แนวคิดเกี่ยวกับยุคพันปี

"แต่​ตัว​เจ้า​ดา​เนียล​เอ๋ย จง​ปิด​ถ้อย​คำ​เหล่า​นั้น​ไว้​
และ​ประ​ทับ​ตรา​หนัง​สือ​นั้น​เสียจน​ถึง​วาระ​สุด​ท้าย
คน​เป็น​อัน​มาก​จะ​วิ่ง​ไป​วิ่ง​มา และ​ความ​รู้​จะ​ทวี​ขึ้น"
(ดาเนียล 12:4)

ขอบคุณพระเจ้าที่ในยุคปัจจุบัน ความรู้ได้ทวีขึ้นอย่างรวดเร็วตามคำทำนายของดาเนียล ทำให้เรามีความเข้าใจเกี่ยวกับแผนการของพระเจ้าได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น มากยิ่งกว่าที่ผู้พยากรณ์ในพระคัมภีร์จะเข้าใจได้เสียอีก เพราะนอกจากเราจะมีพระคำแล้ว เรายังมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ยืนยัน และได้เห็นสิ่งต่างๆ เป็นไปตามคำทำนายได้จนเกือบจะครบถ้วนแล้ว คงเหลือแต่เพียงไม่กี่คำทำนายที่ยังไม่สำเร็จตามนั้น

ในบทนี้ ผมอยากจะขอเรียบเรียงลำดับเหตุการณ์ตามคำพยากรณ์ในพระคัมภีร์ โดยใช้เค้าโครงจากบทความที่เขียนโดย Alan Torres จากเว็บไซต์ biblicist.org (ตอนนี้ไม่สามารถเปิดได้แล้วครับ)

เหตุการณ์ที่สำเร็จตามคำพยากรณ์แล้ว

  • พระเยซูคริสต์ (พระเมสสิยาห์) มาเกิดที่เบธเลเฮม

  • พระคริสต์เสร็จสิ้นงานไถ่มนุษย์ที่ไม้กางเขน

  • พระวิหารถูกทำลาย ปี ค.ศ. 70 (พระคริสต์ทำนายไว้ใน มัทธิว 24:2)

  • ชาวยิวกระจัดกระจายไปทั่วโลก (เฉลยธรรมบัญญัติ 28:15-29; เอเสเคียล 36:2-8; เศคาริยาห์ 10:9)

  • ยุคคริสตจักร (มัทธิว 13; เอเฟซัส 2) โดยคริสตจักรทั้ง 7 ในวิวรณ์ 2-3 มีอยู่จริงในสมัยอัครทูตยอห์น (ผู้เขียนวิวรณ์) และสภาพของคริสตจักรเหล่านี้ยังตรงกับคริสตจักรยุคต่างๆ ด้วย

    • เอเฟซัส (วิวรณ์ 2:1; ค.ศ. 30-100) เป็นตัวแทนของคริสตจักรสมัยอัครทูต

    • สเมอร์นา (วิวรณ์ 2:8; ค.ศ. 100-313) เป็นตัวแทนของคริสตจักรสมัยโรมที่ถูกข่มเหงอย่างหนัก

    • เปอร์กามัม (วิวรณ์ 2:12; ค.. 313-600) เป็นตัวแทนของคริสตจักรสมัยคอนสแตนติน

    • ธิยา​ทิรา (วิวรณ์ 2:18; ค.ศ. 600-1517) เป็นตัวแทนของคริสตจักรในยุคมืด

    • ซาร์ดิส (วิวรณ์ 3:1; ค.ศ. 1517-1648) เป็นตัวแทนของคริสตจักรยุคปฏิรูป

    • ฟิลาเดลเฟีย (วิวรณ์ 3:7; ค.ศ. 1648-1900) เป็นตัวแทนของคริสตจักรสมัยที่มีการตื่นตัวครั้งใหญ่ ซึ่งมีการส่งมิชชันนารีจำนวนมาก

    • เลาดีเซีย (วิวรณ์ 3:14; ค.ศ. 1900-ปัจจุบัน) เป็นตัวแทนของคริสตจักรยุคปัจจุบัน ซึ่งเฉื่อยชา และออกห่างจากทางของพระเจ้า

เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นก่อนที่คริสตจักรจะถูกรับไป

- อิสราเอลรวมชาติสำเร็จ (ค.ศ. 1948)

