เรื่องราวใน กิจการ 10 เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์คริสตจักร
เป็นตอนหนึ่งที่สำคัญมาก เป็นเหตุการณ์สำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับชาวต่างชาติ
ซึ่งเกี่ยวเนื่องถึงเราจนปัจจุบันนี้
1 และมีชายคนหนึ่งชื่อโครเนลิอัสอาศัยอยู่ในเมืองซีซารียา
เป็นนายร้อยในกองพันทหารที่เรียกว่ากองอิตาเลียน
2 ท่านและครอบครัวเป็นคนเคร่งศาสนาและเกรงกลัวพระเจ้า ท่านให้ทานแก่ประชาชนอย่างมากมายและอ้อนวอนพระเจ้าอยู่เสมอ
3 เวลาประมาณบ่ายสามโมง นายร้อยคนนั้นเห็นนิมิตชัดเจนว่ามีทูตสวรรค์องค์หนึ่งของพระเจ้ามาหาตน
และกล่าวว่า "โครเนลิอัส"
4 โครเนลิอัสจ้องมองทูตองค์นั้นด้วยความตกใจกลัว และถามว่า "นี่หมายความถึงอะไร
ท่านเจ้าข้า?" ทูตสวรรค์จึงตอบท่านว่า "คำอธิษฐานและการให้ทานของท่านขึ้นไปถึงพระเจ้าเป็นเหตุให้พระองค์ทรงระลึกถึงท่านแล้ว
5 บัดนี้จงใช้คนไปเมืองยัฟฟา เชิญซีโมนที่เรียกว่าเปโตรมา
6 ท่านอาศัยอยู่กับซีโมนที่เป็นช่างฟอกหนัง บ้านของเขาอยู่ริมฝั่งทะเล"
7 เมื่อทูตสวรรค์ที่พูดกับท่านจากไปแล้ว ท่านก็เรียกหาคนใช้สองคนกับทหารที่เคร่งศาสนาคนหนึ่งซึ่งเคยปรนนิบัติท่านเสมอ
8 เมื่อโครเนลิอัสเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้พวกเขาฟังแล้ว ท่านก็ใช้พวกเขาไปเมืองยัฟฟา
(กิจการ 10:1-8 THSV2011)
พระคำของพระเจ้าตอนนี้ กล่าวถึงคน ๆ หนึ่ง ที่ชื่อ
โครเนลิอัส ซึ่งเป็นชาวต่างชาติที่ปกครองชาวยิว
แม้จะเป็นคนต่างชาติ แต่ท่านก็ศรัทธาในพระยาเวห์ พระเจ้าผู้เที่ยงแท้
ผู้สร้างโลกและจักรวาล
โครเนลิอัสและครอบครัวยำเกรงพระเจ้า เคร่งในพระศาสนา
และมีจิตใจเอื้ออาทรแก่คนยากไร้ สิ่งนี้เองทำให้พระเจ้าทรงประทับใจ
และให้ทูตสวรรค์กล่าวชมถึงโครเนลิอัสและครอบครัวถึงว่า
คำอธิษฐานและจิตใจที่เอื้ออาทร เป็นเหตุที่พระเจ้าทรงระลึกถึง
หลายสิ่งหลายอย่างที่เราทำ
มีความหมายในสายพระเนตรของพระเจ้า เราต้องคำนึงถึงเสมอว่า สิ่งที่เราทำ
พระเจ้าจะทรงพอพระทัยหรือไม่ ขอเรื่องราวนี้จะเป็นแรงจูงใจของการดำเนินชีวิตคริสเตียน
แล้ววันหนึ่ง พระเจ้าอาจจะทรงกล่าวถึงเราเช่นเดียวกัน คือ "สิ่งที่เจ้าทำกับคนยากไร้
และคำอธิษฐานต่อพระเจ้า เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงระลึกถึง"
นี่คือสิ่งที่เราปรารถนาที่จะให้พระเจ้าทรงพอพระทัย
ถ้าเรามีเป้าหมายเช่นนี้ พระธรรมตอนนี้ที่พระเจ้าชมเชยโครเนลิอัส
ก็จะมาถึงยังเราทุกคนเช่นเดียวกัน
พระองค์ตรัสกับทูตสวรรค์ บอกว่าพระองค์ทรงพอพระทัย
และสิ่งที่พระองค์ตอบแทนเขา คือ ให้เขาส่งผู้รับใช้
เพื่อเชิญผู้รับใช้มาบอกข่าวประเสริฐ
แล้วพระเจ้าจะตรัสบอกข่าวประเสริฐให้แก่โครเนลิอัสเองมิได้หรือ?
