ประวัติศาสตร์

บทนำ

หมวดใหญ่นี้เริ่มจากโยชูวาถึงเอสเธอร์ซึ่งกินเวลาราว 800 ปี(1200-400 กคศ.) บันทึกเหตุการณ์ตั้งแต่อิสราเอลยึดครองคานาอัน ยุคที่ปกครองโดยผู้วินิจฉัยและกษัตริย์ จนถึงสมัยที่ถูกมหาอำนาจจากทิศเหนือเข้าครอบครองและจับไปเป็นเชลย

เอสราและเนหะมีย์บันทึกเรื่องที่เชลยกลับคืนถิ่น ส่วนเอสเธอร์กล่าวถึงหญิงสาวแสนสวยที่ช่วยชาวยิวให้พ้นความพินาศ

ไม่มีหนังสือประวัติศาสตร์เล่มใดจะบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ได้ และผู้เขียนเล่มนี้มีจุดประสงค์พิเศษในใจคือ ชี้ให้เห็นว่าน้ำพระทัยพระเจ้าสัมฤทธิผลในอิสราเอลอย่างไร พวกเขาจึงบันทึกอย่างซื่อตรงถึงความหายนะเมื่ออิสราเอลจงใจไม่เชื่อฟังและกษัตริย์ที่ ‘ดี’ หรือ ‘เลว’ จะขึ้นอยู่กับว่าพระองค์เชื่อฟังพระเจ้าหรือทำตามอำเภอใจ

1. โยชูวา

กล่าวถึงการยึดคานาอัน ดินแดนที่พระเจ้าสัญญาให้พวกเขา โดยมีโยชูวาเป็นผู้นำ

เนื้อเรื่อง

ภาค 1: การยึดครองคานาอัน 1-12

ข้ามแม่น้ำจอร์แดน 1-5

เยรีโค 6

อัย 7-8

การสู้รบทางตอนใต้ 9-10

การสู้รบทางตอนเหนือ 11-12

ภาค 2: แบ่งดินแดนให้ 12 เผ่า 13-21

ภาค 3: คำสั่งเสียของโยชูวา 22-24

สถานที่

ที่ราบฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนและคานาอัน

ช่วงเวลา

ประมาณ 1230-1200 กคศ.

เวลาที่เขียน

อาจในสมัยผู้พยากรณ์ซามูเอล

บุคคลสำคัญ

โยชูวา ราหับ และคาเลบ

เหตุการณ์สำคัญ

ผู้สอดแนมสองคน 2 ข้ามแม่น้ำจอร์แดน 3 เยรีโคล่ม 6

ข้อความที่มีชื่อเสียง

‘จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด’ (1:5-9) ‘ส่วนข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้าเราจะปรนนิบัติพระเจ้า’ (24:15)

ใจความสำคัญ

แม่ทัพโยชูวายึดคานาอันภายใต้การนำของพระเจ้าผู้รักษาพระสัญญา และโยชูวานำประชากรปฏิญาณต่อพระองค์อีกครั้งหนึ่ง

2. ผู้วินิจฉัย

กล่าวถึงวีรบุรุษในยุคที่ไม่ใส่ใจในกฎบัญญัติหลังยึดคานาอันและก่อนมีกษัตริย์องค์แรก

เนื้อเรื่อง

วาระสุดท้ายของโยชูวา 1-2

เรื่องของผู้วินิจฉัย 2-16

สมัยที่ยังไม่มีกษัตริย์ 17-21

วีรกรรมของบุคคลสำคัญ

เดโบราห์กับบาราค 4-5 กิเดโอนกับชาวมีเดียน 6-8 เยฟธาห์กับลูกสาว 10-12 แซมสันกับเดลิลาห์ 13-16

ช่วงเวลา

น้อยกว่า 150 ปี ราว 1200-1070 กคศ.

