั้งใบและความเจ็บปวดต่างๆ ที่เคยแบกรับไว้ก็ไม่หนักอีกต่อไป

ข้าพเจ้าจึงอยากบอกข่าวดีนี้กับทุกๆ ท่านนะคะ พระเจ้ามีจริง และพระองค์เปี่ยมด้วยพระเมตตา พระองค์รักมนุษย์ทุกคนที่ต้องการกลับใจ และพระองค์พร้อมที่จะยกโทษความบาปผิดให้แก่คุณแล้ว พระองค์ได้ทรงส่งพระบุตรองค์เดียวคือพระเยซูมาตายบนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปให้คุณแล้ว เพียงแค่คุณเชื่อคุณก็จะได้รับความรอด

"28 บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข

29 จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเรามีใจอ่อนสุภาพและถ่อมลง และท่านทั้งหลายจะพบที่สงบสุขในใจของตน

30 ด้วยว่าแอกของเราก็แบกง่าย และภาระของเราก็เบา" (มัทธิว 11:28-30)

ข้าพเจ้าขออธิษฐานเผื่อผู้ที่กำลังเผชิญกับความทุกข์ยากเหมือนกับที่ข้าพเจ้าเคยเผชิญ "ขอพระเจ้าต้อนรับคุณ กอดคุณ และซ่อนคุณไว้ในปีกกำบังเข้มแข็งของพระองค์"

ขอพระเจ้าอวยพรค


สุดารัตน์ แสนแสง (น้ำผึ้ง)

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com