มีหลายอย่างในชีวิตที่มิได้เป็นความจริง แต่เป็นเหมือนกับฝันไปชั่วขณะหนึ่ง
เราอาจถามตัวเองว่า "เอ ! ฉันเป็นใครกัน ชีวิตนี้มีความหมายอย่างไร ฉันเกิดมาทำไม ฯลฯ"
ฉันรู้สึกว่าเป็นแค่คนตัวเล็กๆ ไม่มีความหมาย และฉงนอยู่ในส่วนลึกว่า ฉันมีประโยชน์อะไร ?
ในสายตาของทางการ ฉันเป็นเพียงเอกสารแผ่นหนึ่งท่ามกลางล้านๆแผ่น ตัวฉันจะสลักสำคัญไปได้อย่างไร ?
ฉันมีชีวิตอยู่ ไปทำงาน พูดคุยกับคนนั้นคนนี้ แล้วก็ กิน ดื่ม นอน และตื่นขึ้นวันใหม่ ในฉับพลันนั้นทุกอย่างดูเหมือนไร้ความหมายและว่างเปล่า เวลาเร่งรุดไป วันเกิดผ่านมาและผ่านไป ฉันแปลกใจจริงว่าแต่ละปีหายไปไหน ?
ในส่วนทั้งหมดนี้ฉันอยู่จุดไหน ? ดูเหมือนว่าฉันรีบเร่ง แต่ไม่ได้ไปถึงไหนเลย
จักรวาลกว้างใหญ่ไพศาลนัก สภาพไม่รู้สิ้นสุดของอวกาศดูน่าพรั่นพรึง
เราตระหนักว่า แม้โลกของเรายังเป็นเพียงผงธุลีขณะที่ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับบรรดาดวงดาว และกาแลกซี่ห่างออกไปหลายล้านปีแสง ทว่าบนผืนพิภพนี้นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ที่เขาสามารถระเบิดทำลายโลกและทุกอย่างในปถพีให้แตกเป็นเสี่ยงๆได้
เราเคยไปงานศพคนรู้จักกัน ซึ่งจบชีวิตเพราะอุบัติเหตุทางถนน หรือได้ข่าวเพื่อนป่วยเป็นมะเร็งทั้งที่ยังหนุ่มแน่น และในทันทีนั้นเราคิดว่า "อาจเป็นฉันบ้างก็ได้"
เราสงสัยว่า หลังตายแล้วมีอะไรอีก ? หรือว่าหมดเรื่องเพียงแค่นั้น ?
เกือบตลอดเวลาเราพยายามปัดความคิดทั้งหมดนี้ออกไป ขณะที่ถลาไปสู่ความรื่นเริงรอบข้างซึ่งเต็มไปด้วยความดึงดูดใจอันไม่ยั่งยืน
แต่ความกลัว ความเจ็บปวด และความไม่แน่นอนเหล่านี้ ไม่เคยหนีหายไปไหน ตลอดเวลามันยังคงซุ่มอยู่ภายใต้พื้นผิวนั่นเอง
เขียนโดย นอร์แมน วอร์เร็น
แปลโดย กนกบรรณสาร
จากหนังสือ ชีวิตฉงน
ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน
ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com