สถานที่

แผ่นดินอิสราเอล/คานาอัน

บทเรียนสอนใจ

อิสราเอลไม่ทำตามพระบัญชาที่ให้ขับไล่ทุกเผ่าในคานาอันออกไป ผลคืออิสราเอลนมัสการพระอื่น พวกเขาจึงแตกแยก อ่อนแอเป็นเหยื่อศัตรูง่าย แม้จะไม่รักษาสัญญาแต่เมื่อพวกเขากลับมาหาพระองค์ พระองค์ก็ช่วยพวกเขาให้รอดผ่านทางวีรบุรุษ

3. นางรูธ

เนื้อเรื่อง

การกันดารอาหารส่งผลให้ครอบครัวนาโอมีอพยพไปโมอับ แต่สามีกับลูกเสียชีวิตที่นั่น เมื่อนาโอมีกลับเบธเลเฮม รูธถึงกับยอมทิ้งบ้านเมืองมาเป็นเพื่อนแม่สามี แถมยังเก็บเศษข้าวในนายังชีพ และพบโบอาสญาติในตระกูลสามี โบอาสซึ่งใจในความกตัญญูของรูธ จึงขจัดปัดเป่าอุปสรรคต่างๆจนได้แต่งงานกับเธอ รูธหญิงต่างชาติได้เลือกพระเจ้าของนาโอมีมาเป็นของตน และในที่สุดนางกลายเป็นย่าทวดของกษัตริย์ดาวิด

ช่วงเวลาและสถานการณ์

เกิดขึ้นที่โมอับและเบธเลเฮม ในสมัยผู้วินิจฉัยที่สังคมเต็มไปด้วยความรุนแรง

ใจความสำคัญ

คือความรักและความภักดี พระเจ้าจะเลี้ยงดูทุกคนที่มาหาพระองค์ไม่ว่าเชื้อชาติไหน

4. 1, 2 ซามูเอล

เป็นประวัติศาสตร์อิสราเอลตั้งแต่ผู้วินิจฉัยคนสุดท้ายจนถึงปีสุดท้ายของกษัตริย์ดาวิด

เนื้อเรื่อง

พระเจ้าเลือกซามูเอลเป็นผู้นำอิสราเอล 1-7

ซาอูลกษัตริย์องค์แรกของอิสราเอล 8-10

ซาอูล: การไม่เชื่อฟังและถูกปลด 11-15

พระเจ้าเลือกสรรดาวิด 16

ดาวิดสู้กับโกลิอัท 17

ซาอูลอิจฉา: ดาวิดหลบหนี 18-30

ซาอูลกับโยนาธานเสียชีวิต 31; 2 ซมอ.1

ดาวิดขึ้นครองยูดาห์ 2-4

ดาวิดครองอิสราเอล และพระสัญญา 5-7

สงครามสมัยดาวิด 8-10

ดาวิดกับบัทเชบา: พระเจ้าลงโทษ 11-12

ปัญหาในราชวงศ์: อับซาโลมกบฏ 13-20

ปลายรัชสมัยดาวิด 21-24

สถานการณ์และช่วงเวลา

กษัตริย์ดาวิดสู้รบตลอดชีวิตเพื่อขยายอาณาเขตและนำสันติภาพมา กินเวลาประมาณ 100 ปี ราว 1075-975 กคศ.

เวลาที่เขียน

หลังจากอิสราเอลแบ่งเป็นสองอาณาจักรโดยอาจใช้ข้อมูลของซามูเอลและผู้พยากรณ์คนถัดมา และยังอ้างอิงจากสดุดีบางบท

บุคคลและเหตุการณ์สำคัญ

ฮันนาห์-ซามูเอลเกิด 1 ซมอ.1 เอลี-พระดำรัสที่มาถึงซามูเอล 3 หีบพันธสัญญาถูกศัตรูยึดไปและส่งคืน 4-6 ซามูเอลเจิมดาวิดเป็นกษัตริย์ 16 ดาวิดกับโกลิอัท 17 ดาวิดกับโยนาธาน 18-20 ให้ราชวงศ์ดาวิดดำรงเป็นนิตย์ 2 ซมอ. 7 ดาวิดกับบัทเชบา 11