การรวมชาติอิสราเอลในปี 1948 เป็นเหตุการณ์ที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ และทำให้โลกต้องตะลึง แต่แท้จริงแล้ว พระเจ้าได้บอกไว้ล่วงหน้าตั้งนานแล้ว ว่าอิสราเอลจะรวมชาติขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และพระองค์ได้ระบุเวลาไว้อย่างชัดเจนด้วย ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดในปี 1948 (จากทฤษฎีของ Jeffrey)

3 จง​เอา​เหล็ก​แผ่น​มา และ​ทำให้​มัน​เป็น​เหมือน​กำ​แพง​เหล็ก​ระ​หว่าง​เจ้า​กับ​นคร​นั้น แล้ว​หัน​หน้า​ไป​ทาง​นคร​นั้น ให้​นคร​นั้น​ถูก​ล้อม​ไว้ เจ้า​จง​ล้อม​นคร​นั้น​ไว้ นี่​เป็น​หมาย​สำ​คัญ​ต่อ​พงศ์​พันธุ์​อิส​รา​เอล

4 และ​จง​นอน​ตะ​แคง​ข้าง​ซ้าย แล้ว​วาง​ความ​ผิด​บาป​ของ​พงศ์​พันธุ์​อิส​รา​เอล​ไว้​เหนือ​ตัวเจ้า เจ้า​นอน​อยู่​กี่​วัน เจ้า​ก็​จะ​แบก​ความ​ผิด​บาป​ของ​นคร​นั้น​เท่า​นั้น​วัน

5 และ​เรา​ได้​กำ​หนด​จำ​นวน​วัน​แก่​เจ้า​คือ 390 วัน​ซึ่ง​เท่า​กับ​จำ​นวน​ปี​ของ​ความ​ผิด​บาป​พวก​เขา เป็น​วัน​ซึ่ง​เจ้า​จะ​ต้อง​แบก​ความ​ผิด​บาปของ​พงศ์​พันธุ์​อิส​รา​เอล

6 และ​เมื่อ​เจ้า​ทำ​เช่น​นี้​จน​ครบ​จำ​นวน​วัน​แล้ว เจ้า​จะ​ต้อง​นอน​ลง​เป็น​ครั้ง​ที่​สอง​โดย​นอน​ตะ​แคง​ข้าง​ขวา​และ​แบก​ความ​ผิด​บาปของ​พงศ์​พันธุ์​ยู​ดาห์ เรา​กำ​หนด​แก่​เจ้า 40 วัน 1 วัน​แทน 1 ปี

(เอเสเคียล 4:3-6)

จากพระคำตอนนี้ พระเจ้าได้กำหนดระยะเวลาของการลงโทษอิสราเอลไว้เป็นเวลา 430 ปี (390 + 40 วัน, 1 วัน = 1 ปี)

การลงโทษอิสราเอลเริ่มตั้งตั้งแต่ครั้งเมื่อบาบิโลนตีกรุงเยรูซาเล็ม และกวาดต้อนเชลยชาวยิวไปจำนวนมาก และตามพระสัญญาของพระเจ้าผ่านทางเยเรมีย์ อิสราเอลบางส่วนได้กลับไปยังดินแดนของตนเมื่อประมาณ 70 ปีหลังจากที่สิ้นชาติ (ประมาณ 536 ปี ก่อน ค.ศ.) ดังนั้น จึงยังคงเหลือเวลาของการลงโทษอีก 430 - 70 = 360 ปี

แต่น่าเศร้า คนอิสราเอลส่วนใหญ่กลับเลือกที่จะอาศัยอยู่ในบาบิโลนต่อ แทนที่จะกลับมายังแผ่นดินแห่งพันธสัญญาที่พระเจ้าเตรียมไว้ให้เขา การไม่เชื่อฟังของพวกเขา ส่งผลให้โทษของเขาเพิ่มเป็น 7 เท่า

และ​เมื่อ​เป็น​อย่าง​นี้​แล้ว​เจ้า​ทั้ง​หลาย​ยัง​ไม่​ฟัง​เรา เรา​ก็​จะ​ลง​โทษ​เจ้า​เจ็ด​เท่า​ของ​ความ​ผิด​บาป​ของ​พวก​เจ้า

(เลวีนิติ 26:18)

เวลาที่เหลืออยู่ 360 ปี จึงเพิ่มเป็น 360 x 7 = 2,520 ปีตามปฏิทินของยิว (360 วันต่อปี) ซึ่งเท่ากับ 2,484 ปีสากล

