รากฐานของความเชื่อคริสเตียน

ถ้าผม กับประธานาธิบดีของสหรัฐเป็นเพื่อนกัน คนก็รู้กันทั่วโลก

วันหนึ่ง ประธานาธิบดีเกิดหัวใจวายตายกระทันหัน และผมก็เอาศพของท่านไปฝังไว้ที่ห้องใต้ดิน โดยไม่ให้ใครรู้

ต่อมาเมื่อมีนักข่าวมาถามผมว่า "ประธานาธิบดีไปไหน"

ผมก็ตอบว่า "ท่านไปเมืองนอก 2-3 เดือน"

คุณคิดว่าเขาจะเชื่อผมไหม

แน่นอน เขาอาจจะเชื่อคำพูดของผม

แต่เชื่อเกิน 100 ปีไหมครับ ? ... ไม่มีทางเด็ดขาด

ไม่ต้อง 100 ปีหรอกครับ ผ่านไปครึ่งปี เขาก็ไม่เชื่อผมแล้ว

แต่นี่เกือบ 2,000 ปีมาแล้ว คนก็ยังเชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นขึ้นจากความตาย และยังมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้

ซึ่งถ้าคุณจะศึกษาประวัติศาสตร์แล้ว คุณก็จะรู้ว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีคนยอมตายเพื่อจะเป็นพยานว่า พระเยซูทรงเป็นขึ้นจากตายจริง ๆ ถึง 40 ล้านคน และจำนวนของคนที่ยอมตายเพื่อความเชื่อนี้ กำลังเพิ่มขึ้นทุกวัน ๆ แม้กระทั่งในปัจจุบันนี้

คุณลองคิดดูสิครับ ถ้าพระองค์ไม่ได้เป็นขึ้นจากความตาย ความเชื่อนี้จะอยู่ได้อย่างไร เกือบ 2,000 ปีมาแล้ว และยังมีคนตายเพื่อความเชื่อนี้มากมายอีกด้วย ?

ถ้าคุณจะถามผมว่า "อะไรคือรากฐานที่สำคัญที่สุดของศาสนาคริสเตียน ?"

นั่นก็คือ "พระเยซูคริสต์ตายแล้ว 3 วัน หลังจากนั้นพระองค์ก็ฟื้นจากตายและยังมีชีวิตอยู่ จนถึงทุกวันนี้และตลอดไปเป็นนิตย์"

เพียงแต่คนคนหนึ่งหาเหตุผลเพียงข้อเดียว มาพิสูจน์ว่า เรื่องการฟื้นจากตายของพระเยซูคริสต์เป็นเรื่องโกหก เขาก็สามารถที่จะ ลบล้างศาสนาคริสเตียนออกจากโลกนี้ได้เลย

และตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีคน เป็นจำนวนมากพยายามหาหลักฐานเพื่อจะมาลบล้างความเชื่อถือนี้ของคริสเตียน แต่ข้อมูลและหลักฐานที่พวกเขาค้นพบนั้นมันกลับยิ่งสนับสนุนมากยิ่งขึ้นว่า พระเยซูคริสต์ได้ฟื้นจากความตายแล้วจริง ๆ

พระเยซูเกิดในหมู่บ้านชาวนา ในคอกสัตว์ มีชีวิตที่ยากจน มีอาชีพเป็นช่างไม้ พระองค์ไม่ใช่คนรวย ไม่มีอำนาจทางการเมือง ไม่เคยเขียนหนังสือแม้แต่เล่มเดียว ไม่เคยเดินทางไกลเกิน 200 กิโลเมตร จากที่ที่พระองค์เกิด

เมื่อพระองค์อายุ 30 ปี ก็เริ่มประกาศข่าวดีแห่งความรอดให้แก่มนุษย์

เมื่อพระองค์อายุ 33 ปี คนก็ไม่ต้อนรับพระองค์ พระองค์ถูกพวกศัตรูของพระองค์พาพระองค์ไปขึ้นศาลเตี้ย และพระองค์ก็ทรงถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการตรึงบนไม้กางเขน

เมื่อพระองค์ตาย เขาก็นำศพของพระองค์ไปฝังไว้ในอุโมงค์ แต่พระองค์ก็ไม่ยอมอยู่ในนั้น

3 วันต่อมา พระองค์ก็ลุกขึ้น

ผ่านไปเกือบ 2,000 ปี พระองค์ก็ยังทรงเป็นเอกลักษณ์ของมนุษย์ เป็นผู้นำของพวกเรา

ไม่ว่าเรื่องของพระองค์ไปที่ไหน ความหวังใหม่ ชีวิตใหม่ และการอภัยโทษบาปก็ไปถึงที่นั่น จนมีคำกล่าวว่า

"กองทัพที่เคยรบ เรือรบที่เคยแล่น กษัตริย์ที่ครองราชย์ ไม่มีผลต่อมนุษย์เท่ากับพระองค์เพียงคนเดียวเลย"

เมื่อเป็นเช่นนี้ คุณจะปฏิเสธพระองค์ได้หรือ ?

อ. นิกร สิทธิจริยาภรณ์
จากหนังสือ ศาสนาช่วยมนุษย์ได้จริงหรือ?

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com