ความเชื่อ
ที่ช่วยให้รอด

"ด้วยว่าซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้นก็รอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อ
และมิใช่โดยตัวท่านทั้งหลายกระทำเอง แต่พระเจ้าทรงประทานให้"
(เอเฟซัส 2:8)

เรารอดได้ด้วยความเชื่อเท่านั้น แต่ไม่ใช่ความเชื่อเท่านั้นที่ช่วยให้เรารอดได้ เมื่อเราเชื่อ ท่าทีฝ่ายจิตวิญญาณของเราต้องกลับใจใหม่คู่กันไปกับความเชื่อ ซึ่งจะแยกออกจากกันในเพียงความคิดเท่านั้น เปาโลกล่าวถึงเรื่องความรอดว่า คือ

"ทั้งเป็นพยานแก่พวกยิวและพวกกรีก ถึงเรื่องการกลับใจใหม่เฉพาะพระเจ้า และความเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้าของเรา" (กิจการ 20:21)

ความรอด เป็นเรื่องของการกระทำทั้งในแง่บวกและแง่ลบ คือ ด้านหนึ่งเป็นการกลับใจ อีกด้านหนึ่งเป็นความเชื่อ อยู่ในการกระทำเดียวกัน การกลับใจคือการละทิ้งบาป ส่วนความเชื่อคือการยอมรับพระคริสต์เป็นองค์พระผู้ช่วยให้รอดบาป ในการรับความรอด ทุกคนต้องทำตามข้อแม้ คือ ต้องมีความเชื่อ เพราะความเชื่อนำความรอดมาถึงทุกคน และในเมื่อทุกคนสามารถเชื่อได้ ความไม่เชื่อจึงเป็นความบาปที่ต้องถูกพิพากษา ความไม่เชื่อเป็นความบาปที่เฉพาะเจาะจง และเป็นบาปขั้นพื้นฐานที่พระวิญญาณจะทำให้โลกรู้แจ้ง

"8 เมื่อพระองค์นั้นเสด็จมาแล้ว พระองค์จะทรงกระทำให้โลกรู้แจ้งในเรื่องความผิด ความชอบธรรม และการพิพากษา

9 ในเรื่องความผิดนั้น คือเพราะเขาไม่วางใจในเรา" (ยอห์น 16:8-9)

ความเชื่อที่จะช่วยให้รอดได้นั้น ไม่ใช่เป็นการเชื่อในหลักข้อเชื่อเท่านั้น แต่เป็นการผูกพันระหว่างพระเจ้าและมนุษย์ ซึ่งทำให้เกิดชีวิตใหม่และฤทธิ์เดช คือ ความสัมพันธ์ที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระเจ้าทางพระเยซูคริสต์ ความเชื่อสำคัญ คือ ทำให้เราสัมพันธ์กับพระเจ้า ด้วยความเชื่อเราจะได้รับส่วนในสภาพของพระองค์

"พระองค์จึงได้ทรงประทานพระสัญญาอันประเสริฐและใหญ่ยิ่งแก่เรา เพื่อว่าด้วยเหตุเหล่านี้ ท่านทั้งหลายจะพ้นจากความเสื่อมโทรม ที่มีอยู่ในโลกนี้เพราะตัณหา และจะได้รับส่วนในสภาพของพระองค์" (2เปโตร 1:4)

เมื่อเรามีความเชื่อที่นำไปสู่ความรอด ย่อมทำให้เราต้องใช้จิตวิญญาณของเราทุกด้าน ทั้งสมอง อารมณ์ และการยินยอมด้วยสมองของเรา เรายอมรับความจริงเรื่องของพระเจ้าเกี่ยวกับความบาปของเรา และของประทานสำหรับความรอดที่อยู่ในการวายพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ แต่เพียงแค่นี้ ไม่พอที่จะช่วยให้รอดได้ เพราะแม้แต่พวกปีศาจก็เชื่อและกลัวจนตัวสั่น

"ท่านเชื่อว่าพระเจ้าทรงเป็นหนึ่ง นั่นก็ดีอยู่แล้ว แม้พวกปีศาจก็เชื่อ และกลัวจนตัวสั่น" (ยากอบ 2:19)

ด้วยอารมณ์ เราสนองตอบความรักและพระคุณอันประเสริฐของพระเจ้าที่สำแดงบนไม้กางเขนของพระคริสต์ อารมณ์ช่วยสมองให้เข้าใจดีขึ้น ทั้งสมองและอารมณ์ผลักดันให้เกิดการยินยอม ถ้าไม่มีการยินยอมก็ไปด้วยกันไม่ได้ ผลที่สุดความเชื่อต้องขึ้นอยู่กับการยินยอมนี้ด้วย

J. Oswald Sanders
จากหนังสือ ฤทธิ์เดชแห่งความเชื่อ
สำนักพิมพ์ กนกบรรณสาร

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com