ข้อความที่มีชื่อเสียง

คำอธิษฐานของฮันนาห์ 1 ซมอ. 2 ดาวิดคร่ำครวญถึงโยนาธาน 2 ซมอ. 1 แกะของคนจน 12

บทเรียนสอนใจ

อิสราเองไม่ควรมีกษัตริย์นอกจากพระเจ้า ซามูเอลจึงยับยั้งคนอิสราเอลในเรื่องนี้แต่กระนั้นพระเจ้ายังประทานกษัตริย์ให้ตามที่ประชาชนขอ แม้ทรงรู้ว่าจะมีปัญหาตามมา

ซาอูลเริ่มต้นด้วยดี แต่ความหยิ่งยโสชักนำให้กบฏต่อพระเจ้าจนถูกปลดออก

ดาวิดเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ความไว้วางใจในพระเจ้าไม่เคยทำให้ดาวิดผิดหวัง แม้บางครั้งจะผิดพลาด แต่ดาวิดพร้อมจะขออภัยโทษจากพระเจ้าเสมอ

จุดใหญ่คือพระเจ้าสัญญาว่าราชวงศ์ดาวิดจะคงอยู่เป็นนิตย์ พระสัญญานี้สำเร็จในชีวิตพระเยซูซึ่งเป็นพงศ์พันธุ์ดาวิด

5. 1, 2 พงศ์กษัตริย์

บันทึกประวัติศาสตร์อิสราเอลตั้งแต่ดาวิดสิ้นพระชนม์ การแบ่งแยกอาณาจักร จนถึงบาบิโลนเผาผลาญเยรูซาเล็มและพระวิหาร

เนื้อเรื่อง

ภาค 1: รัชสมัยซาโลมอน 1 พกษ. 1-2

ภาค 2: การปกครองของซาโลมอน 3-11

ซาโลมอนผู้หลักแหลม 3-4

สร้างและถวายพระวิหาร 5-8

พระสัญญาของพระเจ้า การค้าและการก่อสร้างของซาโลมอน 9

ราชินีเชบามาเยือน 10

ความล้มเหลวของซาโลมอน 11

ภาค 3: แบ่งอาณาจักร 12-2 พกษ. 17

เผ่าเหนือกบฏ 12-14

กษัตริย์แห่งยูดาห์และอิสราเอล 14-16

เอลียาห์ประลองกับบาอัล 17-19

อาหับแห่งอิสราเอล 20-22

เยโฮชาฟัทและอาหัสยาห์ 22-2 พกษ.1

เอลีชาผู้พยากรณ์คนใหม่ของพระเจ้า 2-8

กษัตริย์แห่งอิสราเอลและยูดาห์ 8-16

อัสซีเรียตีสะมาเรียแห่งอิสราเอลแตก 17

ภาค 4: อาณาจักรยูดาห์ 18-25

อัสซีเรียข่มขู่เฮเซคียาห์ 18-20

มนัสเสห์และอาโมนแห่งยูดาห์ 21

โยสิยาห์ทรงปฏิรูป 22-23

กษัตริย์องค์ท้ายๆ แห่งยูดาห์ 24

บาบิโลนตีเยรูซาเล็มและเผาพระวิหาร 25

สถานการณ์และช่วงเวลา

รัชสมัยซาโลมอน (ราว 970-930 กคศ.) เป็นยุคทองแห่งอิสราเอล เหตุการณ์ในอาณาจักรอิสราเอลและยูดาห์ต่อจากนั้นเกิดขึ้นขณะอัสซีเรียเรืองอำนาจ ตามด้วยบาบิโลน กินเวลาประมาณ 400 ปี ราว 975-586 กคศ. สะมาเรียแตกใน 722 ส่วนเยรูซาเล็มใน 586 กคศ.

พงศวดารบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกับพงศ์กษัตริย์ ทั้งอาโมส โฮเชยา อิสยาห์ มีคาห์ นาฮูม ฮาบากุก เศฟันยาห์และเยเรมีย์ล้วนอยู่ในช่วงเวลานี้

เวลาที่เขียน

เรียบเรียงขึ้นครั้งสุดท้ายในสมัยที่ชาวยิวตกเป็นเชลย ราว 550 กคศ. โดยใช้แหล่งข้อมูลเก่าแก่คือ จดหมายเหตุทางราชการและพระราชวัง และเรื่องของผู้พยากรณ์

บุคคลและเหตุการณ์สำคัญ

การวินิจฉัยของซาโลมอน 1 พกษ. 3 สร้างพระวิหาร 6 ซาโลมอนกับราชินีเชบา 10 เอลียาห์กับแม่หม้ายแห่งศาเรฟัท 17 เอลียาห์กับผู้พยากรณ์ของบาอัล 18 เอลียาห์กับพระสุรเสียงแผ่วเบา 19 สวนองุ่นของนาโบท 21 เอลียาห์กับรถม้าเพลิง 2 พกษ. 2 เอลีชากับหญิงชาวชูเนม 4 นาอามานหายโรค 5 สะมาเรียถูกล้อม 6 ราชินีเยเซเบลพินาศ 9 ราชินีอาธาลิยาห์ฆ่าล้างราชวงศ์ 11 สะมาเรียแตก 17 อัสซีเรียล้อมกรุงเยรูซาเล็ม 18 โยสิยาห์ทรงพบพระบัญญัติ 22 เยรูซาเล็มแตก พระวิหารถูกทำลาย 25

ข้อความที่มีชื่อเสียง

ซาโลมอนอธิษฐานขอสติปัญญา 1 พกษ. 3 คำอธิษฐานถวายพระวิหาร 8

บทเรียนสอนใจ

กษัตริย์ทุกองค์ในสองเล่มนี้ถูกประเมินชีวิตตามความสัตย์ซื่อและจงรักภักดีต่อพระเจ้า เมื่อกษัตริย์และประชาชนตั้งใจเชื่อฟังและให้เกียรติพระเจ้า ทุกอย่างจะดำเนินด้วยดี แต่เมื่อจงใจไม่เชื่อฟัง ความหายนะจะตามมาแม้พระเจ้าไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นก็ตาม พระองค์ประสงค์ให้อิสราเอลเชื่อฟังด้วยความเต็มใจเพื่อประโยชน์ของพวกเขาเอง พระองค์เตือนถึงภาวะวิกฤตโดยส่งเอลียาห์และเอลีชามาในฐานะโฆษกของพระองค์ แต่ประชาชนทำเฉย ความหายนะจึงมาถึงสะมาเรียแตก เยรูซาเล็มตกอยู่ในมือศัตรู อาณาจักรเหนือถูกลบจากประวัติศาสตร์ ส่วนยูดาห์ก็ถูกเนรเทศไปยังประเทศอื่น

6. 1, 2 พงศาวดาร

กล่าวถึงเหตุการณ์เดียวกับใน 2 ซามูเอลและพงศ์กษัตริย์ แต่เนื่องจากสองเล่มนี้เขียนขึ้นเพื่อให้เชลยยิวที่กลับจากบาบิโลนอ่าน จึงมุ่งเน้นที่ยูดาห์อาณาจักรได้