ดังนั้น พระคัมภีร์ได้ทำนายว่า อิสราเอลจะรวมชาติได้สำเร็จ 2,484 ปี หลังจาก 536 ปี ก่อน ค.ศ. ซึ่งก็ตรงกับปี ค.ศ. 1948 (2484 - 536 = 1948) ที่ประเทศอิสราเอลก่อตั้งขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นไม่กี่ปีหลังจากการสังหารหมู่ชาวยิวโดยนาซี

การรวมชาติอิสราเอลครั้งนี้ พวกยิวจะยังคงไม่เชื่อในพระเมสสิยาห์ และเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการพิพากษาจากพระเจ้าที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากในสัปตะสุดท้าย (เอเสเคียล 20:33-38; 22:17-22; เศฟันยาห์ 2:1-2) แต่ในอนาคต หลังจากเสร็จสิ้นสัปตะสุดท้ายแล้ว จะมีการรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ของชาวยิวในความเชื่อ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับพระพรในยุคพันปี (อิสยาห์ 11:11-12)

- ชาวยิวครอบครองเยรูซาเล็ม (ค.ศ. 1967)

แม้ชาวยิวจะรวมประเทศได้ แต่เขาก็ครอบครองเยรูซาเล็มได้เพียงบางส่วนเท่านั้น และในปี ค.ศ. 1967 หลังสงครามหกวัน ยิวได้เข้าครอบครองเยรูซาเล็ม แย่งชิงส่วนเยรูซาเล็มดั้งเดิมมาจากจอร์แดนได้สำเร็จ

- วิหารหลังที่สามของชาวยิว

วิหารหลังที่สามเป็นส่วนสำคัญของคำพยากรณ์เกี่ยวกับวาระสุดท้ายของยุค และอาจเรียกว่าเป็นวิหารของช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก (tribulation temple)

คำทำนายมากมาย (ดาเนียล 9:27; มัทธิว 24:15; เธสะโลนิกา 2:2-3 และวิวรณ์ 11:1-2) กล่าวถึงวิหารหลังที่สามนี้ และล้วนเน้นย้ำถึงจุดกึ่งกลางของสัปตะสุดท้าย กล่าวว่าปรปักษ์พระคริสต์จะเข้าครอบครองวิหารนี้ และจะทำสิ่งที่​​น่า​รัง​เกียจ​ซึ่ง​ก่อ​ให้​เกิด​ความ​หายนะ

ขณะนี้วิหารหลังนี้ยังไม่ได้เกิดขึ้น แม้ว่าจะมีแผนการสร้างที่ชัดเจนแล้วก็ตาม แต่จะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วหลังจากที่ชาวยิวสามารถเข้าครอบครองเขาพระวิหาร (Temple Mount) ได้แล้ว

- รัฐบาลโลก

ดาเนียล 7:23 บอกเราเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลโลกขึ้นมา ซึงจะเป็นเหตุการณ์นำสู่ช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก

รัฐบาลนี้จะเป็นในรูปแบบจักรวรรดินิยม และจะมีอำนาจควบคุมทั้งโลก มีการคาดการณ์ว่าอาจจะเป็นในรูปแบบของสหประชาติ แต่อาจมาในรูปแบบผู้นำที่มีอำนาจและได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลกก็เป็นได้

- สิบอาณาจักร

ในที่สุด รัฐบาลโลกจะถูกแบ่งเป็น 10 อาณาจักรซึ่งจะควบคุมทั้งโลกไว้อยู่ และจะมีผู้นำเป็นกษัตริย์ 10 องค์

หลายคนเพ่งเล็งว่าสหภาพยุโรปอาจเป็น 10 อาณาจักรดังกล่าว แต่ทว่าคงจะไม่ใช่ เพราะว่าไม่ตรงกับคำทำนายจากพระคัมภีร์ แม้ว่าในที่สุด สหภาพยุโรปอาจเป็นอาณาจักรหนึ่งใน 10 อาณาจักรนี้ก็ตาม

- การปรากฏตัวของปรปักษ์พระคริสต์

จากดาเนียล 7:24 ปรปักษ์พระคริสต์จะเรืองอำนาจขึ้นหลังจากรัฐบาลโลกถูกแบ่งเป็น 10 อาณาจักรแล้ว และจะปรากฏตัวก่อนเริ่มช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก

ก่อนเริ่มต้นช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก หรือสัปตะสุดท้าย จะเกิดเหตุการณ์ 2 อย่างขึ้น คือ การถูกรับไปของคริสตจักร (apostasia หรือ การจากไป) และการปรากฏตัวของคนนอกกฎหมายหรือลูกแห่งความพินาศ (2 เธสะโลนิกา 2:1-12)

- สันติภาพและความปลอดภัยปลอมๆ

ตามที่กล่าวไว้ใน 1 เธสะโลนิกา 5:1-3 ก่อนจะถึงวันแห่งความยากลำบาก จะมีสันติภาพเกิดขึ้นทั่วโลก หลังจากที่โลกได้รับการนำโดยปรปักษ์พระคริสต์และ 10 อาณาจักร

- พันธสัญญา 7 ปี

สิ่งที่จะนำโลกเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก ไม่ใช่การถูกรับไปของคริสตจักร แต่เป็นการทำพันธสัญญากันระหว่างอิสราเอลและปรปักษ์พระคริสต์ (ดาเนียล 9:27; อิสยาห์ 28:14-22) ซึ่งหลังจากการทำพันธสัญญานี้ คริสตจักรก็จะถูกรับไป ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก

การถูกรับไปของคริสตจักร
(The Rapture of The Church)

51 นี่​แน่ะ ข้าพ​เจ้า​มี​ความ​ล้ำ​ลึก​ที่​จะ​บอก​กับ​พวก​ท่าน คือ​เรา​จะ​ไม่​ล่วง​หลับ​หมด​ทุก​คน แต่​จะ​ถูก​เปลี่ยน​ใหม่​ทุก​คน

52 ใน​ชั่ว​ขณะ​เดียว ใน​พริบ​ตา​เดียว เมื่อ​เป่า​แตร​ครั้ง​สุด​ท้าย เพราะ​ว่า​จะ​มี​การ​เป่า​แตร และ​พวก​ที่​ตาย​แล้ว​จะ​ถูก​ทำ​ให้​เป็น​ขึ้น​โดย​ปราศ​จาก​ความ​เสื่อม​สลาย แล้ว​เรา​จะ​ถูก​เปลี่ยน​ใหม่

53 เพราะ​ว่า​สิ่ง​ที่​เสื่อม​สลาย​ได้​นี้​ต้อง​สวม​ด้วย​สิ่ง​ที่​เสื่อม​สลาย​ไม่​ได้ และ​สภาพ​ที่​ต้อง​ตาย​นี้​ต้อง​สวม​ด้วย​สภาพ​ที่​ไม่​ตาย

(1 โครินธ์ 15:51-53)

13 พี่​น้อง​ทั้ง​หลาย เรา​ไม่​อยาก​ให้​ท่าน​ขาด​ความ​เข้า​ใจ​เรื่อง​คน​ที่​ล่วง​หลับ​ไป​แล้ว เพื่อ​ท่าน​จะ​ไม่​เป็น​ทุกข์​โศก​เศร้า อย่าง​คน​อื่นๆ ที่​ไม่​มี​ความ​หวัง

14 เพราะ​ใน​เมื่อ​เรา​เชื่อ​ว่า​พระ​เยซู​สิ้น​พระ​ชนม์​และ​คืน​พระ​ชนม์​แล้ว โดย​พระ​เยซู​นั้น พระ​เจ้า​จะ​ทรง​นำ​บรร​ดา​คน​ที่​ล่วง​หลับ​ไป​แล้ว​นั้น​มา​กับ​พระ​องค์

15 ตาม​พระ​วจนะ​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า เรา​ขอ​บอก​พวก​ท่าน​ข้อ​นี้​ว่า เรา​ที่​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่​และ​คอย​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เสด็จ​มา จะ​ไม่​ล่วง​หน้า​ไป​ก่อน​พวก​ที่​ล่วง​หลับ​ไป​แล้ว

16 คือ​ว่า​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จะ​เสด็จ​มา​จาก​สวรรค์​ด้วย​พระ​ดำ​รัส​สั่ง ด้วย​เสียง​เรียก​ของ​หัว​หน้า​ทูต​สวรรค์​และ​ด้วย​เสียง​แตร​ของ​พระ​เจ้า และ​ทุก​คน​ที่​ตาย​แล้ว​ใน​พระ​คริสต์​จะ​เป็น​ขึ้น​มา​ก่อน

