36. ให้ระลึกถึงของพระทาน

ให้ระลึกถึงของประทานของพระเจ้าอันเหลือที่จะนับได้

สาวก

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดเปิดใจของข้าพระองค์ให้รับบัญญัติของพระองค์ และทรงสอนข้าพระองค์ให้ดำเนินไปในทางแห่งบทบัญญัติของพระองค์ โปรดให้ข้าพระองค์เข้าใจน้ำพระทัยของพระองค์ โปรดให้ข้าพระองค์ระลึกถึงพระพรที่ได้รับจากพระองค์-ทุกประการและแต่ละประการทั้งหมด-ด้วยความยำเกรงและความเอาใจใส่ เพื่อต่อไปข้าพระองค์จะได้ขอบพระคุณพระองค์อย่างสมควรสำหรับบรรดาสิ่งเหล่านี้ ข้าพระองค์ทราบว่าข้าพระองค์ไม่สามารถขอบคุณเท่าที่ควรสำหรับของประทานของพระองค์แม้แต่ของเล็กที่สุด ข้าพระองค์ไม่สมควรที่จะรับของดีที่พระองค์ได้ทรงประทานให้ และเมื่อข้าพระองค์ไตร่ตรองถึงพระทัยอันกว้างขวางของพระองค์ จิตวิญญาณของข้าพระองค์ก็ล้มลงเพราะความยิ่งใหญ่นั้น สารพัดทุกสิ่งที่พวกข้าพระองค์มีอยู่ทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นโดยธรรมชาติหรือโดยพระคุณก็ตาม ก็เป็นของประทานจากพระองค์ ซึ่งพวกมันได้ประกาศคุณงามความดีและพระเมตตาของพระองค์ ซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งสิ่งดีทั้งปวงที่พวกข้าพระองค์ได้รับจากพระองค์

แม้ว่าคนหนึ่งได้รับของประทานมากกว่าและอีกคนหนึ่งได้น้อยกว่า กระนั้นทั้งหมดนั้นก็เป็นของพระองค์ และถ้าปราศากพระองค์ก็จะไม่มีสิ่งใดให้รับได้ คนที่ได้รับสิ่งที่ใหญ่กว่าก็ไม่สามารถอวดคุณงามความดีของเขาเองหรือถือว่าเขาเองสูงกว่าคนอื่น ๆ หรือประพฤติอย่างโอหังต่อคนที่ได้รับน้อยกว่า คนที่กล่าวอ้างถึงคุณสมบัติของตนเองน้อยกว่าโดยมีความถ่อมใจมากกว่าและอุทิศตัวในการขอบพระคุณ คนนั้นก็ใหญ่ยิ่งกว่าและดีกว่า ในขณะที่คนที่ถือว่าตนเองต่ำต้อยกว่ามนุษย์ทั้งปวงและประเมินตัวเองว่าเป็นผู้ที่มีค่าน้อยที่สุด คนนั้นก็เป็นคนสมควรยิ่งที่จะได้รับพระพรที่ยิ่งใหญ่กว่า

ในทางตรงกันข้าม คนที่ได้รับของประทานน้อยกว่าไม่ควรจะเศร้าใจ หรือกระสับกระส่าย หรือมีใจอิจฉาคนที่มั่งคั่งกว่า แต่ควรหันใจมาหาพระองค์แทน และถวายคำสรรเสริญมากที่สุดเพราะพระองค์ทรงประทานด้วยพระทัยเอื้อเฟื้อยิ่ง อย่างเป็นอิสระและอย่างเต็มพระทัย โดยไม่เห็นแก่ตัวบุคคล ทุกสิ่งทุกอย่างมาจากพระองค์ ฉะนั้น พระองค์จึงควรได้รับการสรรเสริญสำหรับสิ่งทั้งปวง พระองค์ทรงทราบว่าอะไรเป็นสิ่งดีสำหรับข้าพระองค์แต่ละคน และการที่คนหนึ่งจะได้รับน้อยกว่าและอีกคนหนึ่งได้รับมากกว่านั้น ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่พวกข้าพระองค์มีสิทธิ์จะวินิจฉัย แต่เป็นหน้าที่ของพระองค์ผู้ที่ทรงทราบว่าใครสมควรได้มากน้อยแค่ไหน

เหตุฉะนั้น ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์จึงถือว่าเป็นพระพรอย่างยิ่งที่ข้าพระองค์ไม่มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ความคิดของมนุษย์ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าชมและมีสง่าราศี เพราะคนที่ตระหนักถึงความขัดสนและความเลวทรามของตนเองไม่ควรจะเศร้าใจหรือท้อแท้ใจเพราะเรื่องนี้ แต่น่าจะมีความเล้าโลมใจและความยินดีมากกว่า เพราะพระองค์ได้ทรงเลือกคนอนาถาใจถ่อม คนที่ถูกดูหมิ่นในโลกนี้ ให้เป็นมิตรสหายและผู้รับใช้พระองค์ พยานหลักฐานถึงความจริงในเรื่องนี้ คือ บรรดาอัครทูตของพระองค์ ผู้ซึ่งพระองค์ได้ทรงแต่งตั้งขึ้นเป็นเจ้านายเหนือทั้งโลกนี้ แต่กระนั้นเขาก็ดำเนินชีวิตอยู่ในโลกนี้โดยไม่บ่นเลย เป็นคนใจถ่อมและอยู่อย่างง่าย ๆ ปราศจากเจตนาร้ายและกลอุบายใด ๆ ดังนั้น พวกเขาจึงยินดีแม้ว่าจะถูกประณามเพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์และอ้าแขนรับสิ่งซึ่งโลกเกลียดชังนั้นด้วยความรักอันยิ่งใหญ่

ฉะนั้น บุคคลที่รักพระองค์และสำนึกตัวถึงของพระทานของพระองค์ จึงไม่ควรจะชื่นใจในสิ่งอื่นใดเท่ากับน้ำพระทัยของพระองค์ และความพึงพอใจในการแผนการนิรันดร์ของพระองค์ เขาควรจะอิ่มใจและรับความเล้าโลมใจเพราะสิ่งเหล่านี้จนกระทั่งเขาจะปรารถนาที่จะเป็นคนต่ำต้อยที่สุด ในทำนองเดียวกันกับที่คนอื่น ๆ ปรารถนาจะเป็นคนที่ใหญ่โตที่สุด จนกระทั่งจะสบายใจและอิ่มใจในตำแหน่งที่ต่ำต้อยที่สุดพอ ๆ กันกับในตำแหน่งที่สูงสุด และเต็มใจที่จะถูกดูหมิ่น ไม่เป็นที่รู้จักและไม่เป็นที่จดจ่ำ พอ ๆ กันกับการที่มีผู้อื่นให้เกียรติเขาและมีชื่อเสียงสูงกว่าคนอื่น เขาจะเลือกน้ำพระทัยของพระองค์และรักพระเกียรติของพระองค์ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด และน้ำพระทัยของพระองค์ควรจะให้ความสุขแก่เขามากกว่าของประทานที่เขาเคยได้รับหรือที่อยากจะได้รับในวันข้างหน้า

หนังสือ เลียนแบบพระคริสต์ (Of The Imitation of Christ)
เขียนโดย โธมัส อาเคมพิส (Thomas à Kempis)
แปลโดย พญ. เออร์ซูลา โลเวนธอล
เรียบเรียงโดย กนกบรรณสาร

ความชูใจภายใน

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com