เนื้อเรื่อง

ภาค 1: ลำดับพงศ์ตั้งแต่อาดัมจนถึงเชลยยิวกับจากบาบิโลน 1 พศด. 1-9

ภาค 2: รัชสมัยดาวิด 10-29

ซาอูลสิ้นพระชนม์ 10

ดาวิดขึ้นครองราชย์ 11-21

ดาวิดเตรียมวัสดุสำหรับพระวิหาร 22-29

ภาค 3: รัชกาลซาโลมอน 2 พศด. 1-9

แหล่งปัญญา-ความมั่งคั่งของซาโลมอน 1

ก่อสร้างและถวายพระวิหาร 2-7

กิตติศัพท์ของซาโลมอน 8-9

ภาค 4: กษัตริย์แห่งยูดาห์ 10-36

เผ่าเหนือกบฏในสมัยเรโหโบอัม 10

ตั้งแต่เรโหโบอัมจนถึงอาสา 11-16

เยโฮซาฟัททรงปฏิรูป 17-20

ตั้งแต่เยโฮซารัมถึงอาหัส 21-28

เฮเซคียาห์ทรงปฏิรูป 29-32

มนัสเสห์และอาโมน 33

โยสิยาห์ทรงปฏิรูป 34-35

จุดจบกษัตริย์ยูดาห์และเยรูซาเล็มแตก 36

ช่วงเวลา

บันทึกประวัติศาสตร์อิสราเอลตั้งแต่ซาอูลสิ้นพระชนม์ถึงเชลยยิวกลับจากบาบิโลนสู่ถิ่นฐานเดิมราว 1000 กคศ. จนกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ตีเยรูซาเล็มแตกใน 587/6

เวลาที่เขียน

หลังจากเชลยยิวกลับยูดาห์ราว 400 กคศ.

เหตุการณ์สำคัญ

นำหีบพันธสัญญากลับ 1 พศด. 15-16

ซาโลมอนถวายพระวิหาร 2 พศด. 5-7

เฮเซคียาห์ถวายพระวิหารอีกครั้ง 29

ข้อความที่มีชื่อเสียง

เพลงสรรเสริญของดาวิด 1 พศด. 16

คำสรรเสริญพระเจ้า-สั่งเสียซาโลมอน 29

คำอธิษฐานถวายพระวิหาร 2 พศด. 6-7

พระเจ้าสัญญากับซาโลมอนถึงอนาคต 7

บทเรียนสอนใจ

มุ่งให้ชาวยิวที่เพิ่งกลับเยรูซาเล็มเข้าใจว่าพวกเขายังเป็นประชากรพิเศษของพระเจ้าผู้ทรงอวยพระพรยุคต้นของอาณาจักรคือ ในสมัยดาวิดและซาโลมอน และกำหนดการนมัสการและรายละเอียดเกี่ยวกับระบบการถวายเครื่องบูชา ปุโรหิต คนเลวี และคณะนักร้องในพระวิหาร แต่กษัตริย์หลายองค์มิได้เชื่อฟัง กลับทำลายระบบเหล่านั้นอันยังผลให้เยรูซาเล็มแตก พระวิหารถูกเผาผลาญและชาวยิวตกเป็นเชลย แต่พระสัญญาที่พระเจ้ามีต่ออิสราเอลยังมั่นคงอยู่และนี่เป็นเวลาที่จะกอบกู้ประเทศขึ้นใหม่ การฟื้นฟูการนมัสการในรัชสมัยเยโฮชาฟัท เฮเซคียาห์และโยสิยาห์ หนุนใจให้เชลยยิวฟื้นฟูความเชื่อ (ข่าวสารนี้เหมือนคำสอนของผู้พยากรณ์ฮักกัยกับเศคาริยาห์)

7. เอสรา

กล่าวถึงเชลยยิวสองกลุ่มหวนคืนถิ่นเดิมจากบาบิโลน บูรณะพระวิหาร และเริ่มรักษาพระบัญญัติภายใต้การนำของเอสรา