17 หลัง​จาก​นั้น​พระเจ้า​จะ​ทรง​รับ​พวก​เรา​ซึ่ง​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่​ขึ้น​ไป​ใน​เมฆ​พร้อม​กับ​คน​เหล่า​นั้น และ​จะ​ได้​พบ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ใน​ฟ้า​อา​กาศ อย่าง​นั้น​แหละ เรา​ก็​จะ​อยู่​กับ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เป็น​นิตย์

18 เพราะ​ฉะ​นั้น จง​หนุน​ใจ​กัน​ด้วย​ถ้อย​คำ​เหล่า​นี้​เถิด

(1 เธสะโลนิกา 4:13-18)

คริสตจักรในที่นี่ ประกอบด้วยผู้เชื่อแท้ทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่สมัยเพ็นเทคอสต์

วันหนึ่งก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความยากลำบากในสัปตะสุดท้าย คริสตจักรจะถูกรับไปจากโลกนี้ในพริบตา พระคริสต์จะมาจากสวรรค์พร้อมด้วยเสียงของทูตสวรรค์และเสียงแตรของพระเจ้า ผู้เชื่อในพระคริสต์ที่ตายแล้วจะฟื้นขึ้นมาก่อน ต่อมาผู้เชื่อที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะได้รับกายทิพย์ที่ไม่เสื่อมสลาย

คริสตจักรจะถูกรับขึ้นไปในเมฆ พบกับองค์พระผู้เป็นเจ้าในอากาศ และจะอยู่กับพระองค์ในสวรรค์ตลอดไป

การพิพากษาที่บัลลังก์ของพระคริสต์

10 แต่​ตัว​ท่าน​เล่า ทำ​ไม​จึง​กล่าว​โทษ​พี่​น้อง​ของ​ท่าน? หรือ​ท่าน​ผู้​เป็น​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง ทำ​ไม​ท่าน​จึง​ดู​หมิ่น​พี่​น้อง​ของ​ท่าน? เพราะ​ว่า​เรา​ทุก​คน​ต้อง​ยืน​อยู่​หน้า​บัล​ลังก์​พิพาก​ษา​ของ​พระ​เจ้า

11 เพราะ​มี​คำ​เขียน​ไว้​ใน​พระ​คัม​ภีร์​ว่า "องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้าตรัส​ว่า 'เรา​มี​ชีวิต​อยู่​ตราบ​ใด ทุก​คน​จะ​คุก​เข่า​กราบ​เรา และ​ทุก​ลิ้น​จะ​สรร​เสริญพระ​เจ้า' "

12 ฉะนั้น​เรา​ทุก​คน​จะ​ต้อง​ทูล​เรื่อง​ราว​ของ​ตัว​เอง​ต่อ​พระ​เจ้า

(โรม 14:10-12)

ผู้เชื่อที่ถูกรับขึ้นสวรรค์ไป จะต้องยืนอยู่ต่อหน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ เพื่อที่จะรับมงกุฎและบำเหน็จรางวัลสำหรับการกระทำในขณะที่มีชีวิตอยู่ การพิพากษานี้เกิดขึ้นหลังจากคริสตจักรถูกรับไป และเกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากบนโลกนี้

งานอภิเษกสมรสของพระเมษโปดก

7 ขอ​ให้​เรา​ยินดี​และ​เปรม​ปรีดิ์ และ​ถวาย​พระ​เกียรติ​แด่​พระ​องค์ เพราะ​งาน​อภิ​เษก​สม​รส​ของ​พระ​เมษ​โป​ดก​มา​ถึง​แล้ว และ​เจ้า​สาว​ของ​พระ​องค์​ก็​เตรียม​ตัว​พร้อม​แล้ว

8 และ​โปรด​ให้​เจ้า​สาว​สวม​ใส่ ผ้า​ป่าน​เนื้อ​ละเอียด มัน​ระยับ​และ​สะอาด เพราะ​ว่า​ผ้า​ป่าน​เนื้อ​ละเอียด​นั้น​คือ​การ​ประ​พฤติ​อัน​ชอบ​ธรรม​ของ​ธรร​มิก​ชน

