Epiphany

Epiphany เทศกาลฉลองการปรากฏของใคร ?

ถ้าจะเอาความหมายตามศัพท์ "Epiphany" หมายความว่า "การสำแดง" (manifestation), "การปรากฎ" (appearance) และ "การเปิดเผย" (revelation)

คำ ๆ นี้มาจากภาษากรีกว่า "epiphaneia" และภาษาลาตินว่า "epiphania" (epi แปลว่า "บน, เหนือ", phainein แปลว่า "แสดง, นำมาแสดง")

ถ้าจะเอาความหมายตามพจนานุกรม ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม ให้ความหมายไว้ว่า "Epiphany" (n) หมายถึง "วันเทศกาลฉลองการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์ ตรงกับวันที่ 6 มกราคม, การเสด็จมา หรือการปรากฎตัวของพระเยซูคริสต์"

แรกเริ่มเดิมที "Epiphany" เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองตามปฏิทินของชาวคริสต์ ในวันที่ 6 มกราคม ที่เริ่มต้นโดยศาสนจักรทางซีกโลกตะวันออก จุดกำเนิดของเทศกาลนี้ เดิมตั้งใจว่าจะเฉลิมฉลองในเรื่อง "การสำแดง ของพระเป็นเจ้า ผ่านทางองค์พระเยซูคริสต์โดยรวมทั้งหมด" (The total revelation of God in Christ.)

แต่ทำไปทำมา ก็มาเจาะจงเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสการปรากฎพระองค์ (Epiphany) ของพระเยซูต่อหน้าสาธารณชน เมื่อตอนที่พระองค์ทรงเริ่มต้นพระราชกิจของพระองค์เป็นครั้งแรก โดยการมาหา ยอห์น (บุตรของเศคาริยาห์ และเอลีซาเบธ ผู้ที่พระเจ้าทรงให้มากำเนิดก่อนพระเยซูคริสต์ ราว 6 เดือน และมาเตรียมทางให้กับพระองค์) เพื่อให้ยอห์นบัพติสมา (จุ่ม) พระองค์ในแม่น้ำจอร์แดน และพระเจ้าทรงรับรองการปรากฎตัวของพระเยซูคริสต์ ด้วยการสำแดงหมายสำคัญ ให้ท้องฟ้าแหวกออกและพระวิญญาณดุจนกพิราบลงมาสู่พระองค์พร้อมกับพระสุรเสียงมาจากฟ้าสวรรค์ ว่า "ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา เราชอบใจท่านมาก"

Epiphany อีกประการหนึ่ง ก็คือ การสำแดงของพระเยซูคริสต์ เมื่อทรงเปลี่ยนน้ำ (water) ให้กลายเป็นน้ำองุ่น (wine) ที่หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี ในครั้งนั้นพระองค์ทรงไปร่วมงานแต่งงาน แต่ปรากฎว่าเจ้าภาพต้องเสียหน้าเมื่อปรากฎว่า น้ำองุ่น (เหล้าองุ่น) ที่รับรองแขกเกิดหมดลง นางมารีย์จึงขอให้พระเยซูช่วย พระองค์จึงทรงเปิดเผยฤทธิ์อำนาจเหนือธรรมชาติของพระองค์เป็นครั้งแรก ด้วยการเปลี่ยนน้ำ ให้เป็นน้ำองุ่น เพื่อช่วยเจ้าภาพเจ้าบ่าว เจ้าสาว และแขกในงานทุกคน

ต่อมาปรากฎว่า การเฉลิมฉลองเทศกาล "Epiphany" นี้ได้แพร่หลายมาทางฝั่งตะวันตก และผสมผสานกับการฉลองคริสตมาสที่โหราจารย์นำของขวัญมาเข้าเฝ้านมัสการพระเยซูคริสต์ เพราพวกเขาได้รับ "Epiphany" ผ่านการนำทางของดวงดาว !

ในช่วงยุคกลาง และยุคหลัง ปฏิรูปศาสนา ได้เป็นที่ยอมรับกันว่า เทศกาลเฉลิมฉลองกลางฤดูหนาว หรือ "คริสตมาส 12 วัน" นั้น เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม จนถึงวันสุดท้ายของเทศกาล คือวันที่ 6 มกราคม ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นวันที่โหราจารย์นำของขวัญคริสตมาสชุดแรกจากต่างแดนมาถวายแด่พระกุมารเยซูคริสต์ !

นอกจากนี้ ยังมีตำนานจุ๋ม ๆ จิ๋ม ๆ อื่น ๆ ที่ไม่ควรจะไปซีเรียสนัก อย่างเช่นเรื่องที่ชาวบ้านในสมัยก่อนเชื่อกันว่า ในวันก่อนวัน "Epiphany" นั้น สัตว์ต่าง ๆ จะได้รับพรพิเศษในการพูด ทำให้ Norman Lloyd ได้เรียบเรียงบทเพลงสนุก ๆ โดยใช้ทำนองอังกฤษดั้งเดิม กลายเป็นบทเพลงที่มีชื่อว่า "The Twelve Days of Christmas" (12 วันแห่งคริสตมาส) ที่มีเนื้อร้องบางตอน ดังนี้

"On the first day of Christmas,

my true love sent to me,

A partridge in a pear tree."

จากนั้นก็เป็น

"the second day - two turtle doves,

the third day - three French hens,

the fourth day - four calling birds,

the fifth day - five gold rings,

the sixth day - six geese,

the seventh day - seven swans,

the eighth day - eight maids,

the ninth day - nine ladies..."

จนในที่สุด วันสุดท้าย หรือวันที่ 12 จบลงที่

"twelve drummers !"

ครับ ! นี่คือ เรื่องราวของวัน "Epiphany" หรือ "วันฉลองการเสด็จมาปรากฎของพระเยซูคริสต์" ! (เริ่มจากวันที่ 25 ธันวาคม และเน้นวันจบ คือวันที่ 6 มกราคม)

คุณล่ะ ! เคยฉลองคริสตมาสยาวถึง 12 วันอย่างนี้บ้างไหม ? น่าจะลองดูนะครับ

อ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
จากหนังสือ
ABC คริสตมาสนี้มีที่มา

  • ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน

  • ถ้าท่านอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้าน หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถอีเมลสอบถามได้ที่ ton@followhissteps.com