เนื้อเรื่อง

ภาค 1: กลุ่มแรกที่กลับเยรูซาเล็ม 1-2

ภาค 2: สร้างพระวิหารขึ้นใหม่ 3-6

เริ่มสร้างพระวิหารอย่างชื่นชมยินดี 3

ถูกต่อต้านแต่ได้รับความอุปถัมภ์จากพระราชาเปอร์เซีย 4

เริ่มสร้างพระวิหารอีกครั้ง 5:1-6:12

ถวายพระวิหาร-ฉลองปัสกา 6:13-22

ภาค 3: กลุ่มที่สองกลับเยรูซาเล็ม 7-10

รายชื่อ-การเดินทางของคนที่กลับมา 7-8

ปัญหาการแต่งงานกับชาวต่างชาติ 9-10

ช่วงเวลาและสถานการณ์

การคืนถิ่นของเชลยยิวมิได้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว แต่มากันหลายระลอกในระยะกว่าร้อยปี ในรัชสมัยพระราชาเปอร์เซียหลายพระองค์ตั้งแต่ราว 538 ถึง 428 กคศ. แต่เมื่อถึงถิ่นเดิมพบว่าชาวยิวในเยรูซาเล็มที่ไม่ได้ถูกจับไปบาบิโลนได้ผสมปนเปกับต่างชาติแถมยังต่อต้านพวกเขา เยรูซาเล็มและพระวิหารอยู่ในสภาพปรักหักพัง และชนชาติยิวไม่มีการพัฒนาใดๆเลย

เวลาที่เขียน

อาจเขียนขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อจากพงศวดาร ราว 400 กคศ.

บุคคลสำคัญ

เอสรา ผู้เป็นปุโรหิตจากเชื้อสายอาโรนเชี่ยวชาญในพระบัญญัติ เศรุบบาเบลผู้นำเชลยกลุ่มแรกที่กลับคืนถิ่นเป็นหลานของกษัตริย์เยโฮยาคีนผู้ถูกจับไปเป็นเชลยที่บาบิโลน

พระราชาไซรัสแห่งเปอร์เซียผู้โค่นล้มบาบิโลนออกกฤษฎีกาให้เชลยทั้งหมดรวมทั้งยิวกลับถิ่นฐานเดิม อิสยาห์พยากรณ์ไว้แล้วว่าการกระทำของพระราชาที่ไม่เชื่อในพระเจ้าผู้นี้ เป็นพระราชกิจของพระเจ้า

เหตุการณ์สำคัญ

ไซรัสให้เชลยกลับคืนถิ่นฐานเดิม 1 ฉลองปัสกาครั้งแรกที่พระวิหารหลังใหม่ 6 เอสรากลับเยรูซาเล็มพร้อมกับลูกหลานของเจ้าหน้าที่พระวิหาร 7-8

บทเรียนสอนใจ

ผู้เขียนอาจเขียนด้วยความเชื่อมั่นว่าชาวยิวยังคงเป็นประชากรพิเศษของพระเจ้าแม้ว่าพระองค์เนรเทศให้เป็นเชลยและยกเลิกระบบกษัตริย์ก็ตาม จากเล่มนี้เห็นชัดว่าความเชื่อนี้กลายเป็นความจริง เพราะเฉลยที่กลับคืนถิ่นได้บูรณะพระวิหารขึ้นใหม่และยอมรับนับถือพระเจ้าอีกครั้ง พวกเขาจะถือรักษาพระบัญญัติทุกข้ออย่างครบถ้วนและเป็นชนชาติที่แยกออกจากชาติอื่น

8. เนหะมีย์

เรื่องของเนหะมีย์เชลยยิวผู้นำเชลยกลุ่มที่สามกลับเยรูซาเล็ม เขาได้เป็นผู้ว่าราชการยูดาห์และเร่งเร้าให้ชาวยิวบูรณะกำแพงเมือง การปฏิรูปทางศาสนาของเขาคาบเกี่ยวกับงานของเอสรา