9 และ​ทูต​สวรรค์​องค์​นั้น​บอก​ข้าพ​เจ้า​ว่า "จง​เขียน​ลง​ไป​ว่า ความ​สุข​มี​แก่​คน​ทั้ง​หลาย​ที่​ได้​รับ​เชิญ​มา​ใน​งาน​เลี้ยง​อภิ​เษก​สม​รส​ของ​พระ​เมษ​โป​ดก" และ​ท่าน​บอก​อีก​ว่า "ถ้อย​คำ​เหล่า​นี้​เป็น​คำ​ที่​สัตย์​จริงของ​พระ​เจ้า"

(วิวรณ์ 19:7-9)

งานแต่งงานของพระเมษโปดกเกิดขึ้น เมื่อคริสตจักรได้ถูกรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสต์ในสวรรค์ หลังจากการพิพากษาที่บัลลังก์ของพระคริสต์

เจ้าบ่าวก็คือพระคริสต์ พระองค์จะอยู่ร่วมกับเจ้าสาวของพระองค์ ซึ่งได้แก่คริสตจักรที่พระองค์รักตลอดกาล อันประกอบด้วยผู้เชื่อทุกยุคทุกสมัยตั้งแต่วันเพ็นเทคอสต์จนถึงวันที่คริสตจักรถูกรับไป

ช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก
(The Tribulation)

เหตุการณ์ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก จะเกิดขึ้นในสัปตะสุดท้ายตามคำทำนายของดาเนียล (ดาเนียล 9:24-27)

- การบุกรุกอิสราเอล

จากเอเสเคียล 38-39 จะมีการบุกรุกอิสราเอลโดยชาติต่างๆ ซึ่งอาจเกิดก่อนหรือในช่วงสัปตะสุดท้ายก็ได้ แต่ว่าพระเจ้าจะช่วยอิสราเอลให้รอดพ้นจากการบุกรุกนี้อย่างอัศจรรย์ และชนชาติเหล่านั้นจะถูกกวาดล้างไป

มีผู้สันนิษฐานว่า ชนชาติที่จะมาบุกรุกอิสราเอลที่ปรากฏในเอเสเคียลบทที่ 38-39 บ่งชี้ถึงเมืองหรือประเทศต่างๆ ดังนี้

  • เมเชค = มอสโกว์

  • ทูบัล = Tubalsk ในไซบีเรีย

  • เปอร์เซีย = อิหร่าน

  • คูช = เอธิโอเปีย

  • พูต = ลิเบีย

  • โกเมอร์ = เยอรมัน

  • เบธ​โท​การ​มาห์ = อาร์มาเนีย

ในสัปตะสุดท้ายนี้ ปรปักษ์พระคริสต์จะครองอำนาจในอาณาจักรโรมที่ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง (ดาเนียล 2) และหลังจากนั้นก็จะครองได้เกือบหมดทั้งโลก

ปรปักษ์พระคริสต์จะทำพันธสัญญากับอิสราเอลเป็นเวลา 7 ปี ในช่วงครึ่งแรกจะเกิดเหตุการณ์ของตราทั้งหก (วิวรณ์ 6) คนยิวที่ได้รับการประทับตราจำนวน 144,000 คนจะประกาศข่าวประเสริฐไปทั่วทั้งโลก

เมื่อเวลาผ่านไป 3 ปีครึ่ง ปรปักษ์พระคริสต์จะทำลายพันธสัญญานั้น ตั้ง​"สิ่ง​ที่​น่า​รัง​เกียจ​ซึ่ง​ก่อ​ให้​เกิด​ความ​หายนะ" (มัทธิว 24:15) ขึ้น และจะเกิดช่วง "เวลาแห่งความยากลำบากที่ยิ่งใหญ่" หรือ "กลียุค" (the great tribulation) ขึ้นในครึ่งหลังของสัปตะสุดท้ายนี้ ซึ่งเป็นช่วงของภัยพิบัติต่างๆ ตามที่ปรากฏในวิวรณ์บทที่ 7-18

ในช่วงกลียุคนี้ ปรปักษ์พระคริสต์จะตั้งรูปของเขาขึ้นและสั่งให้ทุกคนนมัสการรูปของเขา (วิวรณ์ 13:15) เขาจะเรืองอำนาจเป็นเวลา 42 เดือน หรือ 1,260 วัน ผู้เชื่อชาวอิสราเอลจะหลบหนีจากปรปักษ์พระคริสต์ไปอยู่ในภูเขาในช่วงเวลานี้ ซึ่งอาจเป็นที่เมืองเปตรา (Petra) เมืองหลวงของเอโดมที่อยู่ทางตะวันออกของทะเลตายในจอร์แดน