พระเจ้าทรงอยากใช้คนของพระองค์ เพื่อบอกสิ่งสำคัญที่สุด
ให้กับครอบครัวนี้
โครเนลิอัสไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่พระเจ้าจะทรงอวยพรเขา
แต่พระเจ้าได้ทรงให้เขาเชิญคนของพระองค์ คือ อาจารย์เปโตร ผู้ซึ่งเป็นแค่คนจับปลา
แต่ศรัทธาในพระองค์ และมีจิตใจที่เต็มด้วยเรื่องราวของพระองค์ นี่คือสิ่งที่เปโตรมี
และมีค่า เป็นพรแก่คนมากมาย
แล้วเราทำอย่างไรกับพระพรที่เรามีอยู่?
ข่าวประเสริฐเป็นสิ่งหอมหวาน
9 วันรุ่งขึ้นเวลาประมาณเที่ยง ขณะที่คนกลุ่มนี้เดินทางใกล้จะถึงเมืองยัฟฟา
เปโตรขึ้นไปบนหลังคาตึกเพื่ออธิษฐาน
10 ขณะนั้นท่านหิวอยากจะรับประทานอาหาร และในระหว่างที่ยังจัดอาหารกันอยู่
เปโตรก็ตกอยู่ในภวังค์ 11 และท่านเห็นท้องฟ้าแหวกออกเป็นช่อง มีอะไรอย่างหนึ่งเหมือนผ้าผืนใหญ่
ซึ่งมุมทั้งสี่ถูกหย่อนลงมายังพื้นโลก
12 ในนั้นมีสัตว์ทุกอย่าง ทั้งสัตว์สี่เท้า สัตว์เลื้อยคลาน และนกในอากาศ
13 แล้วมีพระสุรเสียงกล่าวกับท่านว่า "เปโตร จงลุกขึ้นฆ่ากิน"
14 เปโตรจึงทูลว่า "ไม่ได้ องค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะว่าสิ่งไม่บริสุทธิ์หรือเป็นมลทินนั้น
ข้าพระองค์ไม่เคยรับประทานเลย"
15 แล้วมีพระสุรเสียงมาเป็นครั้งที่สองกล่าวกับท่านว่า "สิ่งที่พระเจ้าทรงชำระแล้ว
เจ้าอย่าว่าเป็นสิ่งไม่บริสุทธิ์"
16 สิ่งนี้ปรากฏถึงสามครั้ง แล้วถูกรับขึ้นไปในท้องฟ้าทันที
17 เมื่อเปโตรยังคิดสงสัยเรื่องนิมิตที่เห็นนั้นว่ามีความหมายอย่างไร
ในทันใดนั้น คนที่โครเนลิอัสใช้ไปนั้นก็มายืนอยู่หน้าประตูรั้วหลังจากถามหาจนพบตึกของซีโมน
18 พวกเขาร้องถามว่าซีโมนที่เรียกว่าเปโตรพักอยู่ที่นี่หรือไม่?
