ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ได้บันทึกถ้อยคำที่ท้าทายไว้ว่า
"จงอวยพรแก่คนที่เคี่ยวเข็ญท่าน จงให้พร อย่าแช่งด่าเลย" (โรม 12:14)
คนโบราณเชื่อกันว่า คำให้พรเป็นคำศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากผู้ที่อาวุโสกว่า หรือผู้เป็นบิดา เพราะว่า
"สิ่งที่ค้านไม่ได้ คือ ผู้น้อยเป็นผู้รับพร และผู้ใหญ่เป็นผู้ให้พร" (ฮีบรู 7:7)
แต่พรใด ๆ ในโลกนี้ ก็คงไม่มีพรใดที่ยิ่งใหญ่ และเป็นที่น่าปรารถนาเท่ากับพรที่มาจากพระเป็นเจ้า ! คนทั่วโลกจึงมักจะมุ่งแสวงหาพรจากพระเป็นเจ้าในรูปแบบต่าง ๆ
ในเวลาเดียวกัน พระเป็นเจ้าก็กำลังทรงประสงค์จะอวยพระพรคนข้าง ๆ หรือรอบ ๆ ตัวของเราผ่านตัวของเราอยู่ก็เป็นได้ ถ้าคุณและผมยินยอม
ใช่ครับ อย่างน้อยที่สุด เราสามารถให้ความสุขแก่คนเหล่านั้น ผ่านการให้ถ้อยคำที่เป็นพรแก่พวกเขาได้ อย่างเช่นถ้อยคำที่ว่า
"ขอพระเจ้าทรงอวยพรสุขภาพของคุณ"
"ขอพระเจ้าทรงอวยพรในการเรียนการสอบของเธอ"
"ขอพระเจ้าทรงอวยพรชีวิตสมรสและครอบครัวของเธอ"
"ขอพระเจ้าทรงอวยพรอาชีพการงานของคุณ"
ฯลฯ
คำเหล่านี้ ล้วนแต่ให้ความสุขแก่คนที่รับฟัง เพราะแม้แต่ศัตรูของเรา ก็ยังอยากรับฟัง
แท้จริงแล้ว การให้พรเป็นช่องทางที่นำความสุขมาสู่ทั้งผู้ให้และผู้รับ ดุจดังการให้หรือบริจาคโลหิต ผู้บริจาคไม่เพียงแต่จะช่วยต่ออายุให้แก่ผู้รับบริจาค แต่ยังเปิดโอกาสให้ร่างกายของตนผลิตโลหิตสดใหม่ขึ้นมาทดแทน ทำให้คึกคัก กระชุ่มกระชวย
วันนี้ คุณได้เป็นพร หรือให้พรแก่ใครในทางใดทางหนึ่งบ้างแล้วยัง ถ้ายัง ลองทำดูสิครับ แล้วคุณจะมีความสุข ชนิดเกินที่จะบรรยาย
คนบางคนทำตัวเป็นพรที่ให้ความสุข ไม่ว่าพวกเขาจะไป ณ ที่ใด
แต่คนบางคนกลับให้ความสุข เมื่อตัวเขาจากไห
ออสการ์ ไวลด์ (1854-1900)
อ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
จากหนังสือ การให้ มีความสุขยิ่งกว่าการรับ
ตอน "ให้อย่างมีคุณค่า"
ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน
ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com