- การก่อสงครามอารมาเกดโดน (Armageddon)

คำว่าอารมาเกดโดนมาจากภาษาฮีบรู แปลว่า "ภูเขาเมกิดโด" ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอิสราเอล

ปรปักษ์พระคริสต์จะก่อส่งครามขึ้นกับพระคริสต์ที่นี่ และพระคริสต์จะมีชัยชนะเหนือกองกำลังทหารของปรปักษ์พระคริสต์จากทั่วทั้งโลก

การกลับมาครั้งที่สองของพระคริสต์

พระคริสต์ร่วมกับคริสตจักร จะมาก่อตั้งอาณาจักรของดาวิดบนโลกนี้ และปิดฉาก "เวลาของคนต่างชาติ" (ลูกา 21:24) พร้อมทั้งการเมืองที่ฉ้อโกงของโลกนี้ (ดาเนียล 2:44)

ซาตานถูกจับมัด

วิวรณ์บทที่ 20 ได้บรรยายเหตุการณ์ว่า ซาตานจะถูกมัดและโยนลงไปในบาดาลลึก ส่งผลให้โลกนี้เต็มไปด้วยความชอบธรรมและสันติภาพ ภายใต้กายปกครองของพระคริสต์ ผู้เป็นกษัตริย์ของคนทุกชาติ

การพิพากษาชนชาติอิสราเอล

การพิพากษานี้เกิดขึ้นระหว่างสงครามอารมาเกดโดนและจุดเริ่มต้นของยุคพันปี

คนยิวที่ยังมีชีวิตอยู่จะถูกพิพากษา โดยจะมีการพิพากษาแยกผู้เชื่อและผู้ไม่เชื่อ

  • ผู้ไม่เชื่อ จะถูกทิ้งลงไปในที่มืด ที่ซึ่งจะมีแต่การร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน (มัทธิว 25:30) เพื่อรอคอยการพิพากษาการ​พิพาก​ษา​หน้า​พระ​ที่​นั่ง​ใหญ่​สีขาว

  • ผู้เชื่อ จะเข้าสู่ยุคพันปี อาศัยอยู่ในเยรูซาเล็มและดินแดนอิสราเอลร่วมกับพระคริสต์

การพิพากษาคนต่างชาติ

การพิพากษานี้เกิดขึ้นระหว่างสงครามอารมาเกดโดนและจุดเริ่มต้นของยุคพันปีเช่นเดียวกับการพิพากษาชนชาติอิสราเอล

คนต่างชาติที่รอดชีวิตในช่วงสัปตะสุดท้ายจะถูกพิพากษาตามที่เขาทำกับพี่น้องของพระคริสต์ อันได้แก่คนยิว (เศคาริยาห์ 14:1-9; มัทธิว 25:31-46)

คนต่างชาติเหล่านี้ที่ปฏิเสธสิ่งที่พยานของพระคริสต์ประกาศในช่วงสัปตะสุดท้าย จะถูกลงโทษเป็นนิตย์ และรอคอยการ​พิพาก​ษา​หน้า​พระ​ที่​นั่ง​ใหญ่​สีขาว

คนต่างชาติที่เชื่อสิ่งที่พยานของพระคริสต์ประกาศ ก็จะเข้าสู่ยุคพันปี

การเป็นขึ้นมาของผู้ชอบธรรมในช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก และของผู้ชอบธรรมในสมัยพันธสัญญาเดิม

ผู้เชื่อในสมัยพันธสัญญาเดิม และผู้เชื่อที่เสียชีวิตเพราะความเชื่อในช่วงสัปตะสุดท้าย (วิวรณ์ 20:4-5) จะเป็นขึ้นมาเมื่อพระคริสต์เสด็จลงมายังโลกนี้อีกครั้ง (1 โครินธ์ 15:23)

ผู้ชอบธรรมเหล่านี้จะร่วมกับคริสตจักร และครอบครองร่วมกับพระคริสต์บนโลกนี้ในช่วงยุคพันปี