19 ขณะเปโตรตริตรองเรื่องนิมิตอยู่นั้น พระวิญญาณตรัสกับท่านว่า "นี่แน่ะ
มีชายสามคนมาหาเจ้า 20 จงลุกขึ้นลงไปข้างล่างและไปกับพวกเขาเถิด อย่าลังเลใจเลย เพราะว่าเราใช้พวกเขามา"
21 เปโตรจึงลงไปหาคนเหล่านั้นกล่าวว่า "นี่แน่ะ ข้าพเจ้าคือคนที่พวกท่านตามหา
พวกท่านมีธุระอะไรหรือ?" 22 เขาทั้งหลายจึงตอบว่า "นายร้อยโครเนลิอัสเป็นคนชอบธรรมและเกรงกลัวพระเจ้า
และเป็นคนมีชื่อเสียงดีในหมู่พวกยิว โครเนลิอัสผู้นี้ได้รับคำบอกจากทูตสวรรค์บริสุทธิ์ให้มาเชิญท่านไปบ้านเพื่อฟังถ้อยคำของท่าน"
23 เปโตรจึงเชิญพวกเขาเข้าไปข้างในและให้พักอยู่ที่นั่น วันรุ่งขึ้นเปโตรลุกขึ้นไปกับพวกเขา
และพี่น้องบางคนที่เมืองยัฟฟาก็ไปด้วย (กิจการ 10:9-23 THSV2011)
จิตใจของโครเนลิอัส ไม่ได้รังเกียจฐานันดรอันต่ำต้อยของเปโตร แต่เขาแสวงหา
อยากรู้ว่าพระเจ้าทรงจัดเตรียมพระพรให้แก่ท่านอย่างไร และขณะเดียวกัน
พระเจ้าก็ทรงเตรียมเปโตรที่จะมีใจที่เปิดออกเพื่อต้อนรับคนต่างชาติ
เพราะยิวและต่างชาติจะไม่คบหากัน พระเจ้าจึงต้องเตรียมใจเปโตร
ที่จะไม่ยึดธรรมเนียมปฏิบัติของชาวยิว และพระเจ้าต้องสำแดงให้แก่เปโตรถึงสามครั้ง
สิ่งที่พระองค์สำแดงจึงได้เริ่มกระทบจิตใจของท่าน และในที่สุดอาจารย์เปโตรก็ยอมตาม
และนิมิตนี้บอกให้ท่านยอมรับชาวต่างชาติ
หลายครั้ง ที่พระเจ้าต้องเตือนคนบางคนหลาย ๆ หน เช่นเดียวกับที่อาจารย์เปโตรเองก็ได้รับการเตือนถึงสามครั้ง
แม้ว่าท่านจะหัวดื้อ แต่ท่านก็จริงใจกับพระเจ้า
เมื่อครั้งที่สาม เปโตรก็เริ่มเปิดใจ
และเมื่อท่านได้รับข่าวจากผู้รับใช้ของโครเนลิอัสที่มายังบ้านของท่าน
ท่านก็รู้ทันทีว่าพระเจ้าจะทรงให้ท่านออกไปตามน้ำพระทัยพระเจ้า
เราอาจมีธรรมเนียมชีวิตของเรา นั่นคือ comfort zone
เป็นบริเวณที่เราสะดวกสบาย
ถ้าหากว่าเกินบริเวณที่สะดวกสบายนี้ เราก็อาจหาเหตุผลเพื่อปฏิเสธที่จะไม่ทำ
สิ่งเหล่านั้นขัดขวางไม่ให้เราทำตามน้ำพระทัยพระเจ้า
ขอที่เราออกจากสิ่งนั้น เพื่อก้าวตามน้ำพระทัยของพระเจ้า
ถ้าเราไม่ยอมออกจากสิ่งนี้ ที่ขัดขวางเราไม่ให้ก้าวเดินตามพระเจ้า
เราจะพลาดโอกาสอย่างยิ่งใหญ่ และโอกาสอาจไม่ผ่านหวนกลับมาหาเราอีกเลย
เราจะย้อนอดีตเพื่อเริ่มต้นก้าวใหม่ไม่ได้ เวลาของชีวิตไม่สามารถเรียกกลับคืนได้
อะไรคือน้ำพระทัยของพระเจ้าในชีวิตของเรา?