เนื้อเรื่อง

ภาค 1: เนหะมีย์บูรณะกำแพงเมือง 1-7

เนหะมีย์อธิษฐานเพื่อเยรูซาเล็ม 1

เนหะมีย์กลับสู่บ้านเดิม 2

บูรณะกำแพงขณะถูกต่อต้าน 3:1-7:3

รายชื่อเชลยที่กลับคืนถิ่น 7:4-73

ภาค 2: พระบัญญัติ การสารภาพบาปและปฏิญาณใหม่ 8-10

อ่านพระบัญญัติและสารภาพบาป 8

เอสราอธิษฐาน 9:1-37

สัญญาจะทำตามพระบัญญัติ 9:38-10:39

ภาค 3: ประชาชนและผู้ว่าที่ปฏิรูป 11-13

รายชื่อประชาชน-เจ้าหน้าที่ 11:1-12:26

ถวายกำแพงใหม่ 12:27-43

เนหะมีย์ปฏิรูป 12:44-13:31

ช่วงเวลาและสถานการณ์

เนหะมีย์กลับเยรูซาเล็มในปี 445 กคศ. และเป็นผู้ว่า 12 ปีจนถึง 433 กคศ. เขาผละจากตำแหน่งในพระราชวังเปอร์เซียที่รุ่งเรืองและแสนสบายเพื่อไปยังเมืองที่เริ่มบูรณะแต่ยังอยู่ในสภาพย่ำแย่ ผู้พยากรณ์มาลาคีอาจทำงานในช่วงนี้

เวลาที่เขียน

เล่มนี้เกี่ยวข้องกับพงศาวดารและเอสราอย่างใกล้ชิด อาจเขียนขึ้นราว 400 กคศ. ข้อมูลหลักอาจได้จากการบันทึกของเนหะมีย์

เหตุการณ์สำคัญ

เนหะมียกลับเยรูซาเล็ม 2 กำแพงบูรณะเสร็จ 6

ข้อความที่มีชื่อเสียง

คำอธิษฐานสารภาพบาปของประชาชน 9

บทเรียนสอนใจ

เนหะมีย์นักปฏิบัติได้ชูใจชาวยิวที่หดหู่ด้วยการก้าวเข้ามาเป็นผู้นำทั้งด้านจิตใจและการกระทำ จนงานที่ยากลำบากลุล่วงไปได้ท่ามกลางการต่อต้านอันรุนแรง เขายังเป็นนักอธิษฐานที่พึ่งพิงพระเจ้าสุดใจและมีประสิทธิภาพสูง ชาวยิวได้ฟื้นฟูชีวิตด้านศาสนาภายใต้การนำอันเก่งกาจของเขาและเอสรา

9. เอสเธอร์

สาวยิวผู้เลอโฉมขึ้นเป็นราชินีของพระราชาอาหสุเอรัสแห่งเปอร์เซีย เธอใช้ไหวพริบคว่ำอุบายที่จะกวาดล้างยิวในอาณาจักรเปอร์เซียได้สำเร็จด้วยความช่วยเหลือของโมรเดคัย ในที่สุดฮามานคนต้นคิดอุบายนั้นถูกประหารชีวิต และโมรเดคัยได้เลื่อนยศ

สถานที่

เกิดขึ้นที่สุสาเมืองหลวงฤดูหนาวแห่งอาณาจักรเปอร์เซีย ในสมัยที่เชลยยิวส่วนใหญ่กลับไปเยรูซาเล็มแล้ว แต่บางคนยังอยู่ที่เปอร์เซียซึ่งเป็นอาณาจักรที่โค่นล้มบาบิโลน

ใจความสำคัญ

เล่มนี้ไม่ได้เอ่ยถึงพระเจ้าและไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาเท่าไร แต่เป็นตัวอย่างชี้ให้เห็นว่าชาวยิวรอดพ้นจากมหันตภัยมาได้อย่างไร ปัจจุบันชาวยิวยังอ่านเล่มนี้ในเทศกาลปูริม

เขียนโดย คุณโปรดปราน