ยุคพันปี

เป็นยุคที่เต็มไปด้วยสันติภาพและความชอบธรรม พระคริสต์จะครอบครองทุกชาติบนโลกนี้ด้วยคทาเหล็ก (วิวรณ์ 19:15) ประ​ชา​ชาติ​จะ​ไม่​ยก​ดาบ​ขึ้น​ต่อ​สู้​กันและ​เขา​จะ​ไม่​ศึก​ษา​ยุทธ​ศาสตร์​อีก​ต่อ​ไป (อิสยาห์ 2:4)

งาน​เลี้ยง​อภิ​เษก​สม​รส​ของ​พระ​เมษ​โป​ดก
(Marriage Supper of the Lamb, Wedding Feast)

งานแต่งงานระหว่างพระคริสต์และคริสตจักรเกิดขึ้นในสวรรค์ หลังจากที่คริสตจักรถูกรับไป แต่งานเลี้ยงเกิดขึ้นบนโลกนี้หลังจากพระคริสต์ลงมายังโลกนี้เป็นครั้งที่สอง ตามที่กล่าวถึงในพันธสัญญาใหม่หลายครั้งเกี่ยวกับการเฉลิมฉลอง (มัทธิว 8:11; ลูกา 13:28-29; 22:16-18, 29-30

ผู้ที่ได้รับการเชิญให้มาร่วมงานเลี้ยงนี้ ได้แก่ ผู้เชื่อในสมัยพันธสัญญาเดิมและในช่วงสัปตะสุดท้าย

การปล่อยตัวซาตานและการกบฏครั้งสุดท้าย

ซาตานจะถูกปล่อยตัวออกมาหลังจากครบพันปี (วิวรณ์ 20:7-10) เขาจะล่อลวงคนมากมายที่อยู่ในยุคพันปีให้ไปร่วมกับเขา และในที่สุดกองทัพของพระเจ้าก็ทำลายซาตานและกองทัพของเขา

การพิพากษาซาตาน

ซาตานได้ถูกพิพากษาแล้วที่กางเขน (ยอห์น 16:11) ถูกห้ามไม่ให้เข้าสวรรค์ (วิวรณ์ 12:7-12) ถูกผูกมัดและทิ้งลงในบาดาลลึก (วิวรณ์ 20:1-3) และท้ายที่สุด เขาจะพบจุดจบที่บึง​ไฟ​และ​กำ​มะ​ถัน ที่​ซึ่ง​สัตว์​ร้าย​และ​ผู้​เผย​พระ​วจนะ​เท็จ​อยู่​นั้น และ​พวก​มัน​จะ​ถูก​ทร​มาน​ทั้ง​กลาง​วัน​และ​กลาง​คืน​ตลอด​ไป​เป็น​นิตย์ (วิวรณ์ 20:10-15)

การชำระฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกเดิม

โลกจะถูกชำระด้วยการเผาผลาญ (2 เปโตร 3:3-13; วิวรณ์ 20:11; 21:1)

การ​พิพาก​ษา​หน้า​พระ​ที่​นั่ง​ใหญ่​สีขาว

ผู้ไม่เชื่อทั้งหมดในทุกยุคทุกสมัยจะต้องพบกับการพิพากษาครั้งสุดท้าย พวกเขาจะฟื้นขึ้นมาหลังยุคพันปี ถูกพิพากษาตามการกระทำของเขา และถูกส่งไปยังบึงไฟนรก ซึ่งเป็นการตายครั้งที่สองของเขา (วิวรณ์ 20:12-15; 21:8; 22:10-15)

การเกิดของฟ้า​สวรรค์​ใหม่​และ​แผ่น​ดิน​โลก​ใหม่

หลังจากที่ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกถูกเผาผลาญแล้ว ก็จะเกิดฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ขึ้นมา ที่นั่น ผู้ที่ได้รับการไถ่แล้วตลอดทุกยุคทุกสมัยจะอยู่ที่นั่นและครอบครองร่วมกับพระคริสต์ตลอดไป! (2 เปโตร 3:13-14; วิวรณ์ 21:1-22:5)

สรุปโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์

แหล่งข้อมูลสำหรับศึกษาเพิ่มเติม

John Fok Systematic Theology

End Times Bible Prophecy โดย Alan Torres

www.watchmanbiblestudy.com/Articles/1948PropheciesFulfilled.html

หมายเหตุ: ข้อพระคัมภีร์ที่อ้างอิง มาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับมาตรฐาน ปี 2011 (THSV11) ของสมาคมพระคริสตธรรมไทย หากไม่ได้ระบุว่ามาจากฉบับอื่น