อธิษฐานต่อพระเจ้า
และพระองค์ก็ทรงพร้อมที่จะเปิดเผยน้ำพระทัยของพระองค์ให้แก่เรา
บางครั้ง เราเป็นคนหัวดื้อ
จึงรู้สึกว่าพระเจ้าไม่ได้ทรงสำแดงน้ำพระทัยของพระองค์ให้แก่เรา
แม้พระเจ้าจะทรงเรียกครั้งแล้วครั้งเล่า แต่บางครั้งใจของเราแข็งกระด้าง
ยิ่งนานเข้า ใจเราก็จะยิ่งแข็งกระด้าง แล้วเราจะไม่ได้ยินเสียงของพระองค์อีกเลย
แม้ว่าพระองค์จะตรัสกับเราอยู่เสมอ
เมื่อพระองค์ตรัสครั้งที่สาม เปโตรก็สำนึก และก้าวเดินสู่น้ำพระทัยของพระเจ้า
24 วันต่อมาเขาทั้งหลายไปถึงเมืองซีซารียา โครเนลิอัสกำลังรอคอยพวกเขาอยู่
และเชิญญาติพี่น้องกับเพื่อนสนิทมาประชุมร่วมกัน
25 เมื่อเปโตรมาถึง โครเนลิอัสก็ต้อนรับเปโตรและทรุดตัวลงแทบเท้าท่าน
26 เปโตรจึงประคองโครเนลิอัสให้ลุกขึ้นและกล่าวว่า "จงลุกขึ้นยืน
ข้าพเจ้าก็เป็นเพียงมนุษย์เหมือนกัน"
27 ระหว่างที่กำลังสนทนากัน เปโตรเข้าไปและเห็นคนจำนวนมากมาอยู่รวมกัน
28 จึงกล่าวกับคนเหล่านั้นว่า "พวกท่านทราบแล้วว่า การที่คนยิวจะคบหาหรือเยี่ยมเยียนคนต่างชาติถือว่าเป็นเรื่องต้องห้าม
แต่พระเจ้าทรงสำแดงแก่ข้าพเจ้าแล้วว่า ไม่ควรถือว่าคนหนึ่งคนใดไม่บริสุทธิ์หรือเป็นมลทิน
29 เพราะเหตุนี้เมื่อท่านใช้คนไปเชิญข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงมาโดยไม่ขัด
ข้าพเจ้าขอถามว่า ที่ท่านเชิญข้าพเจ้ามานี้มีจุดประสงค์อะไร?"
