41. เพื่อพบพระผู้สร้าง

เพื่อพบองค์พระผู้สร้าง ให้ละทิ้งสิ่งทรงสร้างทั้งหลาย

สาวก

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะรับพระคุณมากยิ่งขึ้น เพื่อจะถึงขั้นที่ไม่มีผู้ใดหรือสิ่งทรงสร้างอันใดสามารถเป็นอุปสรรคแก่ข้าพระองค์ได้ เพราะตราบที่มีสิ่งใดหน่วงเหนี่ยวข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะบินไปหาพระองค์อย่างอิสระไม่ได้

ผู้ที่กล่าวว่า "โอ ข้าอยากมีปีกอย่างนกพิราบ จะบินหนีไปและอยู่สงบ" (สดุดี 55:6) มีความปรารถนาที่จะบินไปหาพระองค์อย่างอิสระ ใครเล่ามีความสงบมากกว่าบุคคลนั้นที่ไม่มีเป้าอื่นใดนอกจากพระเจ้า และใครเป็นอิสระมากกว่าบุคคลนั้นที่ไม่ปรารถนาสิ่งใดบนแผ่นดินโลก

ดังนั้น ก็เป็นสิ่งดีที่จะมองไปให้ทั่วสรรพสิ่งที่สร้างขึ้น ละทิ้งตนเองอย่างสิ้นเชิง และเข้าใจด้วยความตื่นเต้นว่า พระองค์ที่เป็นผู้ทรงสร้างสิ่งสารพัด ไม่มีสิ่งใดที่เหมือนพระองค์เลย ในท่ามกลางบรรดาสิ่งมีชีวิตที่พระองค์ได้ทรงสร้างขึ้นมา ถ้ามนุษย์ไม่ถูกปลดปล่อยจากสรรพสิ่งที่ทรงสร้างขึ้นแล้ว เขาจะไม่สามารถเอาใจใส่สิ่งที่เกี่ยวกับพระเจ้าได้อย่างอิสระ สาเหตุที่จะหาคนที่ชอบไตร่ตรองภาวนาได้ยากนัก เพราะมีน้อยคนที่จะรู้จักแยกตัวอย่างเต็มที่ออกจากสิ่งที่อยู่แค่ชั่วครู่ชั่วคราวและที่เป็นสิ่งทรงสร้าง

จริงอยู่ เพื่อทำเช่นนี้จะต้องได้รับพระคุณมาก คือพระคุณที่จะยกชูจิตวิญญาณขึ้นและยกขึ้นให้เหนือตัวเอง ถ้าคนนั้นไม่อยู่ในระดับสูงฝ่ายวิญญาณ เป็นอิสระจากสรรพสิ่งที่ทรงสร้างขึ้น และเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระเจ้าอย่างสมบูรณ์ ความรู้และทรัพย์สินทั้งหมดของเขาก็มีความสำคัญน้อยมาก บุคคลที่ถือว่ามีสิ่งอื่นใดใหญ่โตนอกจากความดีอันเดียวที่มหาศาลและนิรันดร์ ก็จะเป็นคนต่ำต้อยและจะนอนเกลือกกลั้วบนพื้นแผ่นดิน สิ่งใดก็ตามที่ไม่ใช่พระเจ้าก็เป็นสิ่งไร้ค่า และเราต้องถือว่านั้นเป็นสิ่งไร้ค่า

สติปัญญาของผู้ที่ได้รับความสว่างและผู้ที่นับถือพระเจ้านั้น ช่างต่างกันมากกับความรู้ของนักวิชาการที่ฉลาดหลักแหลมและได้อ่านหนังสือมากมาย เพราะความรู้ที่ไหลลงมาจากแหล่งกำเนิดแห่งพระเจ้าก็มีค่าสูงกว่าความรู้ที่มนุษย์ได้มาด้วยการลงมือหาเองด้วยความยากลำบาก

มีคนเป็นอันมากที่ปรารถนาการไตร่ตรองภาวนา แต่เขาไม่ยอมทำสิ่งเหล่านั้นที่จำเป็นสำหรับการภาวนา อุปสรรคใหญ่อีกอย่างก็คือ การพอใจกับสิ่งของภายนอกและสิ่งที่สัมผัสได้ แล้วจึงไม่ค่อยมีประสบการณ์ของการปฏิเสธตัวเอง ไม่รู้ว่าอะไรเป็นมาอย่างไร หรือเราถูกนำไปโดยน้ำใจหรือวิญญาณอะไร หรือเราเสแสร้งว่าเราเป็นคนอย่างไร คือเราที่ปรารถนาให้คนเรียกว่าเป็นคนที่อยู่ฝ่ายวิญญาณ สิ่งที่เราลงแรงอย่างมากมายและมีความกระวนกระวาย ยิ่งกว่านั้นอีก เกี่ยวกับสิ่งที่ต่ำต้อยและสิ่งที่อยู่แค่ชั่วคราวเท่านั้น ขณะที่เราไม่หันไปเลยหรือหันไปน้อยมากถึงเรื่องที่เกี่ยวกับส่วนที่อยู่ภายในของเราด้วยความตั้งใจเต็มที่

น่าเสียดาย หลังจากสำรวมจิตไม่นาน เรามักพลาดไป โดยไม่ได้ประเมินกิจกรรมของเราด้วย การตรวจอย่างเคร่งครัด เราไม่สนใจเลยว่าเรามีความรักต่อสิ่งใดบ้าง และเราไม่รู้สึกทุกข์ใจที่กิจกรรมของเราไม่บริสุทธิ์

จงจำไว้ว่าการที่น้ำท่วมโลกครั้งใหญ่นั้นเกิดขึ้นเพราะมนุษย์ทั้งปวงได้เสื่อมทรามไป ฉะนั้น เนื่องจากความปรารถนาภายในใจเรานั้นชั่ว ความประพฤติที่เป็นผลของความปรารถนานั้น ซึ่งคล้ายกับเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงการที่เราขาดกำลังภายใน ก็จำเป็นต้องชั่วเช่นกัน ชีวิตที่ดีเป็นผลของใจที่บริสุทธิ์

ผู้คนมักจะถามดูว่า คนนี้คนนั้นเคยทำอะไรให้สำเร็จบ้าง แต่พวกเขาไม่ค่อยนึกถึงคุณธรรมของเขาในการกระทำสิ่งเหล่านั้น พวกเขามักจะถามว่า คนนี้แข็งแรงไหม รวยไหม หล่อไหม เขียนหนังสือเก่งไหม ร้องเพลงเพราะไหม หรือทำงานขยันดีไหม แต่พวกเขามักจะพูดน้อยมากถึงการที่เขาเป็นคนใจถ่อม มีความอดทนและเป็นคนอ่อนโยนมาก มีความศรัทธามากและอยู่ฝ่ายวิญญาณ ธรรมชาติมองดูสิ่งที่ปรากฎภายนอกของเขา พระคุณหันไปทางความเป็นอยู่ภายในของเขา ธรรมชาติผิดพลาดบ่อย ๆ แต่พระคุณวางใจในพระเจ้าและไม่ถูกหลอกลวง

หนังสือ เลียนแบบพระคริสต์ (Of The Imitation of Christ)
เขียนโดย โธมัส อาเคมพิส (Thomas à Kempis)
แปลโดย พญ. เออร์ซูลา โลเวนธอล
เรียบเรียงโดย กนกบรรณสาร

ความชูใจภายใน

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com