30 โครเนลิอัสจึงตอบว่า "สี่วันที่แล้วขณะข้าพเจ้ากำลังอธิษฐานอยู่ในบ้านของข้าพเจ้าราวๆ
ตอนนี้คือบ่ายสามโมง มีคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้า สวมเสื้อผ้ามันวาวระยิบระยับ
31 คนนั้นกล่าวว่า 'โครเนลิอัส พระเจ้าทรงระลึกถึงคำอธิษฐาน และการทำทานของท่านแล้ว
32 เพราะฉะนั้นจงใช้คนไปเมืองยัฟฟาเชิญซีโมนที่เรียกว่าเปโตรมา ท่านอาศัยอยู่ในบ้านของซีโมนช่างฟอกหนังที่ริมฝั่งทะเล'
33 ข้าพเจ้าจึงใช้คนไปเชิญท่านมาทันที การที่ท่านมาก็ดีแล้ว เวลานี้เราอยู่กันพร้อมหน้าเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าเพื่อฟังสิ่งสารพัดที่พระองค์ตรัสสั่งท่านไว้"
34 แล้วเปโตรจึงกล่าวว่า "ข้าพเจ้าเห็นจริงแล้วว่าพระเจ้าไม่ทรงลำเอียง
35 ทุกคนในทุกชนชาติที่เกรงกลัวพระองค์ และประพฤติตามทางชอบธรรมก็เป็นที่ชอบพระทัยพระองค์
36 เรื่องที่พระองค์ทรงฝากไว้กับพวกอิสราเอลคือการประกาศข่าวประเสริฐเรื่องสันติสุขโดยทางพระเยซูคริสต์ผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าเหนือคนทั้งหลาย
37 พวกท่านก็รู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั่วแคว้นยูเดีย โดยเริ่มต้นที่แคว้นกาลิลีหลังจากยอห์นประกาศเรื่องบัพติศมานั้น
38 คือเรื่องที่ว่าพระเจ้าทรงเจิมพระเยซูชาวนาซาเร็ธด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยฤทธานุภาพอย่างไร
และเรื่องที่ว่าพระเยซูเสด็จไปทำคุณประโยชน์และรักษาคนทั้งหลายที่ถูกมารเบียดเบียนอย่างไร
เพราะว่าพระเจ้าสถิตอยู่กับพระองค์
39 เราคือสักขีพยานของกิจการทั้งหมดที่พระองค์ทรงทำในแคว้นยูเดียและในกรุงเยรูซาเล็ม
พวกเขาฆ่าพระองค์โดยแขวนไว้ที่ต้นไม้
40 และในวันที่สามพระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นจากตายและทรงให้ปรากฏ
41 ไม่ใช่ให้ปรากฏแก่คนทั่วไป แต่ให้ปรากฏแก่เรา คือบรรดาสักขีพยานที่พระเจ้าทรงเลือกไว้แล้ว
คือทรงปรากฏแก่เราที่กินและดื่มกับพระองค์หลังจากพระองค์ทรงเป็นขึ้นจากตาย
42 พระองค์ทรงสั่งให้เราประกาศกับคนทั้งหลาย และเป็นพยานว่า พระเจ้าทรงตั้งพระองค์เป็นผู้พิพากษาทั้งคนเป็นและคนตาย
43 บรรดาผู้เผยพระวจนะก็เป็นพยานถึงพระองค์ว่า ทุกคนที่เชื่อถือในพระองค์นั้น
พระเจ้าจะทรงยกความผิดบาปของพวกเขาโดยพระนามของพระองค์"
(กิจการ 10:24-43 THSV2011)
เมื่อเปโตรไปถึง โครเนลิอัสและครอบครัว รวมถึงผู้คนอีกมากมาย ก็ได้รอคอยเปโตร
เมื่อโครเนลิอันพบเปโตร ท่านก็ทรุดตัวลง ถ่อมใจต่อผู้รับใช้ เปโตรจึงห้าม
และโครเนลิอัสเล่าเหตุการณ์ทั้งสิ้นแก่เปโตร ในที่สุด
สิ่งที่เปโตรกล่าวแก่โครเนลิอัส คือ
"ข้าพเจ้าเห็นจริงแล้วว่าพระเจ้าไม่ทรงลำเอียง" (กิจการ 10:34 THSV2011)
พระเจ้าทรงมีน้ำพระทัยแก่ทุกคน
อย่าเอาระเบียบปฏิบัติมาใช้เพื่อทำให้พระกิตติคุณของพระเจ้าไม่สามารถก้าวถึงผู้คนมากมาย
พระคำตอนนี้เป็นที่ประจักษ์แก่เราทั้งหลายเช่นกัน พระเจ้ามิได้ทรงห่วงใยเฉพาะคริสเตียน
แต่ทรงห่วงใยคนมากมายที่ยังไม่รู้จักพระองค์ที่อยู่นอกคริสตจักร
พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อคนทุกคน
คนทั้งหลายมาเชื่อพระเจ้า ก็เพราะมีคนที่สัตย์ซื่อประกาศพระกิตติคุณ
ใจของพระเจ้าอยากที่จะทรงอวยพรคนทุกคนที่ยังไม่รู้จักพระเยซูคริสต์เจ้า
แล้วพระองค์จะทรงอวยพรเขาเหล่านั้นอย่างไร?
ก็โดยการที่คริสเตียนนำความจริงไปกล่าวแก่คนมากมาย
เราทั้งหลาย เทียบได้กับเปโตร จะมีใครสักกี่คนที่ออกจากที่นี่ ออกจาก comfort zone
ไปสู่ การรับใช้และน้ำพระทัย?
"เรื่องที่พระองค์ทรงฝากไว้กับพวกอิสราเอลคือการประกาศข่าวประเสริฐเรื่องสันติสุขโดยทางพระเยซูคริสต์ผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าเหนือคนทั้งหลาย"
(กิจการ 10:36 THSV2011)
ข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์เจ้า คือ ข่าวประเสริฐแห่งสันติสุข
เป็นสิ่งที่เราทั้งหลายมี และเป็นสิ่งที่พระเจ้าก็ทรงมีเช่นกันในขณะนั้น
ทำไมพระองค์จึงต้องทรงใช้เราด้วย?
พระองค์อยากใช้เราทุกคน
เพื่อทำในสิ่งที่สำคัญที่สุด
นี่เป็นการที่พระเจ้าทรงให้เกียรติเราทุกคนที่จะร่วมงานกับพระองค์
นำข่าวดีนี้ให้กับคนทั้งปวง
การที่พระเจ้าทรงกระจายเราไปสู่อาชีพการงานต่างๆ มากมาย
ก็เพื่อที่เราจะนำข่าวประเสริฐแห่งสันติสุขไปพูดกับคนมากมาย แล้วเราทำหน้าที่นี้หรือไม่?
เราทำงาน เราจะมีศักดิ์ศรี ซึ่งอาจทำให้บางคนไม่พอใจ แต่นี่เป็นความจริง
ที่มาจากพระวจนะของพระเจ้า
"บรรดาผู้เผยพระวจนะก็เป็นพยานถึงพระองค์ว่า ทุกคนที่เชื่อถือในพระองค์นั้น
พระเจ้าจะทรงยกความผิดบาปของพวกเขาโดยพระนามของพระองค์" (กิจการ
10:43 THSV2011)
นี่คือบทสรุปหัวใจสำคัญของข่าวประเสริฐ ไม่มีการเลือกหน้า ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด
หากเชื่อในพระเยซูคริสต์เจ้า ก็จะได้รับการยกโทษบาป นี่เป็นการประกาศพระกิตติคุณที่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ
พระเจ้าทรงต้องการให้อาจารย์เปโตรพูดเช่นนี้
และเมื่ออาจารย์เปโตรได้กล่าวข่าวประเสริฐอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
พระเจ้าก็ทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้แก่เขา
44 ขณะเปโตรยังกล่าวคำเหล่านั้นอยู่ พระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จลงมาสถิตกับทุกคนที่ฟังพระวจนะนั้น
45 บรรดาคนเข้าสุหนัตที่เชื่อแล้วซึ่งมาพร้อมกับเปโตรต่างประหลาดใจ
เพราะว่าพระเจ้าประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่คนต่างชาติด้วย
46 เพราะเขาทั้งหลายได้ยินคนเหล่านั้นพูดภาษาต่างๆ และยกย่องสรรเสริญพระเจ้า
เปโตรจึงถามว่า 47 "ใครจะห้ามคนเหล่านี้ที่ได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์เหมือนเราจากการรับบัพติศมาด้วยน้ำ?"
48 เปโตรจึงสั่งให้เขาทั้งหลายรับบัพติศมาในพระนามของพระเยซูคริสต์
แล้วพวกเขาขอให้เปโตรพักอยู่กับพวกเขาอีกสักระยะหนึ่ง (กิจการ
10:44-48 THSV2011)
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่การพูดภาษาแปลก ๆ หรือการสรรเสริญ
แต่ทุกคนที่เชื่อพระเยซูคริสต์เจ้า มีพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่ในชีวิต
ผู้ใดที่สำนึกบาปอย่างแท้จริง และเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์จากใจจริง
ก็ได้บังเกิดใหม่แล้ว พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าก็อยู่ในชีวิตเขาแล้ว
พระคำตอนนี้เป็นสัญลักษณ์สำคัญ ที่ทำให้ชาวยิวเข้าใจ
คนที่ดูเหมือนว่ายังขาดตกบกพร่องนั้น พระเจ้าทรงสร้างขึ้นมาได้ และนี่คือหัวใจสำคัญ
พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าของเรา
และพระองค์ก็ทรงอยากเป็นพระเจ้าของคนมากมายในแผ่นดินไทย อยากสถิตกับเขาทุกคน
เพื่อเป็นเครื่องค้ำกันว่าเขาเหล่านั้นจะพ้นจากนรก
แต่ความต้องการของพระเจ้าจะเกิดขึ้นเมื่อเขาเหล่านั้นเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์
เขาจะเชื่อได้อย่างไร?
พระเจ้าต้องการใช้คนอย่างเปโตรที่จะออกไปพูดเรื่องราวของพระเยซูคริสต์
และคนอย่างเปโตรก็คือเราทุกคน พระเจ้าทรงเรียกเราทุกคนให้ออกไปประกาศข่าวประเสริฐ
แม่รู้จักช่วยลูก ลิงบางตัวก็ยังรู้จักช่วยเด็กที่กำลังจะตกจากที่สูง
แล้วจะมีคริสเตียนกี่คนที่จะออกไปช่วยคนบาปมากมายให้พ้นจากนรกและพบสวรรค์
ด้วยการประกาศเรื่องราวของพระเยซูคริสต์
พระเจ้าทรงอวยพรเรามากมายด้วยศักดิ์ศรีของโลก เพื่อเราจะรับใช้พระองค์
เพียงแค่เราจะพูดออกมา สิ่งนั้นจะนำการเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่มาสู่ชีวิตของคนมากมาย
สิ่งที่เขาเหล่านั้นจะได้รับก็จะเป็นเหมือนครอบครัวของโครเนลิอัส
ซึ่งพระวิญญาณของพระองค์จะทรงประทับอยู่กับเขาตลอดไป
เราเกิดมาเพื่อแผนการของพระเจ้า เพื่อฝันของพระองค์จะสำเร็จ อย่ารอให้หมดเรี่ยวแรง
แล้วค่อยคิดจะทำ นั่นจะสายเกินไปเสียแล้ว
อ.ขจร ธนังกูรวิโรจน์
คำแบ่งปันรายการเพื่อคุณ คริสตจักรสะพานเหลือง
เมื่อวันที่ 21/11/2010
เรื่อง จงฉวยโอกาส
สรุปโดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์
หมายเหตุ: ถ้าพี่น้องพบว่ามีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาด รบกวนช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ เพื่อจะได้รีบทำการแก้ไขครับ เนื่องจากอาจเกิดจากความผิดพลาดในการสรุปของผมเองครับ ขอบคุณครับ
ถ้าท่านอ่านแล้ว มีความปรารถนาที่จะเปิดใจออก
อธิษฐานทูลเชิญพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน และเป็นพระเจ้าของท่าน กรุณาไปที่หน้า คำอธิษฐาน
-
ถ้าคุณอ่านแล้วสนใจ กรุณาติดต่อคริสตจักรใกล้บ้านท่านได้เลยครับ
หรือถ้าหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ก็ติดต่อโดยตรงได้ที่อีเมลของผมเลยครับ
ton@followhissteps.com
|